เทียบ "วันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์" กับ 2 นปช.ในแผ่นดิน "กัมพูชา"

07 มิ.ย. 2563 | 08:56 น.

“เสริมสุข” เทียบการอยู่เป็น และอยู่ไม่เป็นของ 2 แกนนำนปช. "จักรภพ เพ็ญแข -กี้ร์ อริสมันต์ กับ "วันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์" ในแผ่นดิน "กัมพูชา"

จากกรณีที่มีการปลุกกระแสการหายตัวไปในลักษณะถูกอุ้ม ของ วันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งหลบหนีคดีในประเทศไทยไปอยู่ในกัมพูชา เทียบกับแกนนำนปช. 2 คน อย่างนายจักรภพ เพ็ญแข และนายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง ที่หลบหนีคดีไปอยู่ในกัมพูชาเช่นกัน

โดยเมื่อวันที่ 6 มิ.ย. 63 เฟซบุ๊ก "เพจข่าว เสริมสุข กษิติประดิษฐ์ - Sermsuk Kasitipradit" ของ นายเสริมสุข กษิติประดิษฐ์ หรือ “เป๊ปซี่” นักข่าวอาวุโส โพสต์ข้อความระบุว่า

“ความแตกต่างของการอยู่เป็นกับอยู่ไม่เป็น....ทั้ง จักรภพ เพ็ญแข และ กี้ร์ อริสมันต์ หลบซ่อนตัวในกัมพูชามายาวนาน ภายใต้เงื่อนไขที่ทาง กพช.แจ้งให้ทราบต้องยุติการเคลื่อนไหวทางการเมืองใน กพช.ทั้งหมด ผิดจากเงื่อนไขนี้ ขอไม่รับประกันความปลอดภัย หากอยู่เป็น อยู่เฉยๆ นิ่งๆ จะไม่มีการส่งตัวคืนให้ทางการไทยจากที่ถูกร้องขอ ต่างจาก “วันเฉลิม” เด็กน้อยที่อยู่ไม่เป็นขาดความรู้ความเข้าใจต่อการเมืองระหว่างประเทศไทย กพช. จนเกิดเหตุการณ์อุ้มหาย

ความสัมพันธ์ด้านความมั่นคงไทยกับสามประเทศอินโดจีน แนบแน่นหลัง คสช.เข้ามาบริหารประเทศ ต่อเนื่องยาวมาถึงรัฐบาลเลือกตั้งของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในช่วง คสช. ทางการ สปป.ลาว ให้ความร่วมมืออย่างดีเยี่ยมจากการร้องขอของฝ่ายไทย ต่อการเคลื่อนไหวที่กระทบความมั่นคงในฝั่งลาว จากกลุ่มแดงสยาม ของ นายสุรชัย แซ่ด่าน และ กลุ่มสหพันธรัฐไทย ลุงสนามหลวง ชูชีพ ชีวสุทธ์ ที่หายสาบสูญจากช่วงต้นปี 61 หลังทางการลาวเตือนให้ยุติการเคลื่อนไหวในฝั่งลาว ที่จะกระทบความสัมพันธ์กับรัฐบาลไทย แต่ นายสุรชัย และ ลุงสนามหลวง ยังเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องจนปฏิบัติการอุ้มหายจาก กกล.นิรนาม

ข่าวฟังว่า เป็นมือพิฆาตกลุ่มไซหลุนจากลุ่มน้ำแยงซีเกียง การอุ้มในฝั่งลาวหากทางการลาวไม่ไฟเขียวเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ยาก เมื่อว่ากล่าวตักเตือนแล้วไม่ฟัง ต้องรับผิดชอบตัวเองกับสิ่งที่เกิดขึ้น จนวันนี้ยังไม่มีใครพบตัวสองแกนนำล้มเจ้าแบ่งแยกดินแดน ส่งผลให้กลุ่มไฟเย็น 112 ที่อยู่ในลาวต้องขอหลบหนีต่อไปฝรั่งเศส หลังทางการลาวไม่ให้หลบลี้ภัยในฝั่งลาว เพราะไม่ต้องการให้กระทบความสัมพันธ์ที่มีกับไทย

กรณี วันเฉลิม เมื่ออยู่ไม่เป็น เลยเกิดกรณีอุ้มหายตามมา หากอยู่เป็นฟังคำตักเตือนของทางการ กพช. อย่าง กี้ร์ และ จักรภพ อาจไม่พบชะตากรรมอย่างที่เกิดขึ้น ใช้คอนโดที่พักในกรุงพนมเปญ เคลื่อนไหวปล่อยข่าวเฟกนิวส์ ผ่านเฟสอวตารหลายเฟส (ฝ่าย cyber IT ตรวจพบชื่ออวตารหลายเฟสที่ปล่อยข่าวเฟกนิวส์ มีที่มาเดียวกันกับนายวันเฉลิม) ถูกทางการพนมเปญตักเตือนหลายครั้งให้ยุติการกระทำลักษณะดังกล่าว

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

เป็นที่ทราบดี ผู้นำฮุนเซน ของ กพช.เคยประกาศห้ามการเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลไทยใน กพช. ซึ่งเป็นเหตุผลที่ไฟเย็น 112 เลือกที่จะไม่ไปปักหลักหลบซ่อนตัวต่อที่ กพช.

ปฏิบัติการอุ้มหายที่เกิดขึ้น ทำในช่วงพลบค่ำกลางกรุงพนมเปญ ต่อหน้าผู้คนจำนวนมาก หากไม่ได้ไฟเขียวจากเจ้าบ้านยากที่จะเกิดขึ้นได้ การออกมาปฏิเสธของโฆษก ตร.กพช. ไม่รู้เห็นต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ยืนยันว่า ไม่มีเหตุการณ์อุ้มหายอย่างที่รายงานในฝั่งไทย

ปฏิบัติการที่เกิดขึ้น เหมือนต้องการส่งสัญญาณเตือนบอกผ่านถึงกลุ่มคนที่คิดใช้ดินแดนในประเทศอินโดจีนเคลื่อนไหวจะประสบชะตากรรมเดียวกัน..กรณีลุงสนามหลวง หายสาบสูญในประเทศเวียดนาม ช่วงต้นปี 2561 หลังวางแผนไปเคลื่อนไหวต่อที่เวียดนาม อดีตนายทหารกองทัพอากาศที่เคลื่อนไหวใต้ดิน รวมถึงทำคลิปเฟกนิวส์กระจายออนไลน์เอาเด็กน้อยมานั่งเต้าข่าว มีรายงานว่า หายแว๊บตอนเดินทางหลบหนีเข้าเวียดนามเช่นกัน..RIP”