"ข้าวถุง"18ยี่ห้อลดสูงสุด 50%ช่วยประชาชนฝ่าวิกฤติโควิด-19
“จุรินทร์” นำพาณิชย์จับมือเอกชน ลดราคา”ข้าวถุง” ช่วยประชาชน รวดเดียว 18 ยี่ห้อ 104 รายการ ลดสูงสุดถึง 50 %
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เผยว่า กระทรวงพาณิชย์จับมือภาคเอกชนจัดทำ โครงการพาณิชย์ลดราคาข้าวช่วยประชาชน ซึ่งเป็นการลดราคาข้าวถุงช่วยประชาชน หลังจากที่ดำเนินการมาครั้งหนึ่งเมื่อวันที่ 16 เมษายน ที่ผ่านมาจากรอบแรกที่ลดราคาไปแล้ว 6ร ายการ
สำหรับการร่วมมือกับภาคเอกชนลดราคาข้าวถุงประกอบด้วยข้าว 7ชนิดรวม 18 ยี่ห้อ ทั้งหมด 104 รายการ ลดราคาสูงสุดถึง 50% จะลดตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2563 เป็นอย่างต่ำ เพราะจะมีบางรายการที่จะลดต่อเนื่องต่อไปอีกระยะหนึ่ง ซึ่งการลดราคาครั้งนี้จะช่วยแบ่งเบาภาระค่าครองชีพของประชาชนในช่วงกานแพร่ระบาดของโวรัสโควิด-19ได้ ประมาณ 20-25%
สำหรับภาคเอกชนผู้ผลิตและจำหน่ายข้าวบรรจุถุงที่มาร่วมลดราคากับกระทรวงพาณิชย์ในครั้งนี้ประกอบด้วย 18 ยี่ห้อ ประกอบด้วย 1.ข้าวตราฉัตร 2.ข้าวตรามาบุญครอง 3.ข้าวตราแสนดี 4.ข้าวตราพนมรุ้ง 5.ข้าวตราปิ่นเงิน 6.ข้าวตราหงษ์ทอง 7.ข้าวตราเบญจรงค์ 8.ข้าวตราบัวชมพู 9. ข้าวตราพันธุ์ดี 10.ข้าวตราดอกบัว ตงฮั้ว 11.ข้าวตราซันลี 12.ข้าวตราธรรม 13.ข้าวตราไก่แจ้ 14.ข้าวตราเอโร่ 15.ข้าวตรา Tesco 16.ข้าวตรา Big C 17. ข้าวตราท็อปส์/มายช้อยส์ และ 18. ข้าวตรา Home fresh mart
ทั้ง 18 แบรนด์ที่มาร่วมลดราคาข้าวสารถุงกับกระทรวงพาณิชย์ช่วยพี่น้องประชาชนในช่วงภาวะวิกฤติโควิด-19 เพื่อช่วยลดค่าครองชีพ นอกจากผู้ผลิตและจำหน่าย 18 ยี่ห้อแล้ว ยังมีห้างโมเดิร์นเทรดที่จะเป็นผู้จำหน่ายข้าวถุงที่มาร่วมลดราคาทั้งหมด 5 ห้างด้วยกันประกอบด้วย 1.บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ 2.สยามแม็คโคร 3.เทสโก้ โลตัส 4.ท็อปส์ มาร์เก็ต 5.เดอะมอลล์ ทั้งหมดมาร่วมเป็นจุดกระจายข้าวสารถุงที่มาร่วมโครงการพาณิชย์ จึงขอขอบคุณทั้ง 18 แบรนด์ข้าวสารถุงที่ได้กรุณามาร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ในวันนี้ ทั้งนี้เพื่อลดราคาข้าวสารถุงช่วยประชาชนในภาวะวิกฤติโควิด
"โครงการพาณิชย์ลดราคาช่วยประชาชน นอกเหนือจากกระทรวงพาณิชย์จะประสานลดราคาข้าว ถุงช่วยประชาชนแล้ว กรมการค้าภายในประสานงานจัดโครงการนี้อย่างต่อเนื่องซึ่งจะมีผลิตภัณฑ์สินค้าอุปโภค-บริโภคตัวอื่นเตรียมพาเหรดลดราคาเพิ่ม อีกเป็นล็อตที่ 2 เพื่อเป็นการช่วยดูแลประชาชนในช่วงภาวะวิกฤติโรคระบาดและเป็นการช่วยลดค่าครองชีพประชาชนอย่างถูกทางทั้งนี้มาตรการดังกล่าวจะลดค่าครองชีพประชาชนไปได้ถึง 20-25%”
