‘สารชีวภัณฑ์’ ผลประโยชน์ทับซ้อนโยงนักการเมือง จริงหรือไม่

16 พ.ย. 2562 | 06:24 น.

‘อลงกรณ์’ แฉ แบน 3 สารเคมีพิษ ยังไร้สารชีวภัณฑ์ทดแทนกำวัดวัชพืช ส่วนกำจัดศัตรูพืชขึ้นทะเบียนแล้ว 73 รายการ ดับข่าวลือไอ้โม่งรอเขมือบขายสารแทน โยงนักการเมืองอีสาน เผย 7 ปียังไม่มีการขึ้นทะเบียนเลย ลุ้นผลประชุม 22 พ.ย.ต้องมีทางออก

‘สารชีวภัณฑ์’ ผลประโยชน์ทับซ้อนโยงนักการเมือง จริงหรือไม่

นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์   เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า จากการรายงานของ   กรมวิชาการเกษตรรายงานต่อคณะทำงานพิจารณาแนวทางช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการยกเลิกใช้สารเคมีทางการเกษตร3ชนิดว่ายังไม่มีสารชีวภัณฑ์กำจัดวัชพืชที่ได้รับการรับรองจากกรมฯแม้แต่รายเดียว มีเพียงสารชีวภัณฑ์สุกำจัดศัตรูพืชซึ่งขึ้นทะเบียนแล้ว73รายการ แสดงว่า แม้มีการแบน3สารเคมีแต่ก็จะใช้สารเคมีตัวอื่นที่แพงกว่าแทน3สารซึ่งอธิบายต่อสังคมยากมากว่าทำไมแบน3สารเคมีแต่ก็ใช้สารเคมีชนิดอื่นแทน

‘สารชีวภัณฑ์’ ผลประโยชน์ทับซ้อนโยงนักการเมือง จริงหรือไม่

“กระทรวงเกษตรฯและทุกภาคส่วนจึงต้องเร่งหาสารชีวภัณฑ์มาทดแทนให้เร็วที่สุดเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรให้มีสารทางเลือกที่ราคาไม่แพงและใช้น้อยรอบเพื่อลดต้นทุนการปลูกพืชของเกษตรกรทั่วประเทศโดยเฉพาะต้องคำนึงถึงความปลอดภัยและสุจภาพของเกษตรกรผู้ใช้และผู้บริโภคเป็นสำคัญตามเหตุผลของคณะกรรมการวัตถุอันตราย”

‘สารชีวภัณฑ์’ ผลประโยชน์ทับซ้อนโยงนักการเมือง จริงหรือไม่

นายอลงกรณ์ กล่าวว่า ในเรื่องสารชีวภัณฑ์เป็นประเด็นอ่อนไหวมากมีบวกลบตลอด ผมไปที่สุพรรณบุรียังโดนวิจารณ์ซึ่งก็ชี้แจงไปแล้วจึงเข้าใจว่าอ่อนไหวมากแค่ไหนรวมทั้งมีการโยงไปถึงบริษัทผู้ผลิตกับตระกูลนักการเมืองใหญ่ในภาคอีสานเป็นประเด็นผลประโยชน์ทับซ้อนซึ่งถ้าพูดอย่างแฟร์คือถ้ามีอิทธิพลการเมืองเกี่ยวข้องจริงคงได้ขึ้นทะเบียนไปแล้วเพราะทดสอบใช้มานานถึง 7 ปีและแม้ว่าวันนี้จะขึ้นทะเบียนก็ต้องใช้เวลาทดสอบด้านพิษวิทยาและหลักเกณฑ์อื่นๆของกรมวิชาการเกษตรเป็นเวลานาน1-3ปี และคณะทำงานฯให้เปิดกว้างเต็มที่ในการขอขึ้นทะเบียนห้ามล็อคสเปคเป็นอันขาด

‘สารชีวภัณฑ์’ ผลประโยชน์ทับซ้อนโยงนักการเมือง จริงหรือไม่

สำคัญที่สุดคือการจัดการเรื่องนี้ต้องโปร่งใสไร้ผลประโยชน์ตามนโยบายของดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีเกษตรและสหกรณ์ ใครก็ตามคิดแสวงหาประโยชน์จากความเดือนร้อนของเกษตรกรไม่ได้โดยเด็ดขาด  อย่างไรก็ตามผมถามนักวิจัยอิสระและลุงสุรินทร์ว่าสารชีวภัณฑ์ที่บรรจุในขวดใช้จุลินทรีย์อะไร เขาบอกว่าจุลินทรีย์อนุพันธ์

‘สารชีวภัณฑ์’ ผลประโยชน์ทับซ้อนโยงนักการเมือง จริงหรือไม่

“ผมจึงบอกชาวไร่กับสื่อมวลชนที่ไปด้วยเมื่อมีการเอาขวดบรรจุสารชีวภัณฑ์มาให้ดูที่สุพรรณบุรีว่าสารชีวภัณฑ์นี้ขึ้นทะเบียนไม่ได้เพราะใช้จุลินทรีย์อนุพันธ์และห้ามโฆษณาถ้าไม่ได้ขึ้นทะเบียน แต่ถ้าเป็นชีวภัณฑ์ที่ติดป้ายว่ากำจัดศัตรูพืชและผ่านการรับรองจากกรมวิชาการเกษตรก็ไม่มีปัญหาในการขายหรือโฆษณ ส่วนการทดลองใช้มา7ปีของลุงสุรินทร์ชาวไร่อ้อยก็เป็นเรื่องดีแต่ต้องเข้าใจว่าถ้าจะทำให้ถูกต้องก็ต้องไปขึ้นทะเบียนกับกรมวิชาการเกษตรต่อไป”

‘สารชีวภัณฑ์’ ผลประโยชน์ทับซ้อนโยงนักการเมือง จริงหรือไม่

หลังกลับจากสุพรรณบุรีก็มีสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทยนำปราชญ์ชาวบ้านมาพบผมและเอาสารชีวภัณฑ์จุลินทรีย์เชิงเดี่ยวเรียกว่าจุลินทรีย์สังเคราะห์แสงมาให้ดูพร้อมรายงานการทดสอบซึ่งเป็นจุลินทรีย์เชิงเดี่ยวประเภทเดียวกับที่กรมพัฒนาที่ดินรายงานว่ากำลังวิจัยแต่ต้องใช้เวลา 3 ปีจึงจะสรุปผลได้

‘สารชีวภัณฑ์’ ผลประโยชน์ทับซ้อนโยงนักการเมือง จริงหรือไม่

นอกจากเรื่องสารทางเลือกทดแทน3สารอันตราย ทางคณะทำงานกำหนดแนวทางเบื้องต้นในการช่วยเหลือเกษตรกรหลายมาตรการเช่น การช่วยเหลือเรื่องต้นทุนการผลิต การใข้เครื่องจักรกลและเทคโนโลยีทันสมัยมาจัดการแปลงเพาะปลูก การส่งเสริมเกษตรอินทรีย์ เป็นต้นและจะสรุปเป็นมาตรการในการประขุมครั้งหน้าวันที่ 22 พ.ย.นี้   ก็ต้องช่วยกันทุกฝ่ายนะครับเพราะคณะกรรมการวัตถุอันตรายมีมติเมื่อ22ตุลาคมแบน3สารตั้งแต่1ธันวาคมนี้โดยทันที