แกะรอย“เฟสติวัล ฮอลิเดย์”  เทลูกทัวร์! กลางอากาศ

29 ต.ค. 2562 | 10:06 น.

“โทมัส คุก” ทัวร์เก่าแก่ของยุโรป ล้มครืนสะเทือนไปทั่วโลกไม่ทันไร วงการทัวร์ไทย สั่นสะเทือนอีกครั้งเมื่อ “โฮลเซล” รายใหญ่ Festival Holiday  ออกมาประกาศว่า บริษัทประสบปัญหาทางการเงินขาดสภาพคล่องในการประกอบกิจการ ทำให้ไม่สามารถให้บริการได้และประกาศยกเลิกการเดินทางทุกโปรแกรมตั้งแต่วันที่ 18-25 ตุลาคมที่ผ่านมา

ทัวร์เอาต์บาวด์ลุกเป็นไฟ

ทำเอาวงการทัวร์คนไทยเที่ยวต่างประเทศ (เอาต์บาวด์ทัวร์)ลุกเป็นไฟ เพราะมีทัวร์บางกรุ๊ปที่อยู่ระหว่างการเดินทางถูกลอยแพกลางอากาศ ไม่มีตั๋วเครื่องบินกลับเมืองไทย  เพราะค้างหนี้จนเอเยนต์ไม่ปล่อยตั๋วเครื่องบินให้นักท่องเที่ยว ต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้าโดยการลงขันของบริษัทนำเที่ยวเพื่อเอาลูกทัวร์กลับเมืองไทย

แกะรอย“เฟสติวัล ฮอลิเดย์”   เทลูกทัวร์! กลางอากาศ

 

ทั้งยังลามไปถึงกรุ๊ปทัวร์ที่มีแผนจะเดินทางไปท่องเที่ยว  หลายกรุ๊ปต้องยกเลิก หรือถ้าหากยังยืนยันการเดินทางก็ต้องจ่ายเงินเพิ่มเติม และจ่ายเป็นเงินสดเพื่อกันเหนียว พร้อมทั้งเปลี่ยนไปใช้บริการทัวร์รายใหม่

 70 บริษัทบาดเจ็บ

กูรูในวงการทัวร์ระบุว่า ปัญหานี้ที่เกิดขึ้นน่าจะมาจากการบริหารต้นทุนและการเงินที่ผิดพลาด เนื่องจากบริษัทดังกล่าว ทำธุรกิจในลักษณะ “โฮลเซล”  กล่าวคือวางโปรแกรมทัวร์ไว้แล้วส่งให้ “รีเทล” หรือบริษัททัวร์รายอื่น ๆ ช่วยกันขาย โดยมีผลตอบแทนเป็นส่วนต่างราคา ขายได้ก็จะส่งให้ “เฟสติวัล ฮอลิเดย์” ออกทัวร์อีกทอดหนึ่ง

ฉะนั้นเมื่อเกิดปัญหา “โฮลเซล” ไม่สามารถออกทัวร์ได้ รีเทลที่ขายทัวร์กับนักท่องเที่ยวโดยตรง จึงต้องเข้ามารับผิดชอบกับนักท่องเที่ยวอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นการขอเงินคืน กรณียกเลิกการเดินทาง หรือถ้าหากยังยืนยันการเดินทาง ก็ต้องจัดการให้นักท่องเที่ยวถึงจุดหมายปลายทางซึ่งถ้าหากเป็นบริษัททัวร์ขนาดเล็กสายป่านไม่ยาวพอ มีเงินหมุนเวียนไม่มากเมื่อเหตุไม่คาดหวังเช่นนี้อาจถึงขั้นปิดกิจการได้ในทันที

แกะรอย“เฟสติวัล ฮอลิเดย์”   เทลูกทัวร์! กลางอากาศ

จากการรวบรวมความเสียหายที่เกิดขึ้นพบว่ามีบริษัททัวร์ “รีเทล” ที่ได้รับผลกระทบจากกรณีของ “เฟสติวัล ฮอลิเดย์” รายเล็กถึงใหญ่เกือบ 70 บริษัท ความเสียหายร่วม 60-70 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางไปเที่ยวยุโรป  ซึ่งได้รับผลกระทบราว 2 พันคน

ถามว่าฟ้องร้องได้ไหม

สำหรับประเด็นของการฟ้องร้องเพื่อหาผู้รับผิดชอบต่อเรื่องนี้ค่อนข้างยากเนื่องจากผลกระทบที่เกิดขึ้นเป็นไปในลักษณะ “บีทูบี” คือระหว่างบริษัทนำเที่ยว(รีเทล)กับโฮลเซล ที่ต้องไปไล่บี้กันเอาเอง แต่สำหรับลูกค้ากับบริษัททัวร์ นักท่องเที่ยวที่ได้รับความเสียหายสามารถเรียกร้องจากบริษันำเที่ยวที่ตนซื้อทัวร์ไว้ได้ และบริษัทก็ต้องรับผิดชอบอย่างเต็มที่ จากนั้นบริษัททัวร์ ถึงจะไปไล่บี้กับโฮลเซล ต่อเอาเอง

เงินหายไปไหน

ต่อคำถามที่ว่า แล้วเงินหายไปไหน ?  กูรูในวงการตั้งข้อสังเกตว่า กรณีนี้น่าจะเกิดจากการบริหารการเงินที่ผิดพลาด ทำให้ขาดสภาพคล่อง เพราะก่อนหน้านั้นฝ่ายบริหารบอกว่าได้รับผลกระทบจากการชุมนุมประท้วงที่ฝรั่งเศส ทำให้ขาดทุนจำนวนมากและต้องใช้วิธีการหมุนเงินหรือกู้หนี้ยืมสินเมื่อทับถมกันมากเข้าก็ไม่ต่างจากดินพอกหางหมู

แกะรอย“เฟสติวัล ฮอลิเดย์”   เทลูกทัวร์! กลางอากาศ

เมื่อสะดุดหมุนเงินไม่ทัน จึงขาดสภาพคล่องกะทันหัน แต่บางกระแสก็มองว่าน่าจะบริหารเงินผิดวิธี ใช้เงินผิดประเภท ทำให้เงินขาดมือถึงขั้นออกทัวร์ไม่ได้  ติดค้าง ซัพพลายในต่างประเทศ จนถึงขั้นตัดสัมพันธ์ยุติการให้บริการต้องนำเงินสดไปจ่ายล่วงหน้า ไว้ว่าจะเป็นค่าโรงแรม ตั๋วเครื่องบิน ค่าบริการทัวร์ภาคพื้น เพราะหมดเครดิต

สำหรับที่มา บริษัทเฟสติวัล ฮอลิเดย์ จำกัด  เป็นบริษัทนำเที่ยวที่ตั้งตัวเป็น “โฮลเซล” มีทุนจดทะเบียน 3 ล้านบาทก่อตั้งเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2560 มีนายคมสัน ประสมศรี เป็นกรรมการผู้จัดการ งบดุลปี 2560 พบว่ามีรายได้ 6,111,920  บาท ขาดทุน 433,392 บาท ปี 2561 มีรายได้ 17,249,448 กำไร 167,504 บาท

อย่างไรก็ดี เชื่อว่ากรณีของ “เฟสติวัล  ฮอลิเดย์” คงไม่ถึงกับทำให้วงการทัวร์เอาต์บาวด์ปีละกว่า 10 ล้านคนที่กำลังเบ่งบานต้องมาสะดุดลงแต่คงจะทำให้นักท่องเที่ยวและเอเยนต์เพิ่มความระมัดระวังในการทำธุรกิจมากยิ่งขึ้น ส่วนเงินที่เสียไปคงยากที่จะได้คืนฟันธง !!!

คอลัมน์: ตื้น-ลึก-หนา-บาง

โดย     :  เรดไลอ้อน