คลังเอาจริง! สั่งปิดแอพถุงเงินกว่า 10 ราย

11 ต.ค. 2562 | 08:05 น.

คลังขอความร่วมมือ ห้างโมเดิร์นเทรด-ร้านสะดวกซื้อ งดแจกคูปอง บัตรคิว ส่งเสริมการขายทุกประเภท หวังผลักคนใช้จ่ายท่องเที่ยวมากขึ้น หากพบอีก ปิดแอพถุงเงินทันที เผย สั่งปิดแอพของร้านค้าทำผิด หลังให้ปชช.แลกเงินสดแล้วกว่า 10 ราย ด้านปชช.ที่แลกเงินกลับไป ถูกแบล็คลิสเฟส 2 แน่

นายชาญกฤช เดชวิทักษ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี (ปฎิบัติงานกระทรวงการคลัง) เปิดเผยภายหลังหารือกับห้างโมเดิร์นเทรดและร้านสะดวกซื้อ ประกอบด้วย บิ๊กซี ซุปเปอร์เซ็นเตอร์ เทสโก้ โลตัส ท็อปส์ มาร์เก็ต เซเว่น อีเลฟเว่น พาวเวอร์บาย และอื่นๆ ว่า ได้ขอความร่วมมือให้ผู้ประกอบการห้างโมเดิร์นเทรดและร้านสะดวกซื้อให้ยกเลิกการทำโปรโมชั่นส่งเสริมการขาย อาทิ

คลังเอาจริง! สั่งปิดแอพถุงเงินกว่า 10 ราย

การแจกคูปองเงินส่วนเพิ่มเติมจาก 1,000 บาท ที่ประชาชนได้รับจากโครงการชิมช้อปใช้ การแจกบัตรคิวเพื่อสินค้าในแต่ละวัน หรือการลดแลกแจกแถมต่างๆ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมในการใช้จ่ายเงินของประชาชน และให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของกระทรวงการคลัง ที่ต้องการให้ประชาชนนำเงินดังกล่าวไปใช้เพื่อการท่องเที่ยวและกระจายรายได้สู่ชุมชนเป็นหลัก 

ดังนั้นหากหลังจากนี้ไป ยังพบห้างโมเดิร์นเทรดและร้านสะดวกซื้อรายใด ทำโปรโมชั่นส่งเสริมการขายดังกล่าวอยู่ จะถูกปิดแอพพลิเคชั่นถุงเงิน เพื่อระงับการจ่ายเงินชิมช้อปใช้ที่ประชาชนใช้ซื้อสินค้าไปยังร้านค้าทันที ขณะเดียวกันยังจะถูกยกเลิกสิทธิ์การเข้าร่วมโครงการ พร้อมทั้งขึ้นบัญชีดำห้ามเข้าร่วมโครงการต่างๆ ในอนาคตด้วย ซึ่งจากการหารือผู้ประกอบการดังกล่าวก็มีความเข้าใจและพร้อมร่วมมืออย่างเต็มที่

ทั้งนี้ในปัจจุบันกรมบัญชีกลางได้มีการตรวจสอบและพบร้านค้ารายย่อยที่กระทำผิดวัตถุประสงค์ของโครงการ ด้วยการรับสแกนเงินในแอพพลิเคชั่นเป๋าตังของประชาชนที่ได้รับสิทธิ์จำนวน 1,000 บาท แต่ประชาชนจะได้รับเงินสดกลับไป 800-900 บาท โดยมีการหักหัวคิวไว้แล้วจำนวนกว่า 10 ราย ซึ่งตรวจพบในเขตกรุงเทพและปริมณฑลทั้งหมด โดยผู้ประกอบการเหล่านี้ได้ถูกปิดระบบแอพพลิเคชั่นเป๋าตังเรียบร้อยแล้ว 

คลังเอาจริง! สั่งปิดแอพถุงเงินกว่า 10 ราย

“ร้านค้าเราจัดการไปแล้ว ปิดแอพถุงเงิน ค่าเสียหายที่เค้าจ่ายไปให้ประชาชน เขาก็ต้องรับผิดชอบเอง เพราะเขาทำผิดวัตถุประสงค์ ซึ่งกระทรวงการคลังและกรมบัญชีกลางจะสุ่มตรวจร้านค้าเหล่านี้ทั่วประเทศ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก โดยในสัปดาห์จะไปสุ่มตรวจที่ภาคอีสานก่อน”นายชาญกฤช กล่าว

ขณะที่ประชาชนที่แลกรับเงินสดออกไปที่ขณะนี้มีประมาณ 100 รายนั้น ทางกรมบัญชีกลางได้มีข้อมูลอยู่แล้ว ดังนั้นในอนาคตกลุ่มคนเหล่านี้จะถูกแบล็คลิสรายชื่อไว้ เพื่อไม่ให้มีสิทธิ์ในการลงทะเบียนชิมช้อปใช้เฟส 2 อีก 

สำหรับการใช้จ่ายผ่านกระเป๋า 1 ในโครงการชิมช้อปใช้ปัจจุบันนั้น มีการใช้จ่ายแล้ว 5,060 ล้านบาท โดยในจำนวนนี้เป็นการใช้เพื่อซื้อสินค้าจากห้างโมเดิร์นเทรดและร้านสะดวกซื้อประมาณ 18% ซึ่งลดลงจากช่วงแรกที่มีปริมาณการซื้อถึง 22%