สายสีชมพู  ดึงบิ๊กเนม ชิงไข่แดง  ที่ดินเมืองทอง

รถไฟฟ้าสายสีชมพูดันที่ดินเมืองทองระอุบิ๊กเนมกวาดเรียบขึ้นโครงการบ้าน-คอนโดฯ หรูระดับ 10-20 ล้าน ค่ายแอล.พี.เอ็น. คว้าสนามซ้อมฟุตบอลสยามสปอร์ต 26 ไร่ มูลค่าเฉียด 1,000 ล้าน หลัง ค่ายเมเจอร์ ช็อปซากตึกร้าง-แสนสิริซื้อตลาดสวนมะลิ ค่ายพฤกษา ได้ที่แปลงงาม 170 ไร่ ด้าน บีแลนด์ ปัดฝุ่นแลนด์แบงก์ 600 ไร่ริมทะเลสาบ ขึ้นมิกซ์ยูส

ที่ดินกว่า 4,000 ไร่เมืองทองธานีกลายเป็นจุดสนใจของดีเวลอปเปอร์โดยเฉพาะเวิ้งชาเลนเจอร์ที่กลายเป็นจุดขายดึงคนเข้าพื้นที่จากเมืองร้างไม่มีคนอยู่อาศัยห่างไกลความเจริญปัจจุบันกลายเป็นเมืองแห่งสีสันครบวงจรทั้งศูนย์กลางการแสดงที่อยู่อาศัย แหล่งงาน หน่วยงานราชการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติซื้อที่ดินสร้างแฟลตตำรวจหลายร้อยหน่วย กรมที่ดินได้ที่ดินตั้งศูนย์ฝึกอบรม สำนักงานที่ดิน สถาบันการศึกษามหาวิทยาลัยศิลปากร อินเตอร์ ขณะก่อนหน้านี้ธนาคารกสิกรไทย ซื้อซากตึกพัฒนาเป็นสำนักแจ้งวัฒนะเมืองทองธานีได้รางวัลอาคารเขียวระดับแพลทินัม

เมื่อรถไฟฟ้าสายสีชมพู (ช่วง แคราย-มีนบุรี) พาดผ่านบนถนนแจ้งวัฒนะยิ่งเพิ่มความคึกคักให้ทำเลนี้ สำรวจพบพื้นที่โดยรอบเต็มไปด้วยคอนโดมิเนียมบิ๊กแบรนด์

ที่เป็นไฮไลต์ คือการลากส่วนต่อขยายสายสีชมพู จากสถานีศรีรัช เข้าใจกลางเมืองทองธานี จำนวน 2 สถานี (ศรีรัช-เมืองทอง) ระยะทาง 2.8 กิโลเมตร สถานีแรกไปที่ด้านหน้าชาเลนเจอร์สนามกีฬาเมืองทอง อีกสถานีไปหยุดที่บริเวณทะเลสาบ ล่าสุดบีทีเอสกรุ๊ปรอผ่านอีไอเอ หรือการทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม ขณะเจ้าถิ่นบริษัท บางกอกแลนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ บีแลนด์ ปัดฝุ่นที่ดินแปลงใหญ่ 600 ไร่ เตรียมปักหมุดมิกซ์ยูสหรู มูลค่า 6,000 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม การตัดขายที่ดินให้กับเพื่อนดีเวลอปเปอร์ พัฒนาเมืองย่อมๆภายในเมืองทอง สร้างความได้เปรียบให้ค่ายบีแลนด์ประสบความสำเร็จในการสร้างเมือง ดึงคนเข้าพื้นที่ได้เร็ว โดยอาศัยแขนขาของนักลงทุนรายอื่นเป็นตัวช่วย

นายโอภาส ศรีพยัคฆ์  ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บมจ.แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ (LPN) เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า จากศักยภาพของเมืองทองธานีปัจจุบันกลายเป็นศูนย์การแสดงต่างๆ จึงเชิญชวนให้คนเข้าพื้นที่อย่างไม่ขาดสาย นอกจากนี้ยังมีรถไฟฟ้าสายสีชมพู เกิดขึ้นบนถนนแจ้งวัฒนะ และมีส่วนต่อขยายเข้าภายในเมืองทองธานี บริษัทจึงสนใจซื้อที่ดินบริเวณสนามฝึกซ้อมฟุตบอลของ บริษัทสยามสปอร์ตฯ 26 ไร่ ใกล้กับ อาคารชาเลนเจอร์ฮอลล์ และสถานีรถไฟฟ้าสายสีชมพูที่เชื่อมเข้ามา โดยมีแผนพัฒนาเป็นบ้านเดี่ยวระดับพรีเมียม โครงการ บ้าน 365 ราคาตั้งแต่ 9-20 ล้านบาทต่อหน่วย จำนวน เกือบ 200 หน่วย มูลค่า 1,890 ล้านบาท รองรับกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งเป็นนักธุรกิจ กลุ่มราชการ ในย่านดังกล่าว

สำหรับราคาที่ดิน ถือว่าราคาไม่แพง ไม่ถึง 1 แสนบาทต่อตารางวา สำหรับที่ดินในเมืองทอง ที่ดินส่วนใหญ่เป็นของ บีแลนด์ และทยอยแบ่งขายให้กับนักลงทุนทั่วไป ซึ่งหลายรายนำมาขายต่อ ขณะบริษัทพัฒนาที่ดินรายอื่นก็เข้ามาซื้อพัฒนา เพราะบางแปลง หลังจาก บีแลนด์ขายแล้วแต่ติดปัญหาเป็นหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ถูกสถาบันการเงินยึด จึงสามารถช้อนซื้อได้ในราคาถูก เช่น ค่ายพฤกษา สร้างผลกำไรที่ดี ขณะ ค่ายเมเจอร์ ซื้อซากตึกร้าง พัฒนาเป็นคอนโดมิเนียม

สำหรับราคาที่ดิน ขยับไปไกล ติดถนนแจ้งวัฒนะ ราคา 3 แสนบาทต่อตารางวา ส่วนภายในเมืองทองธานี ราคา 1 แสนบาทต่อตารางวา

นอกจาก ค่ายแอล.พี.เอ็น., พฤกษาแล้ว แหล่งข่าวจากแวดวงอสังหาริมทรัพย์เสริมว่าที่ผ่านมา ค่ายแสนสิริ ได้ซื้อตลาดมะลิ ภายในเมืองทองธานี เพื่อพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม คาดว่าน่าจะร่วมลงทุนกับ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ปฯ เนื่องจากจะมีการลากรถไฟฟ้าเข้าไป ขณะที่บางกระแสบอกว่า ซื้อที่ดินต่อจากค่ายเอสซีจีและสยามสปอร์ต

นายเลิศมงคล วราเวณุชย์ นายกสมาคมการค้าอสังหาริมทรัพย์ นนทบุรี กล่าวว่า เมือง ทองธานี มีความเคลื่อนไหวตลอดเวลา จากกิจกรรมที่มีต่อเนื่อง ขณะผู้ประกอบการต่างมองหาที่ดินราคาไม่แพง เข้าพัฒนารองรับความต้องการที่อยู่อาศัย ประกอบกับกลุ่มบีทีเอส เดินรถไฟฟ้าสายสีชมพูเข้าเมืองทอง โดยเฉพาะทำเลใกล้กับสนามฟุตบอลเอสซีจีเมืองทอง จะมีสถานีรถไฟฟ้าสนามฟุตบอลเอสซีจีเมืองทอง ราคาที่ดินบริเวณนี้ไม่ตํ่ากว่า 1 แสนบาทต่อตารางวา ขณะเจ้าของเมืองทองเองประกาศพัฒนาสวนน้ำ ห้างอิเกีย รวมทั้งปรับปรุงและพัฒนาโรงแรมใหม่ ล่าสุดมีการสร้างสกายวอล์กจากโรงแรมไอบิสยาวไปถึงหน้าสนามฟุตบอล รองรับรถไฟฟ้าและการเดินทางของคนที่อยู่ในพื้นที่

หน้า 25-26 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,513 วันที่ 13-16 ตุลาคม 2562