รวบแล้ว! มือโพสต์ Fake news

08 ต.ค. 2562 | 04:11 น.

ด้วยปัจจุบันประชาชนสามารถเข้าถึงข่าวสารได้รวดเร็วผ่านสื่อออนไลน์ช่องทางต่างๆ มีทั้งข้อมูล     ที่เป็นประโยชน์ และข้อมูลที่มีเนื้อหาไม่เหมาะสมส่งผลกระทบต่อสภาพเศรษฐกิจ สังคม ศีลธรรม วัฒนธรรมและ ประเพณี และมีความขัดแย้งต่อกฎหมายและกฎระเบียบของประเทศไทยในหลายกรณี ไม่ว่าจะเป็นกฎหมายว่า ด้วยการกระท าความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ กฎหมายหมิ่นประมาท กฎหมายทรัพย์สินทางปัญญา เป็นต้น    

นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม  จึงได้มอบหมายให้ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ดำเนินการสืบสวนปราบปรามผู้ที่เผยแพร่เนื้อหาไม่เหมาะสม ผู้ร่วมขบวนการ บนสื่อออนไลน์และเว็บไซต์ที่มีความเกี่ยวข้อง  


เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2562 ภายใต้การอำนวยการของ น.อ.สมศักดิ์ ขาวสุวรรณ์ รองปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม , พล.ต.ต.ไพบูลย์ น้อยหุ่น ผบก.ปอท. , พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รอง ผบก.ปอท. มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ดำเนินการ “ปฏิบัติการปราบปรามเนื้อหาไม่เหมาะสม” ได้ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหา จำนวน 1 ราย ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญาที่ 1520/2562 ลงวันที่ 7 ตุลาคม 2562  ได้ที่     ซอยอารีย์สัมพันธ์ 3        แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กทม.

รวบแล้ว! มือโพสต์ Fake news
 

พฤติการณ์ในการคดี  ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีผู้ไม่หวังดีได้ก่อกระแสข้อความบนสื่อสังคมออนไลน์ (Hashtag) ที่ไม่เหมาะสม ทำให้ผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีนี้โพสต์ข้อความเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมผ่านเฟซบุ๊ก และสร้างความเกลียดชัง ซึ่งข้อความที่โพสต์ดังกล่าวมีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นประมาณร้อยข้อความและแชร์ข้อความประมาณ 50 ครั้ง จนอาจทำให้พี่น้องประชาชนรู้สึกไม่ค่อยพอใจ

ดังนั้น รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม จึงได้สั่งการให้ บก.ปอท. ดำเนินการสืบสวนจนแน่ชัด จนนำไปสู่การยื่นคำร้องขอหมายจับของศาลอาญา ในข้อหาตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 14(3) “นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆอันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรฯ” ซึ่งมีอัตราโทษสูงสุด จำคุก 5 ปี ปรับ 100,000 บาท จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การภาคเสธ 
 

สำหรับผู้ใดเผยแพร่หรือส่งต่อ (Share) ข้อความดังกล่าว จะมีความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14(5) อัตราโทษสูงสุด จำคุก 5 ปี ปรับ 100,000 บาท ด้วยเช่นกัน 

กรณีที่ประชาชนตรวจพบเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมบนสื่อสังคมออนไลน์หรือเว็บไซต์ ท่านสามารถรายงานปิดกั้นเบื้องต้นตามช่องทางของสื่อสังคมออนไลน์แต่ละประเภท หรือแจ้งมายังกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หมายเลขโทรศัพท์ 0 2142 2556 และ 0 2142 2557 หรือทางเว็บไซต์ tcsd.go.th เพื่อดำเนินการปิดกั้น ระงับ ยับยั้งตามช่องทางของกฎหมาย และสืบสวนจับกุมผู้นำเข้าเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมต่อไป 

                                                                                 รวบแล้ว! มือโพสต์ Fake news