พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ รัฐบุรุษคู่แผ่นดิน

26 ก.ย. 2562 | 07:05 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

คอลัมน์ข้าพระบาท ทาสประชาชน ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3508 หน้า 6 ระหว่างวันที่ 26-28 ก.ย.2562 โดย... ประพันธุ์ คูณมี 
 

พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ รัฐบุรุษคู่แผ่นดิน
 

          วันนี้ขอพูดเรื่องดีดี ของบุคคลที่เป็นคนดีของแผ่นดิน ซึ่งหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ร่วมกับซีเอ็ดบุ๊คได้ร่วมกันจัดพิมพ์ นั่นคือหนังสือ "พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ รัฐบุรุษคู่แผ่นดิน" ที่มาของการจัดพิมพ์หนังสือเล่มนี้ ผู้เขียนเป็นผู้หนึ่งที่มีส่วนเกี่ยวข้องและได้เขียนบทกล่าวนำในการจัดพิมพ์ไว้ด้วย จึงขอใช้หน้าบทความนี้เรียนท่านผู้อ่านเพื่อทราบดังนี้ครับ
          "เมื่อข้าพเจ้าได้ทราบข่าวการถึงแก่อสัญกรรมของ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ความรู้สึกในเบื้องแรกที่บังเกิดขึ้นในทันทีก็คือ ความเศร้าโศกเสียใจและอาลัยเป็นอย่างยิ่ง แม้ว่าจะมิได้มีความสัมพันธ์ในทางสายเลือด แต่ในจิตใจของข้าพเจ้ารู้สึกประหนึ่งว่าได้สูญเสียญาติผู้ใหญ่ อันเป็นที่เคารพนับถืออย่างยิ่งไปด้วยความอาลัย ในชีวิตทางการเมืองของข้าพเจ้าแม้จะผ่านการต่อสู้มามากมาย ทั้งการเมืองที่หลั่งเลือดหรือไม่หลั่งเลือด นั่นคือเคยเข้าร่วมสงครามประชาชน ต่อสู้กับรัฐบาลในยุคสมัยที่ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ เป็นแม่ทัพภาคที่ 2 เมื่อสงครามประชาชนยุติลง ด้วยประกาศคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 66/2523 ในยุคสมัยที่พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ เป็นนายกรัฐมนตรี ข้าพเจ้าก็ได้กลับสู่เมือง หันมาใช้ชีวิตตามปกติและก้าวสู่การเมืองที่ไม่หลั่งเลือด คือระบอบประชาธิปไตย ที่มีการเลือกตั้งของประชาชน
          ปี พ.ศ.2524 ข้าพเจ้าได้รู้จักและได้สัมผัสกับชื่อเสียง ผลการทำงานของนายทหารอดีตแม่ทัพภาค 2 ซึ่งเคยบัญชาการสู้รบกับนักรบประชาชนในภาคอีสาน เขตพื้นที่กองทัพภาค 2 ซึ่งต่อมาได้ผันตนเองมาเป็นนายกรัฐมนตรี โดยมิได้มาจากการปฏิวัติรัฐประหาร แต่ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ด้วยความเห็นพ้องและการสนับสนุนจากพรรคการเมืองร่วมรัฐบาลขณะนั้น นับแต่บัดนั้นเป็นต้นมา ความรู้สึกที่ชื่นชมและประทับใจในผลงาน ความรู้ความสามารถ ในการบริหารบ้านเมืองและการจัดการกับปัญหาวิกฤติต่างๆของประเทศ ในแต่ละเรื่องที่สำคัญ อาทิ การจัดการกับปัญหาวิกฤติทางเศรษฐกิจ และด้านพลังงาน, การจัดการกับปัญหาความมั่นคงภายในประเทศ อันเนื่องจากปัญหาลัทธิคอมมิวนิสต์และสงครามภายในประเทศ รวมถึงปัญหาขบวนการแบ่งแยกดินแดนทางภาคใต้,การรับมือและจัดการกับปัญหาภัยคุกคามจากต่างประเทศ ขณะสถานการณ์ในประเทศอินโดจีน ตกอยู่ภายใต้การปกครองของลัทธิคอมมิวนิสต์ โดยกองทัพเวียตนามที่มีกำลังพลนับแสน รุกประชิดชายแดนไทย ซึ่งล้วนเป็นปัญหาวิกฤติของชาติทั้งสิ้น แต่พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ในฐานะนายกรัฐมนตรี ก็สามารถแก้ไขวิกฤติ นำพาชาติบ้านเมืองฝ่าฟันให้รอดพ้นมาได้ เป็นความชื่นชมที่ประทับใจอยู่ในความรู้สึกของข้าพเจ้าตลอดมา

พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ รัฐบุรุษคู่แผ่นดิน

          ไม่เพียงเท่านั้น ในการแก้ไขปัญหาภายในประเทศ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และการบริหารราชการแผ่นดิน การปราบปรามการทุจริตและคอรัปชั่น ท่านก็สามารถจัดการและแก้ไขได้ดี ทำให้บ้านเมืองมีความเจริญมั่นคง โชติช่วงชัชวาล จนฐานะการเงินการคลังของประเทศดีขึ้น โดยลำดับ ประเทศสามารถหลุดพ้นจากภาระการเป็นหนี้สินแก่กองทุนการเงินต่างประเทศ ด้วยผลงานอันยิ่งใหญ่ของนายกรัฐมนตรีที่ชื่อ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ดังกล่าว ทำให้ข้าพเจ้ามีความเคารพนับถือและชื่นชม ในความเป็นผู้นำประเทศของท่านเป็นอย่างยิ่ง เมื่อข้าพเจ้าได้มีโอกาส เข้าพบและกราบคารวะท่านที่บ้านสี่เสาเทเวศ รวมถึงมีโอกาสทำงานรับใช้ท่านในบางเรื่อง ก่อนที่ท่านจะถึงแก่อสัญกรรม ก็ยิ่งทำให้ข้าพเจ้ามีความเคารพศรัทธาต่อท่าน อย่างยากที่จะหาผู้นำคนใดเทียบได้ในยุคสมัยปัจจุบัน ข้าพเจ้ากล่าวได้อย่างหมดหัวใจว่า พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ เป็นผู้นำประเทศคนหนึ่งที่ข้าพเจ้าสามารถกราบไหว้แทบเท้าได้โดยสนิทใจ ท่านคือรัฐบุรุษและผู้นำประเทศที่ยิ่งใหญ่โดยแท้จริง เป็นคนไทย 5 แผ่นดิน ที่ควรแก่การเคารพบูชานับถืออย่างยิ่ง เป็นผู้มีประวัติชีวิตทั้งด้านราชการและการเมืองที่ยิ่งใหญ่และมีเกียรติ ควรแก่การยกย่องนับถือให้เป็น"รัฐบุรุษคู่แผ่นดิน"
          เมื่อวาระที่ท่านได้ถึงแก่อสัญกรรม คงไม่มีสิ่งใดที่ข้าพเจ้าจะกระทำได้เพื่อแสดงออกถึงความคารวะอาลัยต่อการจากไปของท่าน เพราะไม่มีสิ่งใดที่จะเพียงพอในการตอบแทนคุณงามความดีของท่านที่ได้กระทำไว้แก่แผ่นดิน สิ่งหนึ่งที่ข้าพเจ้าพอจะทำได้และควรจะกระทำอย่างยิ่งก็คือ บอกแก่คนทั้งแผ่นดินให้ทราบและระลึกถึงคุณงามความดีของท่าน ให้คงอยู่ในความทรงจำของคนไทยทุกคน ตราบนานเท่านาน
          ด้วยเหตุนี้ ข้าพเจ้าจึงได้ขออนุญาตกราบเรียนต่อ นาวาอากาศตรี ประสงค์ สุ่นศิริ ในฐานะที่ท่านเป็นอดีตเลขาธิการนายกรัฐมนตรี พลเอกเปรม ติณสูลานนท์  ผู้เปรียบเสมือนเลขาคู่บารมีที่ร่วมทำงานเคียงข้างในยามวิกฤติชาติ ซึ่งเป็นผู้เขียนบันทึกเรื่องราวการทำงาน ในการปฏิบัติภารกิจเพื่อราชการบ้านเมือง ในขณะที่พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี มาจัดพิมพ์เป็นหนังสือและรูปเล่มดังที่ปรากฏนี้ โดยให้ชื่อเรื่องว่า"พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ รัฐบุรุษคู่แผ่นดิน" ด้วยความเห็นพ้องของผู้เขียนและสอดคล้องกับเนื้อหาเรื่องราวที่ผู้เขียนได้บันทึกไว้ ทั้งนี้ด้วยจิตเจตนาที่ต้องการให้หนังสือเล่มนี้ เป็นบันทึกเรื่องราวการทำงานของพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ที่ได้มอบไว้ให้แก่แผ่นดิน ที่ประชาชนไทยและอนุชนรุ่นหลัง จะได้ศึกษารำลึกเป็นบทเรียน เพื่อการก้าวเดินสู่นาคตที่ดีของบ้านเมือง โดยรายได้ก็จะนำเข้าสมทบกองทุนการกุศลของพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ต่อไป
          การจัดพิมพ์หนังสือเล่มนี้ สำเร็จลุล่วงด้วยดีได้ ก็ด้วยความอนุเคราะห์ต้นฉบับจาก นาวาอากาศตรี ประสงค์ สุ่นศิริ และทีมงานกอง บก.หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ โดยคุณบากบั่น บุญเลิศและเพื่อน ที่ได้รวบรวมเนื้อหาในภาคหลังพ้นตำแหน่งนายกรัฐมนตรี มาเพิ่มเติมให้หนังสือมีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น

          ข้าพเจ้าหวังว่า หนังสือเล่มนี้ คงจะเป็นประโยชน์แก่ผู้อ่าน ประชาชนและอนุชนรุ่นหลัง และผู้มีอำนาจปกครองบ้านเมือง สมดังเจตนารมณ์ของคณะผู้จัดพิมพ์ และเป็นบันทึกแห่งประวัติศาสตร์ที่มีคุณค่า อันจะจารึกอยู่ในความทรงจำของประชาชนไทย ตราบเท่านิรันดร์"
          นี่คือเนื้อหาบางส่วนของบทกล่าวนำ ที่ผู้เขียนได้เขียนบันทึกไว้ในหนังสือเล่มดังกล่าว เนื้อหาสาระของหนังสือที่มีความหนาถึง 400หน้า มีความครบถ้วนสมบูรณ์ด้วยเนื้อหา และภาพสำคัญทางประวัติศาสตร์
          หนังสือเล่มนี้จะเปิดตัวและวางจำหน่ายปลายเดือนกันยายนนี้ ที่ร้านซีเอ็ดบุ๊คทุกสาขา และร้านหนังสือชั้นนำ โดยเฉพาะในช่วงงานสัปดาห์หนังสือ มหกรรมหนังสือระดับชาติครั้งที่ 24 วันที่ 2-13 ตุลาคม 2562 ที่ชาเลนเจอร์ 2 อิมแพคเมืองทองธานี ท่านนักอ่านทั้งหลายหาซื้อได้ ทั้งยังจะได้มีโอกาสพบกับผู้เขียนและผู้จัดพิมพ์หนังสือดังกล่าวได้ในงาน โดยติดตามจากการประชาสัมพันธ์ ที่จะแจ้งแก่ผู้อ่านคอหนังสือต่อไป
          สำคัญที่สุด นอกจากท่านผู้อ่านทั้งหลายจะได้ร่วมกันจารึกความดีของพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ รัฐบุรุษคู่แผ่นดิน ไว้ในแผ่นดินไทยร่วมกันแล้ว พวกเรายังจะได้ร่วมกันสร้างกุศลแก่คนไทยร่วมแผ่นดิน ช่วยเหลือคนยากจนผู้ที่ตกทุขก์ได้ยากทั้งหลาย ให้ได้มีโอกาสและขีวิตที่ดีขึ้นตามจิตเจตนาอีกด้วย จึงขอเชิญชวนพี่น้องชาวไทย ร่วมรำลึกคารวะอาลัยต่ออสัญกรรมของพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ด้วยหนังสือที่ทรงคุณค่าเล่มนี้ครับ