‘ซีพี’ขี่แพะไล่รัฐบาล ‘สัญญารถไฟฟ้า’แสลงใจดำ

25 ก.ย. 2562 | 07:15 น.

คอลัมน์ข่าวห้ามเขียน ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3508 หน้า 20 ระหว่างวันที่ 26-28 ก.ย.2562 โดย... พรานบุญ 

‘ซีพี’ขี่แพะไล่รัฐบาล‘สัญญารถไฟฟ้า’แสลงใจดำ


          เสียงฉิ่ง ฉับ กลับ ฆ้อง เพลงโบว์แดงแสลงใจดำ ดังลั่นสนั่นป่าคอนกรีต เคล้าคลอเสียงหวูดๆ วาวๆ จากรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ขบวนประวัติศาสตร์ 2.27 แสนล้านบาท
          เมื่อ “หมอหนู-อนุทิน ชาญวีระกูล” รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธาณสุข ซึ่งกำกับดูแลกระทรวงคมนาคม ออกเล่นบทแข็ง ประกาศเสียงดังฟังชัดว่า...
          “ในวันที่ 27 กันยายน คณะกรรมการคัดเลือกฯ จะทำหนังสือถึงกิจการร่วมค้าบริษัทเจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง จำกัด และพันธมิตร (CPH) ผู้ชนะการประมูล เพื่อให้มาลงนามสัญญาในวันที่ 15 ตุลาคม ก่อนที่จะสิ้นสุดวันลงนาม (หมดระยะเวลายืนราคา) ในวันที่ 7 พฤศจิกายน 2562 หลังจากกลุ่ม CPH ใช้เวลาเจรจารายละเอียดมายาวนานเกือบ 1 ปีแล้ว แต่ไม่มีความคืบหน้าและยังไม่ได้ลงนามในสัญญาก่อสร้าง”
          นังบ่างผู้มีรสนิยมอันวิไลสไตล์ลูกทุ่งบันเทิงบอกว่า ท่วงทำนองที่ “หมอหนู” บรรเลงนั้นเหมือนบอกให้รู้ว่า “เซ็นซะ ให้รู้แล้วรู้รอด แล้วจะไปกอดกับใครก็เชิญ... ไปเลย ไปเลย ไปเลย ไปเลย ไปเลย ....ต่างคน ต่างเดิน แล้วอย่ายูเทิร์น อย่ากลับ มาหา ไม่อ้าแขนรอ...”
          อีเห็นใช้แว่นขยายสแกนคำสั่งของหมอหนูแล้วร้องตะโกนก้องว่า...พรานฯเอ้ย... รอบนี้รัฐบวมเอาจริงแน่นอน เพราะลั่นว่าจาว่า รัฐบาลไทยในฐานะคู่สัญญาจะปรับปรุงเงื่อนไขแก้สัญญาไปมากกว่านี้ไม่ได้แล้ว เพราะจะมีผู้เสียหายเกิดขึ้น และผู้แก้ไขสัญญาจะมีความผิดมาตรา 157 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่...
          พรานฯผู้ท่องไพรมาทั้งชีวิตขอบอกว่า ที่เห็นนั้นคือฉากหน้า แต่วันนี้ขออนุญาตพามาดูฉากหลังว่าทำมั้ย ทำไม ยักษ์ใหญ่ซีพีจึงไม่ลงนามในสัญญาการประมูล แถมเจรจายืดเยื้อยาวนานนับปี
          พรานฯ พาทุกท่านมาทัศนา หนังสือฉบับหนึ่ง ลงวันที่ 19 กันยายน 2562 ซึ่งกลุ่มกิจการร่วมการค้าบริษัทเจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง จำกัด และพันธมิตร ทำถึง วรวุฒิ มาลา ประธานคณะกรรมการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนของโครงการ สำเนาถึง คณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการอีอีซี สุจิตต์ เชาว์ศิริกุล รองผู้ว่าการ รฟท. ประธานคณะทำงาน

          อะแฮ่ม หนังสือดังกล่าวว่าดังนี้ ...ตามหนังสือที่ รฟ1/ 2028/2562 ลงวันที่ 13 กันยายน พ.ศ.2562 ถึงกลุ่มกิจการร่วมค้าฯ และในหนังสือดังกล่าวได้อ้างถึงการที่คณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกได้มีมติเห็นชอบผลการคัดเลือกเอกชน ผลการเจรจา และร่างสัญญาร่วมลงทุน โดยกลุ่มกิจการร่วมค้าฯ เป็นเอกชนที่ได้รับคัดเลือกตามที่ รฟท.เสนอและคณะรัฐมนตรีได้มีมติรับทราบผลการประชุมของกพอ. เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2562
          ต่อมา กพอ.ได้มีมติให้คณะกรรมการคัดเลือกฯ รฟท. และที่ปรึกษาของโครงการ จัดทำร่างเอกสารแนบท้ายของร่างสัญญาร่วมลงทุนของโครงการให้แล้วเสร็จ และเจรจากับกลุ่มกิจการร่วมค้าฯ เพื่อลงนามสัญญาร่วมลงทุนของโครงการภายในเดือนสิงหาคม 2562 และคณะกรรมการคัดเลือกฯ ได้มีมติในคราวประชุมครั้งที่ 20/2562 เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2562 กำหนดในวันที่ 9 กันยายน 2562 เป็นวันสิ้นสุดการเจรจาร่างเอกสารแนบท้าย
          ต่อมาประธานคณะกรรมการคัดเลือกฯ ได้ส่งหนังสือถึง กลุ่มกิจการร่วมค้าฯ เพื่อแจ้งมติคณะกรรมการคัดเลือกฯ เรื่อง การกำหนดระยะเวลาสิ้นสุดการเจรจาร่างเอกสารแนบท้ายของร่างสัญญาร่วมลงทุนฯ และการสละเอกสิทธิ์และความคุ้มกันในการไม่ขึ้นศาลไทย และสิทธิในการฟ้องร้องหรือการบังคับคดีซึ่งได้รับการคุ้มครองในศาลไทย
          ซึ่งกลุ่มกิจการร่วมค้าฯ ได้ส่งหนังสือชี้แจงประเด็นต่างๆ ที่ยังหาข้อสรุปไม่ได้ และจำเป็นที่คณะกรรมการคัดเลือกฯ จะต้องร่วมพิจารณาเพื่อหาข้อสรุปร่วมกัน เนื่องจากมติของคณะกรรมการคัดเลือกฯ ที่กำหนดให้สิ้นสุดการเจรจาร่างเอกสารแนบท้ายของสัญญาร่วมลงทุนฯ ตามหนังสือที่อ้างถึงไม่สมเหตุสมผล
          คณะกรรมการคัดเลือกฯ จึงได้ขอให้กลุ่มกิจการร่วมค้าฯ เข้าประชุมเจรจาร่วมกับผู้แทนคณะกรรมการคัดเลือกฯ เกี่ยวกับประเด็นที่เจรจาไม่แล้วเสร็จในวันที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2562 โดยรักษาการผู้ว่าการ รฟท. ตัวแทนจาก กพอ.และตัวแทนจากคณะกรรมการคัดเลือกฯ เข้าร่วมประชุม ได้มีข้อสรุปในประเด็นที่ยังเจรจาไม่แล้วเสร็จ และให้นำข้อสรุปดังกล่าวไปปรับแก้ร่างเอกสารแนบท้ายของร่างสัญญาร่วมลงทุนฯ ให้สอดคล้องกับข้อสรุปที่ได้จากที่ประชุม
          ต่อมาคณะกรรมการคัดเลือกฯ ได้ประชุมในวันที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2562 และส่งหนังสือที่ รฟ1/2028/2562 ลงวันที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2562 มายังกลุ่มกิจการร่วมค้าฯ โดยมีมติเห็นชอบและจัดส่งร่างเอกสารแนบท้ายสัญญาร่วมลงทุนหมายเลข 3 (อัตราค่าโดยสาร) เอกสารแนบท้ายสัญญาร่วมลงทุนหมายเลข 6 (แผนการส่งมอบพื้นที่ของโครงการ) และร่างเอกสารแนบท้ายสัญญาร่วมลงทุนหมายเลข 12 (ข้อกำหนดดัชนีชี้วัด) และเอกสารแนบท้ายอื่นๆ บางส่วนมาให้ โดยจะไม่มีการเจรจาเอกสารแนบท้ายดังกล่าวอีก
          และกำหนดให้กลุ่มกิจการร่วมค้าฯ ส่งหนังสือเพื่อตกลงและยอมรับว่า ให้ใช้ร่างเอกสารแนบท้ายทั้งหมดดังกล่าว เป็นเอกสารแนบท้ายของร่างสัญญาร่วมลงทุนฯ เพื่อลงนาม โดยให้กลุ่มกิจการร่วมค้าฯส่งหนังสือเพื่อตกลงและยอมรับภายในวันพฤหัสบดีที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2562 เวลา 15.00 น. ซึ่งมีระยะเวลาเพียงแค่ 3 วัน นับจากวันที่ได้รับหนังสือ ซึ่งเป็นระยะเวลาที่สั้นมาก

          นอกจากนี้ คณะกรรมการคัดเลือกฯ ยังกำหนดว่า หากกลุ่มกิจการร่วมค้าฯ ไม่ส่งหนังสือเพื่อตกลงและตอบรับภายในวันและเวลาที่กำหนดดังกล่าว คณะกรรมการคัดเลือกฯ ขอสงวนสิทธิ์ที่จะดำเนินการตามที่เห็นสมควร ภายใต้หลักเกณฑ์ที่กฎหมายและเอกสารการคัดเลือกเอกชนของโครงการกำหนดต่อไป และหากกลุ่มกิจการร่วมค้าฯ ส่งหนังสือยอมรับร่างเอกสารแนบท้ายฯ ที่คณะกรรมการคัดเลือกฯ เห็นชอบอย่างไม่มีเงื่อนไขในวันและเวลาที่กำหนดดังกล่าว จะถือว่ากลุ่มกิจการร่วมค้าฯ ยอมรับให้คณะกรรมการคัดเลือกฯ กำหนด วัน เวลา และสถานที่ ในการลงนามในสัญญาร่วมลงทุนฯ
          ขอเรียนชี้แจงว่า กลุ่มกิจการร่วมค้าฯ ไม่อาจเห็นพ้องกับมติของคณะกรรมการคัดเลือกฯ เมื่อวันที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2562 และข้อกำหนดใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับมติของคณะกรรมการคัดเลือกฯ ดังกล่าว
          เพราะ 1. เป็นการตั้งกรอบเวลาที่ไม่เหมาะสม ข้อมูลที่ รฟท.มีอยู่ยังไม่สมบูรณ์ ยังไม่สามารถรวบรวมได้ครบถ้วน และข้อมูลที่มีอยู่ยังไม่เป็นข้อมูลในปัจจุบัน ประกอบกับมีประเด็นที่หาข้อสรุปไม่ได้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับแผนการส่งมอบพื้นที่ของโครงการค่าใช้จ่ายในการรื้อย้าย ข้อกำหนดเรื่องดัชนีชี้วัด อัตราค่าโดยสาร และข้อ 39.7 ของร่างสัญญาร่วมลงทุนฯ ยังมีปัญหา
          2. กลุ่มกิจการร่วมค้าฯ ได้พิจารณาและตรวจสอบร่างเอกสารแนบท้ายทั้งหมดที่คณะกรรมการคัดเลือกฯ ให้ความเห็นชอบซึ่งที่ปรึกษาของรฟท.ได้จัดส่งให้แล้ว พบว่าร่างเอกสารแนบท้ายสัญญาร่วมลงทุนบางส่วนในส่วนที่สำคัญ ไม่เป็นไปตามแนวทางที่กลุ่มกิจการร่วมค้าฯ และผู้แทนคณะกรรมการคัดเลือกฯ ได้ตกลงกันในการประชุมร่วมกันเมื่อวันที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2562 ประกอบกับเอกสารแนบท้ายสัญญาร่วมลงทุนฯ ในส่วนอื่นๆ ที่ส่งมาให้ยังไม่ครบถ้วน
          เห็นชัดมั้ยว่าซีพีจะเซ็นลงนามลงทุนรถไฟที่รู้ทั้งรู้ว่าขาดทุนหรือไม่!
          จะยื้อไปอีกนานแค่ไหน! พรานฯไม่รู้ รู้แต่ว่ารถไฟความเร็วสูงกลายเป็นโบว์แดงแสลงใจคนจริงๆ เลยขอรับนายท่าน...