สื่อใหญ่จีนเตือนความพยายามป่วนฮ่องกง ‘ใกล้ถึงจุดจบ’

01 ก.ย. 2562 | 22:48 น.

บทบรรณาธิการสำนักข่าวซินหัว สื่อใหญ่ของทางการจีนออกมากล่าวประณามการชุมนุมประท้วงรัฐบาลฮ่องกงที่เกิดการจลาจลในหลายพื้นที่และทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา  พร้อมทั้งเตือนว่า “จุดจบกำลังจะมาถึงแล้ว” สำหรับความพยายามที่จะก่อกวนให้เกิดความวุ่นวายในฮ่องกงและการแสดงความเป็นปฏิปักษ์กับจีน

การชุมนุมในฮ่องกงกลายเป็นเหตุการณ์จลาจลเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

บทบรรณาธิการของสำนักข่าวซินหัวเมื่อวันที่ 1 ก.ย. 2562 ยังคงใช้คำเตือนที่แข็งกร้าวต่อการชุมนุมประท้วงในฮ่องกงที่ย่างเข้าสู่สัปดาห์ที่ 13 และทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เริ่มจากการคัดค้านการพิจารณากฎหมายการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนซึ่งขณะนี้ถูกยกเลิกไปแล้ว ลุกลามสู่การเรียกร้องสิทธิเสรีภาพและประชาธิปไตยจากรัฐบาลฮ่องกง แม้จะไม่ได้ระบุว่าความปั่นป่วนจะถูกยุติลงด้วยวิธีการใด แต่สื่อใหญ่ซึ่งมีบทบาทเป็นกระบอกเสียงของรัฐบาลจีนแผ่นดินใหญ่ประกาศว่ามี 3 เส้นแบ่งสำคัญที่จะต้องไม่ถูกก้าวล้ำข้ามเส้นมา ซึ่ง 3 เส้นตายดังกล่าวได้แก่  


 

สื่อใหญ่ของจีนระบุว่าความวุ่นวายในฮ่องกงมีผู้สนับสนุนอยู่เบื้องหลัง

“ห้ามบุคคลใดก็ตามกระทำการที่เป็นภัยคุกคามเอกราช ความเป็นปึกแผ่น และความมั่นคงของจีน หรือท้าทายอำนาจของรัฐบาลกลางและกฎหมายพื้นฐานของเขตพิเศษปกครองตนเองฮ่องกง หรือเข้ามาใช้ฮ่องกงเพื่อกระทำการสอดแทรกและบ่อนทำลายจีนแผ่นดินใหญ่” ซึ่งข้อความดังกล่าวนี้อ้างอิงจากบทรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเป็นเขตบริหารพิเศษของฮ่องกง  บทบรรณาธิการของซินหัวกล่าวเตือนว่า บุคคลใดก็ตามที่กล้าละเมิดหรือ ‘ลุกล้ำ’ ข้าม 3 เส้นแบ่งดังกล่าวข้างต้น หรือเข้ามาแทรกแซง และพยายามทำลายหลักการ “หนึ่งประเทศ สองระบบ” ที่จีนใช้ในการบริหารและปกครองฮ่องกง จะไม่มีวันกระทำการได้สำเร็จ และจะต้องถูกดำเนินการตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญและกฎหมายพื้นฐานของฮ่องกง


 

สื่อใหญ่จีนเตือนความพยายามป่วนฮ่องกง ‘ใกล้ถึงจุดจบ’

การชุมนุมประท้วงที่เริ่มขึ้นในเดือนมิถุนายนและยืดเยื้อมาเป็นสัปดาห์ที่ 13 ได้ทวีความรุนแรงขึ้นถึงขีดสุดเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมานี้ โดยมีการชุมนุดปิดล้อมสนามบินอีกครั้ง มีการปะทะในเขตเมืองหลายพื้นที่ รวมทั้งการปิดสถานีรถไฟใต้ดินบางแห่ง ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจปราบจลาจลของฮ่องกงต้องใช้ทั้งแก๊สน้ำตา กระบอง กระสุนยาง สเปรย์พริกไทย และปืนน้ำแรงอัดสูง เข้าควบคุมสถานการณ์โดยในฝั่งผู้ชุมนุมเองก็มีการใช้ระเบิดเพลิงและอาวุธเข้าปะทะกับเจ้าหน้าที่เช่นกัน  

 

สื่อใหญ่ของรัฐบาลจีนยังระบุว่า  มีผู้ชักใยอยู่เบื้องหลังการก่อความรุนแรงและเหตุจลาจลในฮ่องกง ซึ่งขณะนี้วัตถุประสงค์ที่แท้จริงของการก่อเหตุความวุ่นวายได้ปรากฏชัดเจนแล้ว ว่าต้องการสร้างเหตุจลาจลขึ้นในฮ่องกง ท้าทายหลักการ “หนึ่งประเทศ สองระบบ” ก่อนที่จะแผ่ขยาย ‘การปฏิวัติด้วยการแบ่งสี’ (colour revolution) เข้าสู่จีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งคำนิยามดังกล่าวมักใช้เรียกขานการลุกฮือขึ้นปฏิวัติทางการเมืองในหลายประเทศแถบยุโรปตะวันออก แอฟริกาเหนือ และตะวันออกกลางในต้นยุคทศวรรษ 2000 “แต่ความพยายามที่จะจับฮ่องกงเป็นตัวประกันแล้วกดดันรัฐบาลกลางของจีนจะเป็นได้แค่เพียงภาพลวงตา ถ้าเป็นเรื่องของหลักการนี้แล้ว (หนึ่งประเทศ สองระบบ)จีนจะไม่ยอมอ่อนข้อให้โดยเด็ดขาด”  ก่อนหน้านี้ บทบรรณาธิการของซินหัวยังเคยอ้างถึงนายเติ้ง เสี่ยวผิง อดีตผู้นำสูงสุดของจีน ที่เคยกล่าวไว้ในปี 2527 ว่า หากเกิดความวุ่นวายปั่นป่วนขึ้นในฮ่องกง รัฐบาลจีนแผ่นดินใหญ่ก็ควรจะเข้าแทรกแซง

 

ถึงแม้จะไม่ได้ระบุโดยตรงว่า การแทรกแซงดังกล่าวควรจะถูกนำมาใช้กับเหตุการณ์จลาจลที่เกิดขึ้นในฮ่องกงในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมานี้แล้วหรือไม่ แต่บทบรรณาธิการของสื่อที่เป็นกระบอกเสียงหลักของรัฐบาลจีนชิ้นนี้ก็ฉายภาพให้เห็นชัดแล้วว่า ทางการจีนจะไม่ยอมอ่อนข้อให้กับข้อเรียกร้องของผู้ชุมนุมประท้วงในฮ่องกงอย่างแน่นอน