ได้เวลาลอยแพชินคอร์ป ‘เทมาเสก’ขายเกลี้ยง

18 ส.ค. 2562 | 05:25 น.

คอลัมน์ข่าวห้ามเขียน ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3497 หน้า 20 ระหว่างว้นที่ 18-21 ส.ค.2562  โดย... พรานบุญ

ได้เวลาลอยแพ
ชินคอร์ป
‘เทมาเสก’ขายเกลี้ยง  

 
          ปฏิบัติการขายทิ้งหุ้นของกองทุนขนาดใหญ่ “เทมาเสก” ของรัฐบาลสิงคโปร์ ที่ขายหุ้นบริษัท อินทัช โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) ก่อให้เกิดคำถามมากมายว่าเกิดอะไรขึ้นกับท่าทีการลงทุนของสิงคโปร์ในไทย
          เพราะกองทุนนี้คือหัวใจการทำเงินของสิงคโปร์ทำหน้าที่ดูแลรัฐวิสาหกิจและการลงทุนทั่วโลก ผ่านกองทุนเพื่อการลงทุนของรัฐบาลสิงคโปร์ (CIG) ออกไปหาซื้อหุ้นดีๆ ราคาถูกในต่างประเทศ และในแต่ละปีส่งเงินปันผลมหาศาลกลับประเทศสิงคโปร์
          พ่อพรานฯ ขอบอก อันว่ากองทุนเทมาเสกนับเป็น Invesment Fund ขนาดใหญ่ชื่อก้องโลก
          Temasek Holdings ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1975 มีกระทรวงพาณิชย์ของสิงคโปร์เป็นผู้ถือหุ้นรายเดียว
          ภารกิจหลักคือออกล่าเงินผ่านการลงทุนในหุ้นด้วยการลงทุนในกิจการจำนวนมากของสิงคโปร์ เริ่มแรกในกิจการต่อเรือและการผลิต ปัจจุบันเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในธนาคารดีบีเอส สิงคโปร์ บริษัท สิงคโปร์ เทเลคอมมูนิเคชั่นส์ฯ (สิงเทล) และกิจการอื่นอีกมากมายทั้งในสิงคโปร์และต่างประเทศ รวมถึงถือหุ้นในบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน)ของไทย
          รัฐบาลสิงคโปร์มีบริษัทลงทุนอีกแห่ง คือ Government of Singapore Investment Corporation (GIC) ซึ่งทำการลงทุนเงินสำรองระหว่างประเทศเป็นหลัก
          อีเห็นโพล่งขึ้นแบบผู้สอดรู้สอดเห็นว่า คนไทยรู้จักเทมาเสกกันทั้งประเทศเมื่อเกิดเหตุวันที่ 23 มกราคม 2549 เทมาเสกโฮลดิ้งส์ ได้ซื้อหุ้นในบริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) จากครอบครัว นายทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีขณะนั้นจำนวน 1,487 ล้านหุ้น คิดเป็น 49.595% ที่ราคาหุ้นละ 49.25 บาท รวมมูลค่า 7.32 หมื่นล้านบาท ท่ามกลางข้อกล่าวหาว่า การซื้อขายครั้งนี้มีการหลบเลี่ยงภาษีก้อนโต

ได้เวลาลอยแพชินคอร์ป ‘เทมาเสก’ขายเกลี้ยง
           เพราะมีการโอนหุ้นให้พานทองแท้-พินทองทา ลูกชาย ลูกสาว ในราคาหุ้นละ 1 บาท ก่อนขายออกในราคา 49.25 บาท ฟันกำไรหุ้นละ 48.25 บาท แต่บรรดาขาใหญ่ในกรมสรรพากรบอกว่าไม่ต้องเสียภาษี
          ผลที่ตามมาคือข้าราชการกรมสรรพากรหลายคนได้ดิบได้ดีกันถ้วนหน้า ก่อนร่วงจากฟ้ามารับบ่วงกรรมที่ทำไว้

          ถึงตอนนี้นังบ่างจึงชวนพรานฯไปดูชะตากรรม “ศิโรตม์ สวัสดิ์พาณิชย์-เบญจา หลุยเจริญ” ไม่นับขรก.อีก 5 คน ที่ใช้มือเดียวคํ้าฟ้าปัจจุบันกลับไม่มีที่ให้ยืนบางคนต้องแอบเดินหนีเข้าป่าดงดิบ บางคนต้องคดีถึงคุกตะราง...ช่างอนาถใจ
          ท่องไพรกับนังบ่าง-อีเห็นไปเสียไกล...พรานฯพามาดูกองทุนเสมาเสกต่อนะขอรับ...ในตลาดหลักทรัพย์ของไทยนั้น เอาถึงวันที่ 15 สิงหาคม 2562 ก็แล้วกันหุ้นของ CIG-เทมาเสกที่ลงทุนในไทยมีมูลค่าสูงถึง 229,000 ล้านบาท
          อันนี้ พรานฯ ไม่ได้เหมาเข่งมารวมกับอีก 15,600 ล้านบาท ซึ่งเทมาเสกเพิ่งขายหุ้นบริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ฯ(INT0UCH) แบบบิ๊กล็อต บนกระดานหุ้นปกติ-กระดานหุ้นต่างประเทศรวม 257.09 ล้านหุ้น ในราคาเฉลี่ยหุ้นละ 60.75 บาท จากราคาเฉลี่ยก่อนหน้า 64.50 บาท ที่ฮือฮากันเพราะเป็นสัญญาณว่า ข้อกล่าวหา “ชินวัตรขายฝากไว้” ไม่เป็นจริงแล้ว
          นกกาในป่าดงพงไพรร้องระงมว่า เทมาเสกทิ้งไทยแล้วเม่าจ๋า...สนั่นเมือง เพราะนี่คือการขายออกเป็นระลอกๆ
          อีเห็นไปส่องข้อมูลมาพบว่า...เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2562 กลุ่ม GIC เพิ่งขายหุ้น บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ฯ(LH) ของ เสี่ยตึ๋ง-อนันต์ อัศวโภคิน ออกไปทั้งหมด 7% ได้เงินสดไปสูงเฉียด 1 หมื่นล้านบาท
          ก่อนหน้านี้ได้เทขายหุ้นอื่นๆ อีกหลายตัว เช่น บริษัท ควอลิตี้เฮ้าส์ฯ( QH) ออกไปด้วยทั้งๆ ที่เทมาเสกคือกลุ่มแรกที่มาอุ้มชูอาณาจักรแลนด์ฯให้พ้นปากเหวเมื่อปี 2540
           อย่างไรก็ตาม การขายหุ้น INTUCH ออกไปรอบนี้ เทมาเสกยังมีหุ้นเหลือติดมืออยู่เมื่อพิจารณาจากโครงสร้างผู้ถือหุ้นใหญ่ที่ SINGTEL GLOBAL INVESTMENT PTE. LTD. ของรัฐบาลสิงคโปร์ ถือหุ้นจำนวน 673.34 ล้านหุ้น
           เชื่อหรือไม่ในระยะ 5-6 ปี ที่ผ่านมา กองทุนสิงคโปร์รายนี้ขนเงินกลับจากการขายหุ้นในไทยไปกว่า 1 แสนล้านบาทแล้ว...พ่อพรานฯเอร้ย...บ่างร้องโหวกเหวกวิเวกหวางโหว
           ส่วนหุ้นที่เหลือของกองทุนเทมาเสกที่ถือในไทยอีกกว่า 2 แสนล้านบาทนั้น เทมาเสกกระโดดเข้ามาเก็บในตลาดหุ้นไทย หลังเกิดวิกฤติเศรษฐกิจตั้งแต่ปี 2540 ผ่านการเพิ่มทุนให้กับบริษัทจดทะเบียนและธนาคารพาณิชย์ของไทยหลายแห่ง

           ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) นั้น เทมาเสกถืออยู่ 1.70% มูลค่ากว่า 6,311 ล้านบาท
           ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) ถืออยู่ 0.85% มูลค่ากว่า 3,460 ล้านบาท ธนาคารกรุงเทพ (BBL) ถืออยู่ 0.95% มูลค่า 3,034 ล้านบาท
           นอกจากนี้ยังถือหุ้นในบริษัท ปตท.ฯ(PTT) บริษัท ไทยออยล์ฯ(TOP) บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอลฯ (PTTGC) อีกหลายหมื่นล้าน
           ปฏิบัติการขายหุ้น INTUCH ครั้งนี้ จึงเป็นการส่งสัญญาณของ “เทมาเสก” ที่ต้องการลดการลงทุนในหุ้นไทยชัดเจน
           ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลต้องการเงินตราต่างประเทศเข้าประเทศสิงคโปร์เพื่อรับมือเศรษฐกิจถดถอย หรือขายเพื่อกระชับสัมพันธ์ทางการทูต เป็นการสำแดงว่าเทมาเสกแอนด์อินทัชพ่อของเอไอเอสตัดขาดจากชินวัตรโดยสิ้นเชิงแล้วเด้อ...
           นังบ่าง-อีเห็น-แม่ชะมดเช็ดทั้งหลายอย่ามาเหมาว่า ทักษิณขายฝากสิงคโปร์อีกเด็ดขาด...
           เชื่อหัวพ่อพรานฯเหอะการขายหุ้นทิ้งของเทมาเสกยังจะเกิดอีกหลายระลอก แต่ตัวไหนล่ะ...จะโดนเททิ้ง...“ไทยคม” เตรียมตัวไว้เลย...
          อย่าบอกเชียวว่า ไม่มีเหลือแล้ว...พรานฯขอให้ลองไปส่องดูที่ถืออยู่ในชื่อ “อินทัช โฮลดิ้ง-Citybank-เครดิตสวิส-นอร์ททรัสต์-สเตทสตรีท” ชื่อเหล่านี้ล้วนเป็นนอมินีเขาทั้งสิ้น...หึหึ