บลจ.ยูโอบี ส่ง UCHINARMF ลุยหุ้นจีน
บลจ. ยูโอบี มั่นใจตลาดหุ้นจีน ส่งกองทุนเปิด UCHINARMF กระจายลงทุนหุ้นบริษัทจีน ผ่านตลาดหุ้นจีน (Onshore) และตลาดฮ่องกง รวมทั้งหุ้นบริษัทจีนในตลาดอื่นๆทั่วโลก (Offshore) เปิดขาย 1-9 สิงหาคมนี้
นางสาวรัชดา ตั้งหะรัฐ กรรมการผู้จัดการ สายพัฒนาธุรกิจ บลจ. ยูโอบี (ประเทศไทย) สงครามการค้ากับสหรัฐที่กดดันอย่างหนัก จนส่งผลต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจจีน และรายจ่ายลงทุน (capex) อ่อนตัวลง ซึ่งรายงานการเติบโตของเศรษฐกิจจีนปีนี้ถูกปรับลดลงจาก 6.6% ในปี 2561 มาอยู่ที่ 6.2% รวมถึงดัชนีภาคการผลิตของจีนปรับลดลง และภาคการส่งออกยังคงอ่อนตัว ขณะที่รัฐบาลและธนาคารจีนส่งสัญญาณผ่อนคลายด้านนโยบายการเงินมากขึ้นเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในปีนี้อย่างต่อเนื่อง โดยลดสัดส่วนการดำรงเงินสำรองธนาคารพาณิชย์ (RRR) ลงเพื่อเพิ่มสภาพคล่องในภาคธนาคารหรือลดอัตราดอกเบี้ย รวมถึงนโยบายการคลังที่มีการออกพันธบัตรรัฐบาลลักษณะพิเศษ (special local government bonds) โดยเน้นด้านโครงการโครงสร้างพื้นฐานและอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ ที่มองว่าจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เศรษฐกิจจีนมีการขยายตัวที่มั่นคงในระยะต่อไป มาตรการต่างๆเหล่านี้เป็นความพยายามของรัฐบาลจีนในการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อที่จะช่วยลดผลกระทบจากสงครามการค้าได้บางส่วน
อย่างไรก็ตาม บริษัยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อเศรษฐกิจและภาวะการลงทุนตลาดหุ้นจีน ที่มีแนวโน้มการเติบโตในระยะยาว โดยยังคงได้รับแรงหนุนจากปัจจัยต่างๆ คือ การบริโภคภายในประเทศ ซึ่งมีสัดส่วนกว่า 55% ของมูลค่า GDP ยังเพิ่มขึ้นจากตลาดสินค้าออนไลน์ที่ขยายตัวกว่า 32% ในปี 2560 และกว่า 30% ในปี 2561 และยังมีโอกาสเติบโตขึ้นอีกอย่างมากในอนาคตจากรายได้ประชากรที่เพิ่มมากขึ้นอีกด้วย ปัจจัยของการขยายตัวของเมือง (Urbanizing) จากจำนวนประชากรที่ย้ายเข้ามาอยู่ในเมืองมากขึ้น ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการบริโภคภายในประเทศ ปัจจัยด้าน R&D และนวัตกรรม (Innovation) ซึ่งเป็นปัจจัยหลักในการผลักดันการเติบโตของเศรษฐกิจจีนในช่วงหลายๆปีที่ผ่านมา ที่ทำให้คุณภาพสินค้าดีขึ้น การเข้าถึงบริการต่างๆสะดวกสบายมากขึ้น และปัจจัยสุดท้ายคืออายุเฉลี่ยของประชากรจีนที่เพิ่มมากขึ้น (Demographics) ที่สนันสนุนให้มีการลงทุนในอุตสาหกรรมการแพทย์ โดยคาดว่าตลาด healthcare จะโตกว่า 9.3% ต่อปี ระหว่างปี 2560 ถึง 2573
ทั้งนี้บริษัทได้เปิดกองทุนเปิด ยูไนเต็ด ออล ไชน่า อิควิตี้ ฟันด์ (UCHINA) เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา จึงมองเป็นโอกาสที่น่าสนใจสำหรับการลงทุนระยะยาวประกอบกับกองทุน UBS (LUX) Equity SICAV – All China (UDS) I-A1-Acc ซึ่งเป็นกองทุนหลัก สามารถสร้างผลการดำเนินงานตั้งแต่จัดตั้งกองทุน (ณ วันที่ 25 พ.ค. 2561) อยู่ที่ 18.18% ขณะที่ผลการดำเนินงานของ MSCI All China อยู่ที่ -16.30% ซึ่งกองทุนหลักสามารถทำผลการดำเนินงานได้ดีกว่าเกณฑ์มาตรฐานถึง 34.48% ขณะที่กองทุน UCHINA เองมีผลการดำเนินงานตั้งแต่จัดตั้งกองทุนเมื่อ 27 ก.พ. 2562 อยู่ที่ 4.91% เมื่อเทียบกับผลการดำเนินงานของเกณฑ์มาตรฐานที่ -2.48% ซึ่งกองทุนทำผลการดำเนินงานได้ดีกว่าเกณฑ์มาตรฐาน 7.39%
บริษัทจึงได้ออกและเสนอขายกองทุนเปิด ยูไนเต็ด ออล ไชน่า อิควิตี้ ฟันด์ เพื่อการเลี้ยงชีพ (UCHINARMF) ระหว่างวันที่ 1-9 สิงหาคมนี้ เพื่อเป็นอีกหนึ่งกองทุนที่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนในการจัดพอร์ตการลงทุนแบบกระจายสินทรัพย์ เพื่อรองรับภาวะตลาดการลงทุนที่ผันผวนในทุกช่วง ประกอบกับวัตถุประสงค์ของกองทุนเพื่อได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีในระยะยาว โดย UCHINARMF จะเป็นกองทุนเปิดที่มีโครงสร้างและนโยบายการลงทุนเดียวกับกองทุน UCHINA ที่ลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศ ชื่อ UBS (LUX) Equity SICAV – All China (USD) I-A1-acc (กองทุนหลัก) ที่บริหารจัดการโดย UBS Fund Management (Luxembourg) S.A. โดยกระจายการลงทุนไปยังหุ้นที่จดทะเบียนในประเทศจีนและฮ่องกง รวมถึงหุ้นของบริษัทจดทะเบียนของประเทศอื่นที่มีการดำเนินธุรกิจในจีนเป็นหลัก
“กองทุนหลักมีกลยุทธ์การบริหารกองทุนแบบเชิงรุก มีนโยบายการลงทุนที่ยืดหยุ่น (Dynamic) โดยไม่ได้กำหนดสัดส่วนการลงทุนระหว่างตลาด Onshore และตลาด Offshore ซึ่งจะขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุนในการคัดเลือกหุ้นแบบ Bottom-up และผู้จัดการกองทุนหลักมี Track record ที่ดีในการบริหารกองทุนหุ้นจีนอื่นๆ ทั้งกองทุนหุ้นจีนที่ลงทุนในตลาด Onshore และตลาด Offshore ผู้ลงทุนจึงมั่นใจได้ว่ามีผู้จัดการกองทุนที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์บริหารกองทุนเพื่อโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่ดีและตอบโจทย์สำหรับการลงทุนเพื่อการเกษียณในระยะยาวได้ กองทุนมีการป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน กองทุน UCHINA สามารถซื้อขายได้ทุกวันทำการและได้รับเงินค่าขายคืน T+5”