‘ยักษ์ญี่ปุ่น’แห่ร่วมทุน  รับลูกค้าต่างชาติโต

01 ส.ค. 2562 | 23:30 น.

ทุนยักษ์ญี่ปุ่น รุกลงทุนอสังหาฯเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตลาดไทยยังไม่หลุด กฎหมาย วัฒนธรรม เอื้อตลาดพรีเมียม สุขุมวิท-ทองหล่อ เติบโตรับชาวต่างชาติ

นายฮิซาชิ คิตะมิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ลิสต์ กรุ๊ปฯ ในฐานะผู้พัฒนาและตัวแทนซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ทุกรูปแบบชื่อดังในประเทศญี่ปุ่น กล่าวหลังจากล่าสุดร่วมทุนกับบริษัท ฮาบิแทท กรุ๊ป จำกัด ภายใต้ชื่อ บริษัท ฮาบิแทท กรุ๊ป ลิสต์ จำกัด เพื่อพัฒนาโครงการวาลเด้น ทองหล่อ 8” และโครงการวาลเด้น ทองหล่อ 13” มูลค่าโครงการรวมกว่า 2.8 พันล้านบาท ในสัดส่วนการถือหุ้น 38:62 ว่า ที่ผ่านมาบริษัทได้ลงทุนนอกประเทศญี่ปุ่น ใน 5 ประเทศ คือ สหรัฐอเมริกา สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และไทย คิดเป็นมูลค่าการลงทุนประมาณ 25,000 ล้านเยน ขณะที่การลงทุนในประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ปัจจุบันมีจำนวน 6 โครงการ มูลค่า 20,000 ล้านเยน แต่ขณะนี้มองว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่ให้ผลตอบแทนการลงทุนดีที่สุด เนื่องจากมีความเสี่ยงน้อยที่สุด และมีความปลอดภัยมากที่สุดเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ แต่ในเร็วๆนี้ก็ยังสนใจที่จะเข้าไปลงทุนในประเทศเวียดนามด้วย แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้

‘ยักษ์ญี่ปุ่น’แห่ร่วมทุน  รับลูกค้าต่างชาติโต

ฮิซาชิ  คิตะมิ
 

 

“อสังหาฯในกรุงเทพฯยังมีความน่าสนใจลงทุนมาก โดยเฉพาะทำเลทองหล่อ ซึ่งอาจจะมีแผนลงทุนในระยะกลาง-ยาวได้ และมองว่าการลงทุนในประเทศไทยยังมีความโปร่งใส ระบบการเงินน่าเชื่อถือ และเรื่องกฎหมายมีความเป็นสากล มากกว่าเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ด้านนายยาสุชิ ยามาดะ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฎิบัติการ ลิสต์ โฮลดิ้ง ประจำประเทศสิงคโปร์ กล่าวเสริมว่า บริษัทซอเธอบี้ส์ อินเตอร์เนชั่นแนลเรียลตี้ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ ดำเนินธุรกิจตัวแทนซื้อขายอสังหาฯที่มีเครือข่าย 990 แห่ง 72 ประเทศทั่วโลก มียอดขายล่าสุด 1.12 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จะช่วยสนับสนุนการขายทั้ง 2 โครงการ ขยายไปยังกลุ่มลูกค้าต่างชาติได้อย่างดี เนื่องจากเป็นโปรดักต์ระดับบน ใจกลางเมือง ราคา 1.8-2.6 แสนบาทต่อตร.. ที่ยังมีดีมานด์จากผู้ซื้อเพื่อลงทุนและอยู่อาศัยในอัตราเติบโตอย่างต่อเนื่อง


 

 

 

 

 

ด้านบริษัท เคฮัง เรียลเอสเตท จำกัด ในกลุ่มเคฮัง โฮล ดิ้งส์ ดำเนินธุรกิจหลายประเภทในประเทศญี่ปุ่น เช่น อสังหาริมทรัพย์ รถไฟฟ้าสายเคฮัง ธุรกิจโรงแรมและการพักผ่อน การค้าปลีก ซึ่งมีรายได้รวมทั้งเครือเมื่อปีล่าสุดอยู่ที่ 3.26 แสนล้านเยน หรือประมาณ 9.3 หมื่นล้านบาท ล่าสุดประกาศกำลังเดินหน้าพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมซิมมิส สุขุมวิท 61” มูลค่า 1.2 พันล้านบาท ราคาเริ่มที่ 7.5 ล้านบาท ซึ่งเป็นการร่วมทุนกับบริษัท ซันเคียว โฮม (ไทยแลนด์) ต่อเนื่องเป็นโครงการแห่งที่ 2 หลังจากเห็นความสำเร็จในยอดขาย 80% ของโครงการแรกเดอะฟายน์ แบงคอก ทองหล่อ-เอกมัยโดยนายโยชิฮิโกะ มาเดะ ประธานกรรมการบริหาร ระบุว่าที่ผ่านมา เคฮัง กรุ๊ป ให้ความสำคัญกับการขยายธุรกิจออกสู่ตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะตลาดแถบเอเชียอย่างต่อเนื่อง โดยวางเป้าหมายมูลค่าสินทรัพย์ในต่างประเทศ ปี 2570 ที่ 5 หมื่นล้านเยน หรือกว่า 1.4 หมื่นล้านบาท ขณะนี้เดินหน้าลงทุนแล้ว 3.3 พันล้านเยน เช่น โครงการกอล์ฟวิลล่าในกรุงจาการ์ตา อินโดนีเซีย และโครงการร่วมกับ บริษัท ซันเคียว โฮม (ไทยแลนด์) จำกัด ที่จะเกิดขึ้นต่อเนื่อง

ประเทศไทยถือเป็นประเทศที่มีปัจจัยต่างๆ โดดเด่นมากที่สุดประเทศหนึ่งในอาเซียน มีความชอบวัฒนธรรมคล้ายคลึงกับคนญี่ปุ่น มีการลงทุนสะสมจากบริษัทญี่ปุ่นจำนวนมหาศาล มั่นใจในการร่วมทุนกับไทยครั้งนี้จะนำมาซึ่งความสำเร็จ

ทั้งนี้ อนาคตตั้งเป้าจะพัฒนาโครงการร่วมกันอย่างต่อเนื่องปีละ 1-2 โครงการ โดยใช้แบรนด์ Moniq ,The FINE Bangkok และ SYMYS เจาะตลาดเซ็กเมนต์ต่างๆ

 

หน้า  25-26 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,492 วันที่ 1-3 สิงหาคม 2562 

‘ยักษ์ญี่ปุ่น’แห่ร่วมทุน  รับลูกค้าต่างชาติโต