'สรรพากร' ขู่ร้านค้า! สอบภาษีธุรกิจใช้เงินสด

01 เม.ย. 2562 | 10:47 น.


สรรพากรยัน! กฎหมาย "อี-เพย์เมนต์" เพื่อเพิ่มความสะดวก ลั่น! ตรวจสอบภาษีได้ แม้ไม่มีข้อมูลจากแบงก์ ยิ่งใช้เงินสดจะยิ่งถูกตรวจเข้ม เพราะถือว่ามีความกลุ่มเสี่ยง

หลังจากที่มีกระแสข่าวว่า ร้านค้าปลดป้ายรับชำระเงินออนไลน์ออกและหันมารับเงินสดแทน เพราะเกรงว่ากรมสรรพากรจะเข้าไปตรวจสอบภาษีหลังกฎหมาย "อี-เพย์เมนต์" มีผลบังคับใช้ ... นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า ขอเตือนไปยังผู้ประกอบการ ว่า หากคนใดที่ใช้เงินสดจะยิ่งถูกตรวจสอบมากขึ้น ถือว่ามีความเสี่ยง ส่วนคนที่ใช้ออนไลน์ หรือ อี-เพย์เมนต์ จะได้รับความสะดวกจากกรมสรรพากรมากขึ้น เพราะถือว่าส่งข้อมูลครบถ้วน

 

'สรรพากร' ขู่ร้านค้า! สอบภาษีธุรกิจใช้เงินสด

 

"มีคนไปพูดว่า กรมออกกฎหมาย "อี-เพย์เมนต์" เพื่อให้แบงก์ส่งข้อมูลให้เราสอบภาษี ขอย้ำเลยว่า แม้ไม่มีข้อมูลจากแบงก์ เราก็สามารถตรวจสอบภาษีได้อยู่แล้ว ส่วนข้อมูลที่กรมได้มาจากแบงก์นั้น จะนำเข้ามาคัดเพื่อแยกคนดีกับคนไม่ดีออกจากกัน ใครที่มีการแตกบัญชีเป็น 12 บัญชี เพื่อหนีภาษี กรมสามารถตรวจสอบได้ ดังนั้น อยากให้ผู้ประกอบการเข้าระบบอย่างถูกต้องจะดีกว่า" นายเอกนิติ กล่าว
 


ส่วนพระราชบัญญัติยกเว้นเบี้ยปรับ เงินเพิ่มภาษีอากร และความรับผิดทางอาญา เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติการเกี่ยวกับภาษีอากรตามประมวลรัษฎากร พ.ศ. 2562 มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 26 มี.ค. 2562 เป็นมาตรการต่อเนื่อง เพื่อสนับสนุนให้ผู้ประกอบการจัดทำบัญชีให้ถูกต้องและสอดคล้องกับสภาพข้อเท็จจริง และงบการเงินน่าเชื่อถือ นำไปใช้ประกอบการทำธุรกรรมทางการเงินได้

อย่างไรก็ตาม วันที่ 1 เม.ย. 2562 เป็นวันแรกที่เปิดให้ผู้ประกอบการมาลงทะเบียนแจ้งใช้สิทธิตามพระราชบัญญัติฯ ดังกล่าวในระบบส่งเสริมผู้ประกอบการจัดทำบัญชีให้สอดคล้องกับสภาพที่แท้จริงของกิจการ โดยมีผู้ลงทะเบียนเข้ามาในช่วงเช้ากว่า 700 ราย ถือว่ามากพอสมควร โดยการลงทะเบียนจะสิ้นสุดวันที่ 30 มิ.ย. 2562

 


ทั้งนี้ กรมฯ เปิดโอกาสให้บริษัท หรือ ห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ปรับปรุงการบันทึกรายการบัญชีให้สอดคล้องกับสภาพที่แท้จริงของกิจการ ซึ่งการทำบัญชีเดียววจะเกิดประโยชน์กับบริษัท คนที่ทำระบบที่ถูกต้องได้ประโยชน์ เหมือนปรอทวัดไข้ ทำให้รู้ว่า ธุรกิจเป็นอย่างไร ขณะนี้ การขอสินเชื่อกับสถาบันการเงินต้องใช้งบจากสรรพากร ดังนั้น จึงเป็นโอกาสที่ผู้ประกอบการเป็นเอสเอ็มอีกว่า 4.6 แสนราย จะปรับปรุงงบของตัวเองให้ดีขึ้น เพราะตรงนี้เป็นโอกาสสุดท้ายที่จะปรับปรุงบัญชีให้ถูกต้อง