สรรพากรเปิดโอกาส SMEs ยื่นแบบปรับปรุงภาษีย้อนหลัง โดยไม่เสียเบี้ยปรับ เงินเพิ่ม

สรรพากรหนุน SMEs ยื่นแบบปรับปรุงเสียภาษีย้อนหลังให้ถูกต้อง โดยไม่ต้องรับภาระเสียเบี้ยปรับ เงินเพิ่ม ต้องลงทะเบียน 1 เมษายน – 30 มิถุนายน  จากนั้นต้องยื่นแบบทุกประเภทภาษีทางอินเทอร์เน็ตต่ออีก 1 ปี

               นายเกรียงศักดิ์ ประสงค์สุกาญจน์ รองอธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า พระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)ยกเว้นเบี้ยปรับ เงินเพิ่มภาษีอากรและความรับผิดทางอาญา พ.ศ. 2562  ที่มีผลบังคับไปเมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2562  เพื่อสนับสนุนการจัดทำบัญชีให้สอดคล้องกับสภาพที่แท้จริงของกิจการ เป็นการสร้างความน่าเชื่อถือให้กับบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลในการเข้าถึงแหล่งเงินทุน พัฒนาศักยภาพและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการ

               โดยผู้ประกอบการที่จะใช้สิทธิตามพ.ร.บ.ดังกล่าว ต้องเป็นบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่มีรายได้ทางภาษีไม่เกิน 500 ล้านบาท ในรอบบัญชีก่อน 30 กันยายน 2561  และต้อง ยื่นแบบ ภ.ง.ด.50   ภายในวันที่ 25 มีนาคม 2562 และไม่เป็นผู้ออกหรือใช้ใบกำกับภาษีอันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา โดยสามารถลงทะเบียนในระบบ "ส่งเสริมผู้ประกอบการจัดทำบัญชีให้สอดคล้องกับสภาพที่แท้จริงของกิจการ" ผ่านทางเว็บไซต์ของกรมสรรพากร (http://www.rd.go.th) ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2562 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2562

ทั้งนี้สิทธิประโชน์ที่ผู้ประกอบการได้รับผู้ประกอบการที่ยื่นแบบหรือเสียอากรเป็นตัวเงินครบถ้วน ภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2562 จะได้รับการยกเว้นเบี้ยปรับ เงินเพิ่ม และค่าปรับทางอาญา สำหรับ                  ภาษีเงินได้นิติบุคคล ระหว่าง 1 มกราคม 2559 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2560  ภาษีมูลค่าเพิ่มและภาษีธุรกิจเฉพาะสำหรับเดือนภาษีมกราคม 2559 จนถึงเดือนภาษีกุมภาพันธ์ 2562  อากรแสตมป์ ที่ชำระเป็นตัวเงินแทนการปิดแสตมป์อากร ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2559  จนถึงวันที่ 25 มีนาคม 2562  และภาษีอากรทุกประเภทที่มีหน้าที่ต้องหักหรือนำส่งสำหรับธุรกรรมที่เกิดขึ้นตั้งแต่ 1 มกราคม 2559 จนถึงวันที่ 25 มีนาคม 2562

               “บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนที่ได้ลงทะเบียนต่อกรมสรรพากรและได้รับยกเว้นเบี้ยปรับหรือเงินเพิ่ม ต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษีอากรสำหรับภาษีอากรทุกประเภทตามกำหนด ผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต (e-Filing)ให้ครบถ้วน ตั้งแต่ 1 กรกฎาคม 2562 ถึง 30 มิถุนายน 2563 เว้นแต่มีเหตุอันสมควรตามที่อธิบดีกรมสรรพากรกำหนด”