"บิ๊กทิสโก้" ชี้! "หุ้นไทย" ยังน่าลงทุน แนะจับตาเสถียรภาพการเมือง

25 มี.ค. 2562 | 11:35 น.

'ไพบูลย์' แนะนักลงทุนจับตาเสถียรภาพการเมืองไทย หลังพรรคแกนนำ 2 ฝ่าย คะแนนใกล้กันมาก ชี้! หุ้นไทยยังลงทุนได้ ราคาน่าสนใจ เงินทุนต่างประเทศจ่อไหลเข้า หากประเทศเดินหน้า

นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด เปิดเผยในระหว่างร่วมรายการ "LIVE with Guru เจาะลึกกับผู้รู้เรื่องการลงทุน" ในเพจเฟซบุ๊ก TISCO Mastery ว่า ยอมรับว่า ผลการเลือกตั้งที่ออกมาไม่เป็นไปตามคาด เพราะเดิมคาดว่า พรรคเพื่อไทยจะได้คะแนนเสียงทิ้งห่างพรรคอื่น ๆ ค่อนข้างมาก แต่ผลที่ออกมาอย่างไม่เป็นทางการ พรรคพลังประชารัฐได้จำนวน ส.ส. น้อยกว่าพรรคเพื่อไทยเพียงเล็กน้อย และยังได้คะแนนเสียงรวมสูงที่สุด และต่อมา คือ พรรคประชาธิปัตย์ได้คะแนนเสียงที่ต่ำมาก

"
ทั้ง 2 ประเด็นนี้ ส่งผลต่อภาพรวมการลงทุน เพราะขณะนี้ คะแนนเสียงที่พรรคพลังประชารัฐได้มีจำนวนมากพอที่จะมีความชอบธรรมในการจัดตั้งรัฐบาลร่วมได้เช่นเดียวกับพรรคเพื่อไทย ขณะที่ พรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้เป็นทางเลือกที่ 3 อย่างที่เคยคาดไว้"

 

"บิ๊กทิสโก้" ชี้! "หุ้นไทย" ยังน่าลงทุน แนะจับตาเสถียรภาพการเมือง

 

ดังนั้น ผลการเลือกตั้งที่ออกมาจึงทำให้ภาพชัดเจนขึ้น นั่นก็คือ เหลือเพียง 2 ขั้วการเมือง ที่มีโอกาสเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล แต่ที่อาจจะยังสร้างความกังวลให้ตลาด คือ ทั้ง 2 พรรคใหญ่ มีคะแนนเสียงที่ใกล้กันมาก แม้พรรคพลังประชารัฐจะสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะสามารถเป็นนายกรัฐมนตรีได้ แต่ถ้าเป็นรัฐบาลที่มีเสียงเกินครึ่งเพียงเล็กน้อย ก็มีความเสี่ยงในเรื่องของเสถียรภาพทางการเมืองได้ในอนาคต
 


อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาในเรื่องนโยบายของแต่ละพรรค พบว่า นโยบายมีความใกล้เคียงกัน ซึ่งส่วนใหญ่จะเน้นไปที่การกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากและเพิ่มกำลังซื้อให้ประชาชน รวมไปถึงการเดินหน้าการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ดังนั้น เมื่อมองภาพใหญ่แล้ว ไม่ว่าใครจะได้เป็นรัฐบาล ก็ไม่น่ามีผลต่อทิศทางเศรษฐกิจให้ปรับเพิ่มขึ้นแรงมาก หรือ ตกต่ำมากแต่อย่างใด อีกทั้งเศรษฐกิจไทยเป็นเศรษฐกิจเปิดที่ 70% ของจีดีพี อิงกับภาคต่างประเทศ คือ การท่องเที่ยวและการส่งออก ดังนั้น ไม่ว่าใครจะเข้ามาบริหารประเทศในปีนี้ เศรษฐกิจไทยก็ไม่น่าจะขยายตัวเกิน 4%

 

"บิ๊กทิสโก้" ชี้! "หุ้นไทย" ยังน่าลงทุน แนะจับตาเสถียรภาพการเมือง

 

ทั้งนี้ ทิสโก้คาดว่า ปี 2562 เศรษฐกิจไทยจะเติบโต 3.5% ปรับลดลงจากคาดการณ์เดิม เนื่องจากเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ขณะที่ ภาคการส่งออกไม่ได้เติบโตมากนัก เช่นเดียวกับภาคการท่องเที่ยวเติบโตไม่มากนักเช่นกัน เพราะได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจจีน เหลือแต่เศรษฐกิจในประเทศ หากรัฐบาลเข้ามาสร้างความมั่นใจได้ทันทีจะทำให้การบริโภคและการลงทุนในประเทศฟื้นได้ ต่างจากปี 2561 ที่เศรษฐกิจไทยเติบโตดีที่สุดอีกปีหนึ่ง เนื่องจากกลจักรขับเคลื่อนเศรษฐกิจทุกตัวทำงานได้ดีทั้งหมด แต่ข้อดีสำหรับปีถัดไป คือ ธนาคารกลางต่าง ๆ ของโลก ทั้งสหรัฐอเมริกา ยุโรป อังกฤษ และจีน ออกมาให้ความเห็นเหมือนกัน ทั้งหมดว่า เริ่มผ่อนคลายนโยบายทางการเงินและพร้อมลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายหากมีความจำเป็น น่าจะสร้างแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลกได้ในปีหน้า ส่วนไทยขึ้นอยู่กับรัฐบาลของไทยในการบริหารประเทศให้มีเสถียรภาพเดินหน้าโครงการต่าง ๆ ซึ่งทั้งหมดนี้จะช่วยให้เศรษฐกิจไทยไปต่อได้อีก

"สำคัญที่สุดอยู่ที่เสถียรภาพของรัฐบาล เพราะ 5 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลมีเอกภาพมาก เนื่องจากรัฐบาลเป็นพรรคเดียว และไม่มีฝ่ายค้าน แต่ 4 ปีจากนี้ จะไม่ง่ายเหมือนเดิม โดยเฉพาะหากฝ่ายค้านมีเสียงจำนวนมาก แม้ว่าจะมีเสียงน้อยกว่ารัฐบาล แต่ถ้าน้อยกว่าไม่มากนัก รัฐบาลก็อาจจะผลักดันโยบายสำคัญ ๆ ได้ไม่ง่ายนัก" นายไพบูลย์ กล่าว
 

สำหรับการเมืองไทยในขณะนี้ ต้องจับตาดูว่า พรรคใดจะได้จัดตั้งรัฐบาล หากเป็นพรรคพลังประชารัฐจริงก็จะมีข้อดี คือ จะมีความต่อเนื่องในการดำเนินนโยบาย และพรรคอันดับที่ 2 ที่จะมาร่วมรัฐบาลด้วยนั้นมีเสียงค่อนข้างทิ้งห่างพอสมควร ดังนั้น พรรคพลังประชารัฐน่าจะมีบทบาทในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจค่อนข้างสูง ส่วนพรรคอื่นก็อาจได้รับมอบหมายดูแลประเทศด้านอื่นไป ดังนั้น หลังจากนี้ยังต้องติดตามเรื่องความวุ่นวาย และเสถียรภาพของประเทศว่าจะเป็นอย่างไร รัฐบาลสามารถดำเนินนโยบายเศรษฐกิจได้อย่างมีเสถียรภาพหรือไม่

สำหรับมุมมองนักลงทุนต่างชาตินั้น จากเดิมที่กล่าวไว้ว่า หากการเลือกตั้งสงบเรียบร้อย มีเสถียรภาพ เงินต่างชาติน่าจะไหลเข้า 1 แสนล้านบาท ซึ่งคำว่า เสถียรภาพที่กล่าวไว้ คือ รัฐบาลต้องมีเสียงเกิน 300 ที่นั่งขึ้นไป เพราะเป็นที่นั่งที่เกินครึ่งมาพอสมควร และฝ่ายค้านก็จะห่างจากครึ่งไปพอสมควร หากจำนวนที่นั่งใกล้กันมากอาจเริ่มมีปัญหาเรื่องเสถียรภาพ เพราะต้องกังวลเรื่องการวอล์คเอาท์ของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคร่วมรัฐบาล หรือ องค์ประชุมไม่พอ

สำหรับการลงทุนในหุ้นไทยจากนี้นั้น ประเมินว่า หุ้นไทยยังลงทุนได้ เนื่องจากราคายังไม่แพง และมองว่า หุ้นไทยยังอยู่ในช่วงขาขึ้น เพราะเศรษฐกิจยังโตต่อได้และแรงขับเคลื่อนหลักมาจากภาคเอกชน โครงการขนาดใหญ่ของรัฐยังคงเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง กลุ่มหุ้นที่น่าสนใจ เช่น ธนาคารพาณิชย์ ที่จะได้อานิสงส์จากการเติบโตของเศรษฐกิจ

 

"บิ๊กทิสโก้" ชี้! "หุ้นไทย" ยังน่าลงทุน แนะจับตาเสถียรภาพการเมือง