Play
เงินเฟ้อพุ่ง 15 เดือนต่อเนื่อง! เหตุราคาน้ำมันขยับขึ้นไม่หยุด
Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่
พาณิชย์เผย เงินเฟ้อเดือน ก.ย. เพิ่มขึ้น 1.33% สูงขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 15 ติดต่อกัน เหตุราคาพลังงานเพิ่มขึ้นมากถึง 8.10% ปรับคาดการณ์เงินเฟ้อทั้งปีใหม่ คาดขยายตัว 1.25% ตามทิศทางราคาน้ำมันสูงขึ้น
นางสาวพิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการ สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปของประเทศ (เงินเฟ้อ) เดือน ก.ย. 2561 เท่ากับ 102.57 เพิ่มขึ้น 1.33% เมื่อเทียบกับเดือน ก.ย. 2560 โดยเป็นการเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 15 ติดต่อกัน และเพิ่มขึ้นในอัตราที่ชะลอตัวลง แต่ก็ถือว่าเหมาะสมกับภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน และเมื่อเทียบกับเดือน ส.ค. 2561 เพิ่มขึ้น 0.29% ส่วนเงินเฟ้อเฉลี่ย 9 เดือนของปี 2561 (ม.ค.-ก.ย.) เพิ่มขึ้น 1.14%
ทั้งนี้ เงินเฟ้อในเดือน ก.ย. 2561 ที่เพิ่มขึ้น มีสาเหตุสำคัญมาจากการเพิ่มขึ้นของราคาหมวดพลังงาน ที่เพิ่มขึ้น 8.10% โดยเพิ่มติดต่อกันเป็นเดือนที่ 22 แต่หมวดอาหารสด ลดลง 1.16% หมายความว่า เงินเฟ้อเดือนนี้ปัจจัยหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของหมวดพลังงาน ที่ทำให้ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้นและค่าโดยสารเพิ่มขึ้น ส่วนหมวดอาหารที่ลดลง แม้หลายตัวจะลดลง แต่ก็ไม่สามารถดึงเงินเฟ้อในภาพรวมลดลงได้
นอกจากนี้ยังพบว่า หมวดอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ เพิ่มขึ้น 0.35% โดยสินค้าสำคัญที่เพิ่มขึ้น คือ ข้าวแป้งและผลิตภัณฑ์จากแป้ง เพิ่ม 4.48% เครื่องประกอบอาหาร เพิ่ม 1.98% เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ เพิ่ม 1.88% ไข่และผลิตภัณฑ์นม เพิ่ม 0.18% อาหารบริโภคในบ้าน เพิ่ม 0.91% นอกบ้าน เพิ่ม 1.92% ส่วนผักสด ลด 8.52% ผลไม้สด ลด 3.84% ขณะที่หมวดอื่น ๆ ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่ม เพิ่ม 1.90% จากการสูงขึ้นของหมวดพาหนะการขนส่งและการสื่อสาร เพิ่ม 3.86% โดยเป็นการเพิ่มขึ้นเฉพาะค่าโดยสาร 0.69% น้ำมันเชื้อเพลิง 11.98% เคหสถาน เพิ่ม 0.67% ยาสูบ เพิ่ม 3.86% และการสื่อสารลด 0.07%
อย่างไรก็ตาม แนวโน้มเงินเฟ้อในช่วงที่เหลือของปีนี้ จะยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ตามความต้องการของราคาพลังงานที่มีแนวโน้มสูงขึ้นและราคาผันผวน โดย สนค. ได้ปรับคาดการณ์กรอบเงินเฟ้อใหม่ จากเดิมมีค่ากลาง 1.2% เป็น 1.25% แต่ก็ยังอยู่ในกรอบ 0.8-1.6% และปรับสมมติฐานราคาน้ำมันดิบจากเดิม 60-70 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล เป็น 68-73 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล เงินบาท 32-44 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ การบริโภคเพิ่มขึ้น 4.1% เป็นต้น
นางสาวพิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการ สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปของประเทศ (เงินเฟ้อ) เดือน ก.ย. 2561 เท่ากับ 102.57 เพิ่มขึ้น 1.33% เมื่อเทียบกับเดือน ก.ย. 2560 โดยเป็นการเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 15 ติดต่อกัน และเพิ่มขึ้นในอัตราที่ชะลอตัวลง แต่ก็ถือว่าเหมาะสมกับภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน และเมื่อเทียบกับเดือน ส.ค. 2561 เพิ่มขึ้น 0.29% ส่วนเงินเฟ้อเฉลี่ย 9 เดือนของปี 2561 (ม.ค.-ก.ย.) เพิ่มขึ้น 1.14%
ทั้งนี้ เงินเฟ้อในเดือน ก.ย. 2561 ที่เพิ่มขึ้น มีสาเหตุสำคัญมาจากการเพิ่มขึ้นของราคาหมวดพลังงาน ที่เพิ่มขึ้น 8.10% โดยเพิ่มติดต่อกันเป็นเดือนที่ 22 แต่หมวดอาหารสด ลดลง 1.16% หมายความว่า เงินเฟ้อเดือนนี้ปัจจัยหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของหมวดพลังงาน ที่ทำให้ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้นและค่าโดยสารเพิ่มขึ้น ส่วนหมวดอาหารที่ลดลง แม้หลายตัวจะลดลง แต่ก็ไม่สามารถดึงเงินเฟ้อในภาพรวมลดลงได้
นอกจากนี้ยังพบว่า หมวดอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ เพิ่มขึ้น 0.35% โดยสินค้าสำคัญที่เพิ่มขึ้น คือ ข้าวแป้งและผลิตภัณฑ์จากแป้ง เพิ่ม 4.48% เครื่องประกอบอาหาร เพิ่ม 1.98% เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ เพิ่ม 1.88% ไข่และผลิตภัณฑ์นม เพิ่ม 0.18% อาหารบริโภคในบ้าน เพิ่ม 0.91% นอกบ้าน เพิ่ม 1.92% ส่วนผักสด ลด 8.52% ผลไม้สด ลด 3.84% ขณะที่หมวดอื่น ๆ ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่ม เพิ่ม 1.90% จากการสูงขึ้นของหมวดพาหนะการขนส่งและการสื่อสาร เพิ่ม 3.86% โดยเป็นการเพิ่มขึ้นเฉพาะค่าโดยสาร 0.69% น้ำมันเชื้อเพลิง 11.98% เคหสถาน เพิ่ม 0.67% ยาสูบ เพิ่ม 3.86% และการสื่อสารลด 0.07%
อย่างไรก็ตาม แนวโน้มเงินเฟ้อในช่วงที่เหลือของปีนี้ จะยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ตามความต้องการของราคาพลังงานที่มีแนวโน้มสูงขึ้นและราคาผันผวน โดย สนค. ได้ปรับคาดการณ์กรอบเงินเฟ้อใหม่ จากเดิมมีค่ากลาง 1.2% เป็น 1.25% แต่ก็ยังอยู่ในกรอบ 0.8-1.6% และปรับสมมติฐานราคาน้ำมันดิบจากเดิม 60-70 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล เป็น 68-73 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล เงินบาท 32-44 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ การบริโภคเพิ่มขึ้น 4.1% เป็นต้น
