“ธนารักษ์ – ซีพี” แจงปมที่ราชพัสดุโยธะกา ด้านทร.ขอตรวจสอบข้อมูล

20 ก.ย. 2561 | 12:21 น.
52695989
“กรมธนารักษ์ – ซีพี” ชี้แจงกรณีที่ราชพัสดุตำบลโยธะกา ด้านกองทัพเรือขอตรวจสอบข้อมูล


วันนี้ (20ก.ย.61) กรมธนารักษ์ ได้ทำเอกสารชี้แจงประเด็นกรมธนารักษ์ให้เครือเจริญโภคภัณฑ์เช่าที่ราชพัสดุบริเวณ อ.บางน้ําเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา เนื้อที่ 4,000 ไร่ เพื่อจัดตั้งเมืองใหม่ตามนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก โดยเอกสารระบุว่า

“หัวข้อข่าว” ตามที่สํานักข่าวฐานเศรษฐกิจออนไลน์ ได้เสนอข่าวกรณี กรมธนารักษ์ให้เครือเจริญโภคภัณฑ์เช่าที่ราชพัสดุแปลงหมายเลข ทะเบียนที่ ฉช.611 - 614 อ.บางน้ําเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา เนื้อที่ 4,000 ไร่ เพื่อจัดตั้งเมืองใหม่ตามนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก

ความเป็นมา 1. ที่ราชพัสดุแปลงหมายเลขทะเบียนที่ ฉช 611-614 ต.โยธะกา อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา มีเนื้อที่รวมทั้งสิ้น 4,277-0-15 ไร่ อยู่ในความครอบครองของกองทัพเรือ โดยใช้ประโยชน์เป็นที่ตั้งศูนย์ เกษตรกรรมทหารเรือโยธะกา เนื้อที่ประมาณ 1,000 ไร่ สําหรับพื้นที่ ส่วนที่เหลือกองทัพเรือได้นําไปจัดให้ราษฎรเช่าเพื่ออยู่อาศัยและ ประกอบการเกษตร โดยกรมธนารักษ์ได้มอบอํานาจให้กองทัพเรือเป็น ผู้ดําเนินการจัดให้เช่าและเรียกเก็บค่าเช่าให้เป็นไปตามระเบียบ กระทรวงการคลังกําหนด

2. ต่อมาได้มีการประกาศบังคับใช้กฎกระทรวงว่าด้วย หลักเกณฑ์ และวิธีการปกครอง ดูแล บํารุงรักษา ใช้ และจัดหา ประโยชน์เกี่ยวกับที่ราชพัสดุ พ.ศ. 2545 โดยกําหนดให้การจัดให้เช่า ที่ราชพัสดุในจังหวัดอื่น ให้เป็นอํานาจหน้าที่ของผู้ว่าราชการจังหวัด กองทัพเรือจึงได้ส่งมอบรายชื่อผู้เช่าให้จังหวัดฉะเชิงเทราดําเนินการจัด ให้เช่าตั้งแต่ปี 2546 โดยมีเงื่อนไขให้ต่ออายุสัญญาเช่าครั้งละ 1 ปี และต้องได้รับความยินยอมจากกองทัพเรือก่อน

3. ปี พ.ศ. 2557 กองทัพเรือแจ้งว่ามีแผนการใช้ประโยชน์ ที่ราชพัสดุบริเวณที่จัดให้ราษฎรเช่า เพื่อใช้เป็นที่ตั้งกองบังคับการ หมวดเรือที่ 2 กองเรือลําน้ำ กองเรือยุทธการ และที่ตั้งสถานีวิทยุหาทิศ (DF) จึงขอให้ยกเลิกสัญญาเช่า ซึ่งจังหวัดฉะเชิงเทราได้ยกเลิกสัญญา เช่ากับผู้เช่าจํานวน 145 ราย รวม 267 สัญญา เนื้อที่ประมาณ 3,201-1-17.34 ไร่ ตั้งแต่วันที่ 6 ม.ค. 2558 เป็นต้นมา
5659985 ประเด็นชี้แจงข่าว 1. กรมธนารักษ์ได้อนุญาตให้เครือเจริญโภคภัณฑ์ (CP) เช่า ที่ราชพัสดุบริเวณ อ.บางน้ําเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา เนื้อที่ 4,000 ไร่ เพื่อจัดตั้งเมืองใหม่ตามนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกหรือไม่
1.1 ที่ราชพัสดุแปลงดังกล่าวเป็น 1 ใน 7 แปลง ที่กรมธนารักษ์ ได้สํารวจและส่งข้อมูลให้สํานักงานคณะกรรมการนโยบายเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) เพื่อรองรับการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก ซึ่ง สกพอ. ได้พิจารณาและแจ้งความประสงค์ขอใช้ที่ราชพัสดุที่คณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกได้มีมติเห็นชอบให้กําหนดเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษแล้ว จํานวน 2แปลง เท่านั้น ประกอบด้วย

1.1.1 ที่ราชพัสดุแปลงหมายเลขทะเบียนที่ รย.333 อ.บ้านฉาง จ.ระยอง เนื้อที่ประมาณ 6,500 ไร่ ซึ่งกําหนดเป็นเขตส่งเสริม เมืองการบินภาคตะวันออก บริเวณสนามบินนานาชาติอู่ตะเภา จ.ระยอง 1.1.2 ที่ราชพัสดุแปลงหมายเลขทะเบียนที่ ชบ.347 อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เนื้อที่ทั้งแปลงประมาณ 759-2-17 ไร่ ซึ่งกําหนดเป็นเขตส่งเสริมอุตสาหกรรมและนวัตกรรมดิจิทัล (เขต EECd) และเขต ส่งเสริมนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EECi) ณ อุทยานรังสรรค์นวัตกรรมอวกาศ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี

ทั้งนี้ กรมธนารักษ์ได้ส่งมอบพื้นที่ตามข้อ 1.1.1 และ ข้อ 1.1.2 ให้ สกพอ. ดําเนินการแล้ว ส่วนที่ราชพัสดุบริเวณ อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา นั้น ยังไม่ได้กําหนดเป็นเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษ และยังอยู่ในความครอบครองของกองทัพเรือ

2. การพัฒนาที่ราชพัสดุแปลงดังกล่าวเพื่อจัดตั้งเมืองใหม่ ตามนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกสามารถ ดําเนินการได้หรือไม่

หาก สกพอ. พิจารณาแล้วเห็นว่ามีความจําเป็นจะต้องใช้ ที่ราชพัสดุแปลงดังกล่าวเพื่อจัดตั้งเมืองใหม่ตามนโยบายการพัฒนา ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก สกพอ. ต้องได้รับความยินยอมจาก กองทัพเรือผู้ครอบครองใช้ประโยชน์เดิม และจึงเสนอคณะกรรมการ นโยบายเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกกําหนดเป็นเขต ส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษก่อน กรมธนารักษ์จึงจะสามารถส่งมอบพื้นที่ ดังกล่าวให้ สกพอ. พิจารณาดําเนินการตามอํานาจหน้าที่ต่อไป
S__43507725 ด้านเครือเจริญโภคภัณฑ์ ได้ออกแถลงการณ์ซึ่งลงนามโดย นายนพปฎล เดชอุดม ประธานคณะผู้บริหาร ด้านความยั่งยืนองค์กรเครือเจริญโภคภัณฑ์ ระบุว่า เครือเจริญโภคภัณฑ์ เป็นองค์กรเอกชนที่ดําเนินธุรกิจโดยสุจริต และคํานึงถึง ประโยชน์ต่อประเทศชาติเป็นสําคัญ ทั้งยังให้ความเคารพต่อสิทธิเสรีภาพในการนําเสนอ ข่าวสารของสื่อมวลชนที่มีจรรยาบรรณ และตั้งอยู่บนพื้นฐานข้อมูลที่เป็นจริงเสมอมา แต่ในช่วงที่ผ่านมา มีสื่อบางสํานักได้นําเสนอข่าวเกี่ยวกับเครือเจริญโภคภัณฑ์ด้วย ข้อมูลที่เป็นเท็จหลายครั้ง ตัวอย่างเช่น “ซีพียึดที่รัฐ 4,000 ไร่” ซึ่งส่งผลเสียหาย ต่อองค์กร เป็นเหตุให้เครือเจริญโภคภัณฑ์ เสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชัง จากสังคมและประชาชนทั่วไป

ด้วยเหตุนี้ เครือเจริญโภคภัณฑ์ ได้มอบอํานาจให้ นายบัญชา ปรมีศณาภรณ์ ทนายความ เพื่อดําเนินคดีอาญาและคดีแพ่งตามกฎหมาย เพื่อปกป้องศักดิ์ศรีขององค์กร และรักษาไว้ซึ่งความถูกต้องและเป็นธรรมให้เกิดขึ้นในสังคมไทย

[caption id="attachment_320505" align="aligncenter" width="503"]  พล.ร.ต.เชษฐา ใจเปี่ยม พล.ร.ต.เชษฐา ใจเปี่ยม[/caption]

ขณะเดียวกัน “ฐานเศรษฐกิจ” ติดต่อขอสัมภาษณ์ พล.ร.ต.เชษฐา ใจเปี่ยม รองเจ้ากรมกิจการพลเรือนทหารเรือ ในฐานะโฆษกกองทัพเรือ ต่อกรณีดังกล่าว ปรากฏว่าพล.ร.ต.เชษฐา ให้ทีมงานประสานกลับมาแจ้งว่า ยังไม่ทราบรายละเอียดที่แน่ชัดในเรื่องนี้ ขอตรวจสอบข้อมูลก่อน หากให้ข้อมูลไปกลัวจะเกิดความผิดพลาด
e-book-1-503x62-7