'นาฬิกาตึกแถว' เซ่นพิษออนไลน์!

05 ก.ค. 2561 | 13:12 น.

 

 

050761-1951

ร้านนาฬิกาห้องแถววิกฤติหนัก! ทยอยปิดกิจการ หลังนักช็อปหันเลือกซื้อในห้าง-ออนไลน์ ร้านดังในเชียงใหม่โอดยอดขายตกฮวบ 50% ขนทัพสินค้าในสต๊อกกระหน่ำลดราคา 50-60% เล็งยุบสาขาทิ้ง หวังลดต้นทุน พยุงธุรกิจ
ตลาดนาฬิกาเมืองไทย ซึ่งมีมูลค่ารวมเกือบ 5 หมื่นล้านบาท ถือเป็นตลาดที่มีศักยภาพ ด้วยอัตราการเติบโตกว่า 10% ต่อปี และจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง กลายเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ตลาดนี้ถูกแบรนด์ต่างชาติจับจ้อง แต่ขณะเดียวกัน ด้วยพฤติกรรมผู้บริโภคที่ปรับเปลี่ยนหันไปเลือกซื้อผ่านเคาน์เตอร์ในห้างสรรพสินค้าและช่องทางออนไลน์ ตลอดจนร้านค้าปลอดภาษี ส่งผลให้แบรนด์นาฬิกาชั้นนำ เช่น ไซโก้ ต้องปรับกลยุทธ์ ด้วยการลดตัวแทนจำหน่ายในประเทศและเข้ามาลงทุนทำตลาดเอง ส่วนร้านค้านาฬิการายย่อย หรือ ร้านค้านาฬิกาห้องแถว ที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ และเป็นฟันเฟืองสำคัญที่แจ้งเกิดในนาฬิกาแบรนด์ดังหลายรายในอดีต ต้องเผชิญกับปัญหายอดขายและกำไรลดลง จนไม่สามารถแบกรับภาระและต้องปิดกิจการในที่สุด ซึ่งภาพเหล่านี้เริ่มมีให้เห็นในหลายภูมิภาค

 

[caption id="attachment_295576" align="aligncenter" width="335"] วิภาวรรณ มหาดำรงค์กุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศรีทองพาณิชย์ จำกัด วิภาวรรณ มหาดำรงค์กุล
กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศรีทองพาณิชย์ จำกัด[/caption]

โดย นางวิภาวรรณ มหาดำรงค์กุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศรีทองพาณิชย์ จำกัด ผู้นำเข้าและจำหน่ายนาฬิกาแบรนด์ CITIZEN , LUMINOX , Frederique Constant , Ball และ Bulova ฯลฯ เปิดเผยว่า ศรีทองพาณิชย์ถือเป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายแบรนด์นาฬิกาชั้นนำจากทั่วโลก และมีพันธมิตรเป็นร้านค้าย่อยนาฬิกา หรือ โฮลเซล ที่ช่วยจำหน่ายนาฬิกามากที่สุดรายหนึ่งของประเทศ ดังนั้น เมื่อโครงสร้างการขายนาฬิกาโดยภาพรวมเปลี่ยนแปลงไป ทำให้เห็นร้านค้าย่อยนาฬิกาต่าง ๆ ที่ไม่สามารถปรับตัวได้ ทยอยปิดกิจการไป

"วันนี้ผู้บริโภคมีช่องทางที่หาซื้อนาฬิกาได้หลากหลาย ทั้งห้างสรรพสินค้า โลกออนไลน์ รวมถึงร้านค้าปลอดภาษี ดังนั้น ร้านค้านาฬิการายย่อยจึงไม่ได้รับความนิยมเช่นในอดีต ในช่วงพีกสุด ศรีทองฯ เคยมีร้านโฮลเซลมากกว่า 700 ร้านค้า กระจายอยู่ทั่วประเทศ แต่ปัจจุบัน ลดลงเหลือเพียง 120 ร้านค้า ซึ่งสาเหตุของการเลิกกิจการนั้น มีทั้งยอดขายที่ลดลง ทำกำไรได้ไม่เป็นไปตามคาดหวัง ไม่มีการปรับตัวให้ทันกับธุรกิจที่เปลี่ยนแปลง และทายาทไม่สืบต่อกิจการ โดยคาดว่าในปีหน้าจะมีร้านโฮลเซลลดลงเหลือเพียง 80 ร้านค้า เท่านั้น"

 

[caption id="attachment_295577" align="aligncenter" width="503"] ©SplitShire ©SplitShire[/caption]

ด้าน เจ้าของร้านจำหน่ายนาฬิกาชื่อดัง ในย่านตลาดวโรรส เชียงใหม่ กล่าวแสดงความคิดเห็นกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า ร้านเปิดให้บริการทั้งจำหน่ายและซ่อมนาฬิกาข้อมือ แขวนผนังแบรนด์ชั้นนำจากญี่ปุ่น สวิตเซอร์แลนด์ ฯลฯ มากว่า 30 ปี ในตลาดวโรรส แต่มาวันนี้เมื่อมีห้างฯสมัยใหม่เข้ามาเปิดให้บริการจำนวนมากในเชียงใหม่ ทำให้ผู้บริโภคหันไปเลือกซื้อสินค้าและบริการในห้างมากขึ้น ส่งผลให้ตลาดอยู่ในภาวะซบเซา ร้านค้าต่าง ๆ เริ่มมีรายได้ลดลง

"ลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นลูกค้าประจำ มีลูกค้าจากต่างจังหวัดบ้าง เพราะที่นี่มีทั้งขายและรับซ่อม โดยนาฬิกามีระดับราคาตั้งแต่ 100-10,000 บาท ซึ่งช่วงที่ผ่านมา ยอมรับว่ายอดขายลดลงเฉลี่ย 50% แม้ราคานาฬิกาที่ร้านจะถูกกว่าที่วางขายในห้าง"


 

[caption id="attachment_295578" align="aligncenter" width="503"] ©Free-Photos ©Free-Photos[/caption]

ขณะที่ ในย่านตลาดช้างเผือก เป็นอีกแหล่งหนึ่งที่จำหน่ายนาฬิกาข้อมือ นาฬิกาแขวน และศูนย์ซ่อมนาฬิกา รวมทั้งแว่นตา ฯลฯ มากกว่า 10 ร้านค้า ปัจจุบัน ทยอยปิดกิจการไปจำนวนมากเหลือราว 10 ร้านค้า โดยแหล่งข่าวจากร้านศูนย์เวลา-แว่นตาช้างเผือก กล่าวว่า ตลาดช้างเผือกขึ้นชื่อเรื่องของนาฬิกา ทั้งการจำหน่ายและรับซ่อม แต่วันนี้ด้วยสภาพเศรษฐกิจและการแข่งขัน ทำให้ตลาดนาฬิกาค่อนข้างเงียบเหงา

"วันนี้เทียบกับในอดีตไม่ได้ แม้ปัจจุบัน ร้านจะใช้กลยุทธ์ขายนาฬิกาที่มีระดับราคา 2,000-3,000 บาท หรือขายลดราคา 50-60% เพื่อดึงดูดลูกค้า รวมทั้งให้ทายาทเข้ามาช่วยเสริมบริการและช่องทางการขายผ่านทางโลกออนไลน์ แต่ยอดขายก็ยังไม่ดีขึ้น ปัจจุบัน บริษัทจึงไม่นำสินค้าคอลเลกชันใหม่เข้ามาจำหน่าย แต่จะเน้นการขายลดราคาจากสินค้าในสต๊อกเดิม และในอีก 2 ปีข้างหน้า คาดว่าจะยุบสาขาเหลือร้านเดียวเท่านั้น"


GP-3380_180705_0014

……………….
หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,380 วันที่ 5-7 ก.ค. 2561 หน้า 01+15

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

“ไมค์-นาฬิกา”แพงเว่อร์  รัฐสภาใหม่ฉาวไม่เลิก “เงินทอน”คืนใคร???
ป.ป.ช. ยัน! สิ้นเดือน มี.ค. รู้ผล "นาฬิกาบิ๊กป้อม"


e-book-1-503x62