Play
'Mazda CX-8' เพิ่มขนาด-ขยับความหรู
Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่
ใครที่เมิน 'มาสด้า ซีเอ็กซ์-5' ด้วยคิดว่า ตัวถังเล็กไป มีเพียง 5 ที่นั่ง หรือ อเนกประสงค์น้อยกว่าคู่แข่ง อย่าง 'ฮอนด้า ซีอาร์-วี' หรือ 'นิสสัน เอ็กซ์-เทรล' หรือ จับพลัดจับผลูขยับไปหาพีพีวีน้องยักษ์ อย่าง 'โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์' หรือ 'มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต' ซึ่งทุกรุ่นที่กล่าวมาวางเบาะ 3 แถว 7 ที่นั่ง กันทั้งหมด
ดังนั้น การมาของ 'มาสด้า ซีเอ็กซ์-8' ที่เตรียมทำตลาดในเมืองไทยต้นปีหน้า น่าจะเข้ามาเป็นอีกหนึ่งทางเลือก พร้อมช่วยให้ดีลเลอร์ได้กระชุ่มกระชวย 'มาสด้า เซลส์' กระปรี้กระเปร่า จากโปรดักต์ไลน์อัพที่เพิ่มขึ้น แม้ราคาอาจกระโดดไปถึง 2 ล้านบาท ก็ตาม
สำหรับ 'มาสด้า ซีเอ็กซ์-8' เปิดตัวครั้งแรกช่วงปลายปีที่แล้ว และในประเทศญี่ปุ่นเริ่มทยอยส่งมอบให้ลูกค้าตั้งแต่เดือน มี.ค.-เม.ย. ที่ผ่านมา
ผมเพิ่งไปเยือนประเทศญี่ปุ่นตามคำเชิญของ มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย หลัก ๆ ก็ไปเรียนรู้เทคโนโลยี 'สกายแอคทีฟ เอ็กซ์' ด้วยการพัฒนาเครื่องยนต์เบนซินบล็อกใหม่ที่ใช้กำลังอัดในการจุดระเบิดควบคู่กับการจุดระเบิดด้วยหัวเทียน เตรียมใช้กับ 'มาสด้า3 โมเดลเชนจ์' เป็นรุ่นแรก ซึ่งจะเปิดตัวสู่ตลาดโลกปลายปีนี้ และเมืองไทยพร้อมขายปีหน้า
แต่อีกหนึ่งงานที่มาสด้างอกขึ้นมา เพื่อผู้สื่อข่าวชาวไทยโดยเฉพาะ คือ การให้ลองขับ 'มาสด้า ซีเอ็กซ์-8' ภายในแทร็กสั้น ๆ บริเวณโรงงานผลิตรถยนต์ ที่เมืองฮิโรชิมา ถือเป็นการสัมผัสแบบพอหอมปากหอมคอ ทั้งรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ และ 4 ล้อ (ได้ขับรุ่นละ 2 รอบ นั่งด้านหลังอีก 2 รอบ โดยระยะทางต่อรอบประมาณ 4 กม.)
ด้วยตัวถังที่มีความยาวเกือบ 5 เมตร และระยะฐานล้อ 2,930 มม. (เท่ากับ CX-9) ตัวจริงของรถดูใหญ่ เมื่อมองจากภายนอก เช่นเดียวกับระยะต่ำสุดจากพื้น ที่รู้สึกว่า การก้าวเข้าไปในห้องโดยสารต้องยกขาสูงกว่ารถยนต์มาสด้ารุ่นอื่น ๆ
จุดเด่นของ 'ซีเอ็กซ์-8' อยู่ตรงเบอะนั่งแถว 2 สำหรับผู้โดยสารครับ ตรงนี้ลูกค้าสามารถเลือกออพชัน หรือ รุ่นย่อยให้เหมาะกับการใช้งานของตนเอง กล่าวคือ จะเลือกแบบ 2 ที่นั่งคู่ แบบกัปตันซีต (เหมือนรถตู้หรู ๆ) หรือ เลือกเบาะแบบยาวรองรับ 3 ที่นั่ง เหมือนเอสยูวีทั่วไป
ในรุ่นเบาะคู่กัปตันซีต ลูกค้ายังเลือกได้ว่า ตรงกลางจะให้เว้นว่างเป็นวอล์กทรูทะลุผ่านไปยังเบาะหลัง หรือ จะใส่คอนโซลกลางแทรกเข้ามาเผื่อวางแขน ใช้เก็บของและวางแก้วน้ำ ซึ่งการทำตลาดในไทยต้องดูว่า มาสด้าจะวางแผนขายตรงจุดนี้อย่างไร
ส่วนรุ่นที่ผมทดสอบนั้น มีคอนโซลวางอยู่ตรงกลางครับ เมื่อเข้าไปนั่งจริง ๆ พบว่า ระยะห่างช่วงหัวและช่วงขาเหลือเพียบ เบาะหนังรองรับสรีระหลวม ๆ ไม่นุ่ม ไม่แข็ง เกินไป แต่ถ้ามีออพชันแบบดึงโต๊ะออกมาวางของ หรือ ใช้วางโน๊ตบุ๊กเหมือนบนเครื่องบินด้วย ก็น่าจะดี
ขณะที่ เบาะนั่งแถว 3 ผมลองเขาไปนั่งเช่นกัน ตัวใหญ่ ๆ อย่างผม ยังนั่งได้ แต่ถ้านั่งในระยะไกล ๆ อาจจะไม่ไหว เพราะตำแหน่งเท้าวางไม่ค่อยลงตัวนัก ส่วนใครความสูงระดับ 170 ซม. หรือตัวเล็กกว่านี้ ผมว่านั่งสบายครับ
ทั้งนี้ มาสด้ายังแจ้งตัวเลขเพื่อแสดงความอเนกประสงค์ว่า กรณีที่ใช้เบาะนั่งแถว 3 ยังมีพื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลังเหลือ 239 ลิตร สามารถวางถุงกอล์ฟได้ 2 ใบ แต่ถ้าพับเบาะแถว 3 ลงจะเพิ่มพื้นที่ตรงนี้ได้เป็น 572 ลิตร
จุดเด่นที่ส่งให้อารมณ์ของ ซีเอ็กซ์-8 เหนือชั้นขึ้นไปอีก คือ ความเงียบภายในห้องโดยสาร เห็นว่า วิศวกรเพิ่มวัสดุซับเสียงที่หลังคา เสา-ดี (D-Pillar) และซุ้มล้อหลัง ตลอดจนเก็บรายละเอียดการซีลตรงขอบประตูทุกบาน ซึ่งตัวรถใหญ่และสูงขนาดนี้ ยังถือว่า บริหารจัดการเสียงลมปะทะได้ดี
อย่างไรก็ตาม ต้องเข้าใจว่า นี่เป็นการทดสอบในสนามแบบปิด ถนนเรียบ และไร้เสียงจราจรภายนอกด้วยนะครับ
ด้าน เครื่องยนต์สกาย แอคทีฟ-ดี เทอร์โบดีเซล 2.2 ลิตร พัฒนาใหม่ โดยขยับเรี่ยวแรงเพิ่มจาก CX-5 ไปพอสมควร ทั้งแรงม้ามากขึ้น 15 ตัว เป็น 190 แรงม้า แรงบิดเพิ่มอีก 30 นิวตัน-เมตร เป็น 450 นิวตัน-เมตร (มาเต็มที่รอบเครื่องยนต์เท่าเดิม) ซึ่งการตอบสนองออกแนวนุ่มนวลต่อเนื่อง
ขุมพลังและเกียร์ อาจไม่ถึงกับจัดจ้านมากและเซตมาลงตัวกับบุคลิกของเอสยูวีขนาดใหญ่ ที่เน้นความนุ่มนวล แต่กระนั้น ผมยังลองกดคันเร่งลงไปเต็ม ๆ หลังตั้งหลักออกจากโค้ง หวังไต่ความเร็วไปถึง 120 กม./ชม. พบว่า การตอบสนองทันใจ ไม่อืดอาด พร้อมน้ำหนักพวงมาลัยที่หน่วงขึ้น และเสียงเครื่องยนต์ที่ไพเราะเสนาะหู
นั่นเป็นจุดเด่นที่สัมผัสได้คร่าว ๆ ของการทดสอบ 'ซีเอ็กซ์-8' ในระยะเวลาประมาณ 20-30 นาที ที่ฮิโรชิมา ซึ่งถ้าถามตอนนี้ ต้องบอกว่า ผมชอบการนั่งเป็นผู้โดยสารตรงเบาะแถว 2 มากกว่าการขับละครับ
รวบรัดตัดความ ... ถึงวันนี้ 'มาสด้า' มั่นใจในแบรนด์ของตนเองสุด ๆ ว่า เอสยูวีระดับราคา 2 ล้านบาท มีโอกาสขายได้ในเมืองไทย แม้ยอดขายต่อปีอาจจะไม่เยอะ แต่สิ่งที่ค่ายรถจากเมืองฮิโรชิมา หวังมากไปกว่านั้น คือ การมีรถธงที่แสดงถึงความหรูหรา สร้างภาพลักษณ์ให้แบรนด์ดูภูมิฐาน ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องทำควบคู่กันไปกับแผนพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์-สมรรถนะการขับขี่ ที่ผู้คนฝังใจไปแล้วว่า มาสด้าขับดี ช่วงล่างนุ่มแน่น ใกล้เคียงรถยุโรป
……………….
คอลัมน์ : เทสต์ไดรฟ์ โดย กรกิต กสิคุณ
หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,373 วันที่ 10-13 มิ.ย. 2561 หน้า 33
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
● 5 สิ่งใหม่ที่ต้องรู้ก่อนเปิดตัวมาสด้า3 โมเดลเชนจ์
● มาสด้าจุดประกายองค์กรเพิ่มพลังตอบแทนสังคม
ดังนั้น การมาของ 'มาสด้า ซีเอ็กซ์-8' ที่เตรียมทำตลาดในเมืองไทยต้นปีหน้า น่าจะเข้ามาเป็นอีกหนึ่งทางเลือก พร้อมช่วยให้ดีลเลอร์ได้กระชุ่มกระชวย 'มาสด้า เซลส์' กระปรี้กระเปร่า จากโปรดักต์ไลน์อัพที่เพิ่มขึ้น แม้ราคาอาจกระโดดไปถึง 2 ล้านบาท ก็ตาม
สำหรับ 'มาสด้า ซีเอ็กซ์-8' เปิดตัวครั้งแรกช่วงปลายปีที่แล้ว และในประเทศญี่ปุ่นเริ่มทยอยส่งมอบให้ลูกค้าตั้งแต่เดือน มี.ค.-เม.ย. ที่ผ่านมา
ผมเพิ่งไปเยือนประเทศญี่ปุ่นตามคำเชิญของ มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย หลัก ๆ ก็ไปเรียนรู้เทคโนโลยี 'สกายแอคทีฟ เอ็กซ์' ด้วยการพัฒนาเครื่องยนต์เบนซินบล็อกใหม่ที่ใช้กำลังอัดในการจุดระเบิดควบคู่กับการจุดระเบิดด้วยหัวเทียน เตรียมใช้กับ 'มาสด้า3 โมเดลเชนจ์' เป็นรุ่นแรก ซึ่งจะเปิดตัวสู่ตลาดโลกปลายปีนี้ และเมืองไทยพร้อมขายปีหน้า
แต่อีกหนึ่งงานที่มาสด้างอกขึ้นมา เพื่อผู้สื่อข่าวชาวไทยโดยเฉพาะ คือ การให้ลองขับ 'มาสด้า ซีเอ็กซ์-8' ภายในแทร็กสั้น ๆ บริเวณโรงงานผลิตรถยนต์ ที่เมืองฮิโรชิมา ถือเป็นการสัมผัสแบบพอหอมปากหอมคอ ทั้งรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ และ 4 ล้อ (ได้ขับรุ่นละ 2 รอบ นั่งด้านหลังอีก 2 รอบ โดยระยะทางต่อรอบประมาณ 4 กม.)
ด้วยตัวถังที่มีความยาวเกือบ 5 เมตร และระยะฐานล้อ 2,930 มม. (เท่ากับ CX-9) ตัวจริงของรถดูใหญ่ เมื่อมองจากภายนอก เช่นเดียวกับระยะต่ำสุดจากพื้น ที่รู้สึกว่า การก้าวเข้าไปในห้องโดยสารต้องยกขาสูงกว่ารถยนต์มาสด้ารุ่นอื่น ๆ
จุดเด่นของ 'ซีเอ็กซ์-8' อยู่ตรงเบอะนั่งแถว 2 สำหรับผู้โดยสารครับ ตรงนี้ลูกค้าสามารถเลือกออพชัน หรือ รุ่นย่อยให้เหมาะกับการใช้งานของตนเอง กล่าวคือ จะเลือกแบบ 2 ที่นั่งคู่ แบบกัปตันซีต (เหมือนรถตู้หรู ๆ) หรือ เลือกเบาะแบบยาวรองรับ 3 ที่นั่ง เหมือนเอสยูวีทั่วไป
ในรุ่นเบาะคู่กัปตันซีต ลูกค้ายังเลือกได้ว่า ตรงกลางจะให้เว้นว่างเป็นวอล์กทรูทะลุผ่านไปยังเบาะหลัง หรือ จะใส่คอนโซลกลางแทรกเข้ามาเผื่อวางแขน ใช้เก็บของและวางแก้วน้ำ ซึ่งการทำตลาดในไทยต้องดูว่า มาสด้าจะวางแผนขายตรงจุดนี้อย่างไร
ส่วนรุ่นที่ผมทดสอบนั้น มีคอนโซลวางอยู่ตรงกลางครับ เมื่อเข้าไปนั่งจริง ๆ พบว่า ระยะห่างช่วงหัวและช่วงขาเหลือเพียบ เบาะหนังรองรับสรีระหลวม ๆ ไม่นุ่ม ไม่แข็ง เกินไป แต่ถ้ามีออพชันแบบดึงโต๊ะออกมาวางของ หรือ ใช้วางโน๊ตบุ๊กเหมือนบนเครื่องบินด้วย ก็น่าจะดี
ขณะที่ เบาะนั่งแถว 3 ผมลองเขาไปนั่งเช่นกัน ตัวใหญ่ ๆ อย่างผม ยังนั่งได้ แต่ถ้านั่งในระยะไกล ๆ อาจจะไม่ไหว เพราะตำแหน่งเท้าวางไม่ค่อยลงตัวนัก ส่วนใครความสูงระดับ 170 ซม. หรือตัวเล็กกว่านี้ ผมว่านั่งสบายครับ
ทั้งนี้ มาสด้ายังแจ้งตัวเลขเพื่อแสดงความอเนกประสงค์ว่า กรณีที่ใช้เบาะนั่งแถว 3 ยังมีพื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลังเหลือ 239 ลิตร สามารถวางถุงกอล์ฟได้ 2 ใบ แต่ถ้าพับเบาะแถว 3 ลงจะเพิ่มพื้นที่ตรงนี้ได้เป็น 572 ลิตร
จุดเด่นที่ส่งให้อารมณ์ของ ซีเอ็กซ์-8 เหนือชั้นขึ้นไปอีก คือ ความเงียบภายในห้องโดยสาร เห็นว่า วิศวกรเพิ่มวัสดุซับเสียงที่หลังคา เสา-ดี (D-Pillar) และซุ้มล้อหลัง ตลอดจนเก็บรายละเอียดการซีลตรงขอบประตูทุกบาน ซึ่งตัวรถใหญ่และสูงขนาดนี้ ยังถือว่า บริหารจัดการเสียงลมปะทะได้ดี
อย่างไรก็ตาม ต้องเข้าใจว่า นี่เป็นการทดสอบในสนามแบบปิด ถนนเรียบ และไร้เสียงจราจรภายนอกด้วยนะครับ
ด้าน เครื่องยนต์สกาย แอคทีฟ-ดี เทอร์โบดีเซล 2.2 ลิตร พัฒนาใหม่ โดยขยับเรี่ยวแรงเพิ่มจาก CX-5 ไปพอสมควร ทั้งแรงม้ามากขึ้น 15 ตัว เป็น 190 แรงม้า แรงบิดเพิ่มอีก 30 นิวตัน-เมตร เป็น 450 นิวตัน-เมตร (มาเต็มที่รอบเครื่องยนต์เท่าเดิม) ซึ่งการตอบสนองออกแนวนุ่มนวลต่อเนื่อง
ขุมพลังและเกียร์ อาจไม่ถึงกับจัดจ้านมากและเซตมาลงตัวกับบุคลิกของเอสยูวีขนาดใหญ่ ที่เน้นความนุ่มนวล แต่กระนั้น ผมยังลองกดคันเร่งลงไปเต็ม ๆ หลังตั้งหลักออกจากโค้ง หวังไต่ความเร็วไปถึง 120 กม./ชม. พบว่า การตอบสนองทันใจ ไม่อืดอาด พร้อมน้ำหนักพวงมาลัยที่หน่วงขึ้น และเสียงเครื่องยนต์ที่ไพเราะเสนาะหู
นั่นเป็นจุดเด่นที่สัมผัสได้คร่าว ๆ ของการทดสอบ 'ซีเอ็กซ์-8' ในระยะเวลาประมาณ 20-30 นาที ที่ฮิโรชิมา ซึ่งถ้าถามตอนนี้ ต้องบอกว่า ผมชอบการนั่งเป็นผู้โดยสารตรงเบาะแถว 2 มากกว่าการขับละครับ
รวบรัดตัดความ ... ถึงวันนี้ 'มาสด้า' มั่นใจในแบรนด์ของตนเองสุด ๆ ว่า เอสยูวีระดับราคา 2 ล้านบาท มีโอกาสขายได้ในเมืองไทย แม้ยอดขายต่อปีอาจจะไม่เยอะ แต่สิ่งที่ค่ายรถจากเมืองฮิโรชิมา หวังมากไปกว่านั้น คือ การมีรถธงที่แสดงถึงความหรูหรา สร้างภาพลักษณ์ให้แบรนด์ดูภูมิฐาน ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องทำควบคู่กันไปกับแผนพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์-สมรรถนะการขับขี่ ที่ผู้คนฝังใจไปแล้วว่า มาสด้าขับดี ช่วงล่างนุ่มแน่น ใกล้เคียงรถยุโรป
……………….
คอลัมน์ : เทสต์ไดรฟ์ โดย กรกิต กสิคุณ
หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,373 วันที่ 10-13 มิ.ย. 2561 หน้า 33
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
● 5 สิ่งใหม่ที่ต้องรู้ก่อนเปิดตัวมาสด้า3 โมเดลเชนจ์
● มาสด้าจุดประกายองค์กรเพิ่มพลังตอบแทนสังคม
