พาณิชย์เปิดตลาดใหม่ จับมือโมเดิร์นเทรดทำตลาด “แปรรูป-น้ำนมข้าว” กรมการข้าวได้ทีเฟ้น “แปลงใหญ่” เพิ่มผลิต กข43 อีก 1.8 แสนไร่

11 พ.ค. 2561 | 06:05 น.
- 11 พ.ค. 61 - นายอนันต์ สุวรรณรัตน์ อธิบดีกรมการข้าว เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่กรมการข้าวร่วมกับมหาวิทยาลัยมหิดลวิจัยพบว่า ข้าว กข43 เป็นข้าวขาวที่มีดัชนีน้ำตาลปานกลางค่อนข้างต่ำ มีคุณภาพการหุงต้มดี เหนียวนุ่ม มีกลิ่นหอม เหมาะสำหรับผู้บริโภคที่ต้องการดูแลสุขภาพที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก กลุ่มผู้ป่วยเบาหวานและโรคไต

กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จึงบูรณาการความร่วมมือดำเนินการภายใต้แผนการผลิตและการตลาดข้าวครบวงจร ให้กรมการข้าวส่งเสริมการผลิตข้าว กข43 ในระบบนาแปลงใหญ่และมีกระทรวงพาณิชย์วางแผนด้านการตลาดนั้น

ผลการส่งเสริมการผลิตข้าว กข43 ปี 2560 เพาะปลูกฤดูนาปี ปี 2560/2561 ในจังหวัดสุพรรณบุรีและชัยนาท จำนวน 75 ไร่ ได้ผลผลิตข้าวเปลือก 55 ตัน แปรรูปเป็นข้าวสาร 100% ชั้น1 ได้ 19 ตัน ส่วนในฤดูนาปรัง ปี 2561 ขยายพื้นที่ปลูกใน 4 จังหวัด ได้แก่ ปทุมธานี เพชรบุรี พระนครศรีอยุธยา และอุทัยธานี จำนวน 3,191 ไร่ เริ่มปลูกตั้งแต่เดือนธ.ค. 2560 ถึง ม.ค. 2561และเก็บเกี่ยวไปแล้วระหว่างเดือนก.พ. ถึง มี.ค. 2561 ได้ผลผลิตข้าวเปลือก 1,643 ตัน S__4882436

“การผลิตข้าวเพื่อสุขภาพ กข43 ให้มีคุณภาพต้องมีการควบคุมการผลิตตลอดห่วงโซ่อุปทาน ตั้งแต่กระบวนการเพาะปลูกจนกระทั่งแปรรูป กรมการข้าวจึงรับสมัครและคัดเลือกเกษตรกรเข้าร่วมโครงการนาแปลงใหญ่เพื่อผลิตข้าวตามมาตรฐาน GAP"

มีการขึ้นทะเบียนเพื่อรับการอุดหนุนเมล็ดพันธุ์ข้าวจำนวน 30% ของพื้นที่ปลูก และสีแปรเป็นข้าวสารโดยโรงสีข้าวที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน GMP เท่านั้น จึงจะได้ข้าวสารที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน Q และเครื่องหมายรับรองข้าวพันธุ์แท้ซึ่งเป็นตราสัญลักษณ์ที่กรมการข้าวเริ่มใช้เป็นครั้งแรก เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในคุณภาพของสินค้า ทั้งนี้ ผู้บริโภคยังสามารถตรวจสอบกระบวนการผลิตย้อนกลับด้วยระบบ QR Trace ได้อีกด้วย” อธิบดีกรมการข้าวกล่าว

ทั้งนี้ กรมการข้าวได้กำหนดแผนการผลิตข้าวปี 2561/62 ขยายพื้นที่ผลิตข้าว กข43 ในเขตภาคกลางและเหนือตอนล่าง จำนวน 180,000 ไร่ คาดการณ์จะได้ผลผลิต จำนวน 197,000 ตันข้าวเปลือก โดยมีเกษตรกรสนใจเข้าร่วมโครงการและเริ่มปลูกแล้วประมาณ 20,000 ไร่ เนื่องจากมีอายุเก็บเกี่ยวสั้นเพียง 95 วันเมื่อปลูกโดยวิธีหว่านน้ำตม ต้านทานต่อโรคใบไหม้และเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล ให้ผลผลิตต่อไร่เฉลี่ย 561 กิโลกรัม/ไร่

อย่างไรก็ตาม เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่เกษตรกรผู้ปลูกข้าว กข43 มีตลาดรองรับผลผลิตและสามารถจำหน่ายข้าวในราคาที่เป็นธรรม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์และกระทรวงพาณิชย์จึงได้จัดให้มีพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเชื่อมโยงการรับซื้อข้าว กข43 จำนวน 1,121 ตันข้าวเปลือก และผลิตภัณฑ์น้ำนมข้าว ระหว่างสหกรณ์การเกษตร ผู้ประกอบการ และโมเดิร์นเทรดในวันศุกร์ที่ 11 พ.ค. 2561 ณ ห้องประชุมตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล 4DQpjUtzLUwmJZZPDd02FC8NrtoCbg5agW5D4aSul6pv

โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้เกียรติเป็นประธานและเป็นสักขีพยาน ใน 2 ประเด็นหลัก ดังนี้ 1. บันทึกข้อตกลงความร่วมมือเชื่อมโยงผู้ประกอบการแปรรูปข้าว กข43 จำนวน 7 ราย ได้แก่ บริษัท ข้าวอิ่มทิพย์ จำกัด ห้างหุ้นส่วนจำกัด โชคฉัตรไชยไรซ์มิล บริษัท ไทยฮา จำกัด (มหาชน) ห้างหุ้นส่วนจำกัด ป.รุ่งเรืองธัญญา บริษัท ผกากาญจน์ จำกัด

บริษัท เมดิฟูดส์ (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท ปทุมไรซ์มิล จำกัด กับผู้ประกอบการโมเดิร์นเทรด จำนวน 4 ราย ได้แก่ เทสโก้โลตัส บิ๊กซีซุปเปอร์เซ็นเตอร์ เดอะมอลล์ กรุ๊ป และเซ็นทรัลฟูดส์ เพื่อวางจำหน่ายข้าว กข43 ในห้างโมเดิร์นเทรดโดยไม่คิดค่าธรรมเนียมในการนำสินค้าเข้าวางจำหน่าย และจะคิดค่าใช้จ่ายและกำไรในอัตราลดพิเศษ ซึ่งจะเริ่มจัดจำหน่ายได้ตั้งแต่กลางเดือนพ.ค. 2561 เป็นต้นไป

2. ดำเนินการตามนโยบายโดยการผลักดันให้มีการแปรรูปข้าวเป็นผลิตภัณฑ์น้ำนมข้าว โดยให้มีการเชื่อมโยงระหว่างเกษตรกรกลุ่มข้าวอินทรีย์นาโคก ต.ศรีสำราญ อ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ ผู้ผลิตแปรรูปและผู้จัดจำหน่าย เพื่อให้มีการซื้อวัตถุดิบในการผลิตภัณฑ์น้ำนมข้าวจากกลุ่มเกษตรกรโดยตรงในราคานำตลาด โดยมีแผนการจะนำผลิตภัณฑ์น้ำนมข้าวออกวางตลาดเร็วๆ นี้