"เจพี มอร์เเกน" ชี้ เหตุถล่ม "ซีเรีย" ราคาน้ำมันโลกเเตะ 80 ดอลลาร์/บาร์เรล
ธนาคารเจพี มอร์แกน ระบุหลังสามชาติพันธมิตรคือสหรัฐฯ อังกฤษเเละฝรั่งเศสโจมตีซีเรียไปเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาเเละอาจส่งผลกระทบกับราคาน้ำมันในตลาดโลกเพราะซีเรียคือหนึ่งประเทศที่ส่งออกน้ำมัน หากสถานการณ์ในซีเรียไม่ขยายวงหรือบานปลายกรณีนี้จะกระทบต่อราคาน้ำมันไม่มาก เพราะซีเรียผลิตน้ำมันดิบคิดเป็น 0.4% ของการผลิตทั่วโลกว่า ราคาน้ํามันโลกมีแนวโน้มจะปรับตัวเพิ่มขึ้นอีก โดยราคาน้ํามันดิบเบรนต์อาจไต่ระดับขึ้น แตะ 80 ดอลลาร์/บาร์เรล จากปัจจุบันอยู่ที่ราว 72.58 ดอลลาร์/บาร์เรล
นายจอห์น นอร์แมน นักกลยุทธ์ของเจพี่ มอร์แกน ให้มุมมองกับสำนักข่าวบลูมเบิร์ก หากสภาพภูมิรัฐศาสตร์ในตะวันออกกลางตึงเครียดเพิ่มขึ้นว่า ราคาน้ํามันอาจขยับสูงขึ้น หากบรรดาชาติมหาอํานาจตะวันตกขยายขอบเขตการโจมตีซีเรียออกไปอีก หรือสหรัฐฯและสหภาพยุโรป (อียู) ดําเนินมาตรการคว่ำบาตรรอบใหม่กับอิหร่าน ซึ่งเป็นผู้ส่งออกน้ํามันและก๊าซธรรมชาติรายใหญ่ของโลก
นพ.กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธานบริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก เปิดเผยว่า วันนี้เป็นวันแรกของการเปิดตลาดทองคํา ภายหลังเหตุการณ์สหรัฐฯโจมตีซีเรีย คาดว่าจะส่งผลให้ราคาทองคําในตลาดโลกปรับตัวขึ้น 15 ดอลลาร์/ออนซ์ มา อยู่ที่ 1,360 ดอลลาร์/ออนซ์ จากเมื่อวันศุกร์ปิดที่ 1,345 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่งผลให้ราคาทองคําในประเทศปรับขึ้นบาท ละ 150 บาท หรือเพิ่มขึ้นจาก 19,750 บาท เมื่อวันที่ 14 เม.ย.ที่ผ่านมา เป็น 19,900 บาท หากสงครามไม่ยืดเยื้อและ ไม่ลุกลาม จะส่งผลให้ราคาปรับตัวลดลงใน 1 สัปดาห์
"คาดว่าทั้งปีราคาทองคําจะปรับเพิ่มขึ้นไปถึง 1,400 ดอลลาร์/ออนซ์ หรือเกือบ 10% ในช่วงปลายปี จาก ต้นปีที่ 1,260 ดอลลาร์/ออนซ์ แต่ทองคําสกุลบาทจะขึ้นมาเพียง 5% เป็นบาทละ 20,500 บาท จากต้นปีบาทละ 18,900 บาท เพราะค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น 5% จากปัจจุบันนับตั้งแต่ต้นปีแข็งค่าขึ้นมาแล้ว 3-4% และนับว่าแข็งค่าที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อย่างไรก็ตามค่าเงินบาทก็นับว่าแข็งน้อยกว่าปีก่อนที่แข็งค่าขึ้นถึง 12%"
