เตือนวิกฤติศรัทธารัฐ เดินตามกสทช.อุ้มมือถือ

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

คณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ หรือ คสช. เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2561 ไม่เห็นชอบให้มีการออกคำสั่งมาตรา 44 ช่วยเหลือผู้ประกอบการประมูลคลื่น 900 เมกะเฮิรตซ์ ของบริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด หรือ เอดับบลิวเอ็น และ บริษัท ทรูมูฟ เอชยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น จำกัด หรือ ทียูซี ที่ขอยืดเวลาชำระในงวดที่ 4 ออกไป และให้สำนักงานกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. ทำเอกสารลายลักษณ์อักษรชัดเจนเสนอมาใหม่ถึงความจำเป็นในการยืดจ่ายค่างวดออกไป

กสทช.ภายใต้การนำของนายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช.เร่งทำเอกสารอย่างรวดเร็ว แจกแจงความจำเป็นในการช่วย 2 ผู้ประกอบการโทรศัพท์มือถือ แบบเบ็ดเสร็จไร้รอยต่อ เสมือนหนึ่งศึกษาข้อมูลความพร้อมความจำเป็นเรื่องนี้มาเป็นอย่างดี สามารถสรุปข้อเสนอได้ทันที ฉับไวจนน่าตกใจเมื่อเปรียบเทียบกับการทำเรื่องยากอื่นๆ เป็นความรวดเร็วในท่ามกลางเสียงคัดค้านของทั้งนักวิชาการ องค์กรภาคเอกชนและสื่อมวลชน ที่มีแนวความคิดสวนทางกับกสทช.โดยสิ้นเชิง

กสทช.แจกแจงถี่ยิบผลดีของการยืดค่างวด อาทิ รัฐได้ดอกเบี้ยจาก 2 บริษัทรวมกันกว่า 7 พันล้านบาท และยังวิเคราะห์ไปข้างหน้าทั้ง 2 รายจะกลับมาแข่งขันประมูลคลื่น 1800 อันเนื่องมาจากได้รับการผ่อนคลายทางการเงิน และเกิดการแข่งขันมากขึ้น เพราะกู้เงินได้และมีโอกาสเฉลี่ยต้นทุน ที่สำคัญยังวิเคราะห์ชี้ไปด้วยว่าหากมีการประมูลคลื่น 1800 ใน 3 ใบอนุญาตรัฐจะมีรายได้สูงถึง 2.9 แสนล้านบาทในปี 2567 แต่ถ้าไม่มีประมูลและไม่ยืดหนี้รัฐจะมีรายได้แค่ 1.66 แสนล้านบาทเท่านั้น
กสทช.ชี้ชัดฟันธงว่าจะไม่มีการฟ้องร้องแถมวิเคราะห์ฐานะทางการเงิน แผนการทางการเงินให้กับบริษัทมือถืออย่างเสร็จสรรพ รองรับโจทย์ของบริษัทมือถือมากกว่าคำนึงถึงผลประโยชน์ของรัฐ ประชาชนหรือไม่ และการเอื้อให้กับบริษัท 2 ราย จะเป็นการต่อยอดสร้างให้เกิดการผูกขาดหรือไม่ ประชาชนเสียประโยชน์หรือไม่หากเป็นเช่นนั้น เป็นมุมมองที่แฝงด้วยความกังวล จากเลขาธิการองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช.ต้องคิด วิเคราะห์ ไตร่ตรองเรื่องนี้อย่างรอบคอบ และระมัด ระวัง ในการออกมติเพื่อผูกพันไปตามข้อเสนอกสทช. เพราะทั้งมติคสช.หรือมติครม. มีผลสะเทือนในแง่กฎระเบียบ กติกาการทำธุรกิจ ข้อเสนอที่กสทช.เสนอมานั้นเป็นการคิดแทนบริษัทมือถือแทบทั้งหมด ซึ่งก่อให้เกิดความแคลงใจของประชาชน ทำให้ความมั่นใจต่อรัฐบาลที่มีเหลือน้อยอยู่แล้ว ต้องเหลือน้อยลงไปอีก นำไปสู่การตอกยํ้าวิกฤติศรัทธา นายกฯจำต้องเลือกหยุดกสทช.อาจเป็นแนวทางที่ทำได้ง่ายกว่าหรือเดินตามกสทช.ที่จะนำไปสู่ความเสื่อมทรุดเร็วขึ้น
.....................
บทบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3354 ระหว่าง วันที่ 3-5 เมษายน 2561
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง............

[caption id="attachment_273835" align="aligncenter" width="503"]