หวังเป้าขายตปท.1หมื่นล. แสนสิริขยายฐานลูกค้าญี่ปุ่น-เกาหลีใต้เสริมจีน

25 มี.ค. 2561 | 02:02 น.
แสนสิริผงาด เดินเกมบุกตลาดต่างชาติ ตั้งเป้ายอดขายเพิ่มเป็น 40% เน้นลูกค้าจีน ฮ่องกง สิงคโปร์เป็นหลัก พร้อมขยายกลุ่มญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ เผยระดับราคา 5-10 ล้านบาทเป็นที่ต้องการสูง

นายอภิชาติ จูตระกูล ประธานอำนวยการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงความนิยมที่เพิ่มขึ้นของตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยในกลุ่มนักลงทุนต่างชาติ ว่าหลังจากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจมีทิศทางเติบโตต่อเนื่อง สอดคล้องกับเศรษฐกิจโลก ส่งผลให้มีแรงดึงดูดของนักลงทุนต่างชาติเพิ่มขึ้นและเอื้อให้ธุรกิจอสังหาฯของไทยเติบโตขึ้นด้วย โดยคาดว่าปี 2561 ตลาดอสังหาฯจะเติบโตได้ 9-10% หากจีดีพีในประเทศขยายตัวได้ประมาณ 4.5% ตามคาดการณ์

[caption id="attachment_270400" align="aligncenter" width="335"] อภิชาติ จูตระกูล อภิชาติ จูตระกูล[/caption]

ปีนี้แสนสิริ เตรียมโครงการที่จะออกสู่ตลาดรวมทั้งสิ้น 31 โครงการ เป็นกลุ่มคอนโดมิเนียม 12 โครงการ ที่เหลือเป็นกลุ่มแนวราบ มูลค่ารวม 6.5 หมื่นล้านบาท ตั้งเป้าเจาะกลุ่มลูกค้าต่างชาติเพิ่มขึ้นเป็น 40% จากสัดส่วน 25% ของกลุ่มลูกค้าทั้งหมดในปีที่แล้ว หลังจากปีที่ผ่านมา บริษัทมียอดขายจากลูกค้าต่างชาติมากที่สุดในไทยสูงถึง 9.3 พันล้านบาท เติบโตขึ้นกว่า 72% จากปีที่แล้ว ด้วยยอดขายกว่า 1 หมื่นล้านบาท ขณะที่ปีนี้ตั้งเป้ารายได้เฉพาะกลุ่มลูกค้าต่างชาติ 1.3 หมื่นล้านบาท จากคาดการณ์รายได้รวมที่ 3 หมื่นล้านบาท ซึ่งตลาดหลักยังคงเป็นกลุ่มชาวจีน และฮ่องกง

“จากตัวเลขยอดขายต่างชาติที่วางไว้ เราประเมินว่าจะมาจากตลาดจีน 5,220 ล้านบาท ประมาณ 40% จากยอดขายรวมกลุ่มตลาดต่างชาติ รองลงมาคือ ฮ่องกง 4,350 ล้านบาท สิงคโปร์ 1,300 ล้านบาท และไต้หวัน 630 ล้านบาท ขณะเดียวกันเตรียมจะรุกขยายตลาดไปยังลูกค้าชาวญี่ปุ่นและเกาหลีใต้เพิ่มมากขึ้นด้วย ซึ่งจะเป็นทั้งกลุ่มนักธุรกิจ นักท่องเที่ยว และกลุ่มนักลงทุน ในกลุ่มราคาขายเฉลี่ย 5-10 ล้านบาทต่อหน่วยที่ได้รับความนิยมสูงสุด” นายอภิชาติ กล่าว

[caption id="attachment_130382" align="aligncenter" width="503"] R34-3236-A อุทัย อุทัยแสงสุข[/caption]

ด้าน นายอุทัย อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฏิบัติการ บริษัทแสนสิริฯ กล่าวเสริมว่า ที่ผ่านมาตลาดอสังหาฯในไทย ได้รับความนิยมสูงจากชาวต่างชาติ โดยเฉพาะในจังหวัดเมืองท่องเที่ยว ทั้งเชียงใหม่ ภูเก็ต และกรุงเทพฯ ซึ่งบางส่วนซื้อเพื่อเก็งกำไร พร้อมชี้ว่า ลูกค้าต่างชาติเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อและศักยภาพสูงมากที่บริษัทอสังหาฯจะเจาะตลาด แต่ทั้งนี้การบุกตลาดในกลุ่มดังกล่าวเป็นเรื่องยากสำหรับดีเวลอปเปอร์ไทย เนื่อง จากต้องอาศัยเงินทุนมหาศาล การทำ การตลาดที่ดี หรือทีมงานที่มีศักยภาพ รวมถึงการสร้างเครือข่ายในต่างประเทศผ่านพาร์ตเนอร์ที่น่าเชื่อถือ ทั้งโครงการที่ออกสู่ตลาดต้องเป็นที่ตอบรับด้วย ซึ่งที่ผ่านมามีเพียงไม่กี่รายที่ประสบความสำเร็จ

ทั้งนี้ปัจจุบัน แสนสิริ จับมือกับพันธมิตรธุรกิจต่างประเทศในลักษณะเข้าไปถือหุ้นรวม 6 บริษัท มีตัวแทนจำหน่ายรวม 300 ราย และมีสาขาในต่างประเทศรวม 6 แห่ง คือ ฮ่องกง สิงคโปร์ และอีก 4 แห่งในจีน

แบนเนอร์รายการฐานยานยนต์ ขณะที่ การจัดงานเสวนาตัวแทนอสังหาริมทรัพย์ทั่วโลกในกรุงเทพฯครั้งแรกของไทย เมื่อวันที่ 16 มีนาคมที่ผ่าน มานั้น นายอุทัยเผยว่ามีตัวแทนผู้จำหน่าย ของบริษัทในประเทศต่างๆ เข้าร่วมกว่า 300 ราย พร้อมทั้งผู้เชี่ยวชาญของแต่ ละอุตสาหกรรม ทั้งภาครัฐและเอกชนเข้าร่วมด้วย เพื่อเข้ารับฟังข้อมูลเกี่ยวกับโอกาสการขายและการลงทุนในตลาด อสังหาฯของไทย โดยความสำคัญนั้น แสนสิริยังเปิดเผยแผนดำเนินธุรกิจร่วมกับพาร์ตเนอร์สำคัญๆ ทั้งในลักษณะการเข้าไปถือห้น หรือลงทุนร่วม และสนับ สนุนบริการที่เกี่ยวเนื่องกับการขาย เช่น กลุ่มบีทีเอส, Tokyu, เครือ The Standard International (เดอะ สแตนดาร์ด อินเตอร์เนชั่นแนล) ที่ปัจจุบันเปิดสาขาอยู่แล้วในเมืองใหญ่ทั่วโลก เช่น ฮอลลีวูด นิวยอร์ก, กลุ่มบริษัท Hostmaker บริษัทด้านเทคโนโลยีเกี่ยวกับการจัดการอสังหาริมทรัพย์จากลอนดอน ให้บริการ เช่าที่พักอาศัย และจองที่พัก ซึ่งเชื่อว่าพาร์ตเนอร์ทั้งหมด จะเอื้อประโยชน์ต่อการดำเนินธุรกิจ และการตีตลาดกลุ่มลูกค้าต่างชาติในอนาคตได้

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,350 วันที่ 22 - 24 มีนาคม พ.ศ. 2561
ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว