‘สมคิด’ไล่บี้โรดแมปท่องเที่ยว หนุน‘โลคัลอินดัสตรี’-ดันรายได้ทะลุ3ล้านล้าน
การประชุมคณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ (ท.ท.ช.) เป็นครั้งแรกที่ “สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” รองนายกรัฐมนตรี นั่งหัวโต๊ะเป็นประธานในที่ประชุม เมื่อไม่กี่วันก่อน “ฐานเศรษฐกิจ” ได้จับประเด็นแบบคำต่อคำมานำเสนอ
++ท่องเที่ยวสำคัญอันดับ1
รองสมคิด ยํ้าในที่ประชุมว่า เรื่องการท่องเที่ยว เราให้ความสำคัญเป็นอันดับ1 และไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เป็นนโยบายที่จะทำให้เกิดการพัฒนาจริงๆ ในเรื่องของ Local Industry ทุกวันนี้ จีดีพี ของเรามันมีอยู่แค่การส่งออกสินค้า ที่มีอยู่ไม่กี่ประเภท ตัวที่จะทำให้ “โลคัล อินดัสตรี” แข็งแรง คือ “การท่องเที่ยว” ฉะนั้นถ้าเราสามารถพัฒนาการท่องเที่ยวออกไปได้ สินค้าการเกษตรก็สามารถป้อนสู่การท่องเที่ยวได้ วิสาหกิจชุมชนก็ป้อนเข้ามาได้ สินค้าจากชุมชนก็จะสามารถป้อนสู่การท่องเที่ยวได้ และความ เจริญก็จะไม่มากระจุกตัวอยู่แค่ผู้ประกอบการไม่กี่ราย เรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญ ในอดีตเราเน้นการโปรโมตมากกว่า การพัฒนาท่องเที่ยว
เมื่อพูดถึงการพัฒนาท่องเที่ยวต้องมียุทธศาสตร์ ใน 5 และ 10 ปีข้างหน้าว่าจะเน้นเส้นทางไหนอย่างไร ก็จะพัฒนาเส้นทาง สินค้า ผู้ประกอบการ และมหาวิทยาลัยต่างๆ ก็สามารถเตรียมการมารองรับได้ ถ้าไม่มีสิ่งเหล่านี้เลย ก็ไม่สามารถผลิตชิ้นงานออกมาได้ ยกตัวอย่างง่ายๆ ผมเชื่อเลยว่าผู้ผลิตนโยบายเมืองรองที่ออกไป มันจะเริ่มมีผลให้ท้องถิ่นเองมีนักท่องเที่ยวเข้าไปมากขึ้น แต่เราต้องมีแผนรองว่า เมืองไหนบ้าง เส้นทางไหน แถบไหน การตลาดจะเป็นอย่างไร พอมีแล้วทุกอย่างก็จะตามไป
[caption id="attachment_270366" align="aligncenter" width="339"]
สมคิด จาตุศรีพิทักษ์[/caption]
ตอนนี้เรากำลังจัดทำงบประมาณ มีเวลาอีกไม่มาก ผมขอให้สำนักงบรอรับเรื่องที่พวกท่านจะเสนอขึ้นไป ช่วงสัปดาห์ 2 สัปดาห์นี้ทำให้สมบูรณ์ ไม่ใช่สักแต่ว่าทำ ให้มีความคิดริเริ่มว่าจะทำอะไร ผมถามท่านรัฐมนตรีว่า อยากจะรู้ตัวเลขว่าเมืองรองไหนสำคัญ จะพัฒนาตรงนั้น
เรานึกภาพให้ดีๆ ว่าถ้านักท่องเที่ยวเข้ามาเยอะขึ้น สตอรี มันเต็มไปหมดเลย มันไม่มีการพัฒนาเมืองรองอะไรที่รองรับสตอรีเลย อย่างงบประมาณที่จะเอาไปพัฒนาอยุธยา เขาทำมาแล้วใช่มั้ยที่วงประชารัฐ สเกลใหญ่ไปไหม ใหญ่ไปทอนให้เล็กลง อยุธยาจะเป็นคนญี่ปุ่นเยอะ เพราะมีประวัติศาสตร์ มีหมู่บ้านญี่ปุ่น เราสามารถทำเส้นทางนํ้าเชื่อมต่อระหว่างหมู่บ้านญี่ปุ่นกับฮอลแลนด์ได้ไหม
มันก็จะเป็นสตอรีเกิดมาที่ อยุธยา สิงห์บุรี อ่างทอง เราสามารถสร้างแถบของประวัติศาสตร์ได้รึเปล่า ถึงบอกว่า ยุทธศาสตร์เป็นตัวสำคัญ ก็มีกำหนดไว้เลยว่าตรงไหน การตลาดเป็นอย่างไร ททท.มีหน้าที่โปรโมต ลองหลับตาดูที่ญี่ปุ่นมีการสร้างเมืองเอโดะ มันสร้างยากใช่มั้ย ทำไมมันมีแต่โรตีสายไหมอยุธยา การประชุมไม่ต้องเอาเปเปอร์มาเยอะ
++จี้เร่งทำแผนให้ทันงบกลางปี
ดังนั้นทำงานหนักเรื่องยุทธศาสตร์การท่องเที่ยว ให้ทันงบประมาณกลางปี มีนักท่องเที่ยวเข้ามา 35 ล้านคน ถ้าทำให้ดีนักท่องเที่ยว 35 ล้านคนนี่สร้างรายได้มหาศาล สินค้าท้องถิ่น ร่วมกับมหาดไทย รวมกับพื้นที่แหล่งท่องเที่ยว ร้านค้าประชารัฐ สินค้าเกษตรแปรรูป ทุกอย่างมันจะตามมาหมด และท่านต้องรู้อย่างหนึ่งว่าเมื่อการผลิตอุตสาห กรรมมันไปสู่ automation ส่วนหนึ่งของประเทศเลย ที่อยู่ในภาคแรงงานต้องมีงาน
ประเทศเราวางใจได้อย่างหนึ่ง คือเรามีภาคการท่องเที่ยวมีตำแหน่งที่รองรับบุคลากรได้เยอะมาก เพราะฉะนั้นเราต้อง เตรียมการในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า เอไอเกิดแน่นอน แบงก์ก็จะหาย ต้องมีการเตรียมการในเรื่องพวกนี้ขึ้นมา ฉะนั้นจะต้องมีอาชีพของตัวเองขึ้นมา ภาคบริการจะต้องรองรับธุรกิจการท่องเที่ยว ธุรกิจการท่องเที่ยวมีสารพัด ไม่ได้มีแค่ไกด์ แค่ขนส่ง
โปรแกรมเหล่านี้เราจะต้องเตรียมการขึ้นมาเพื่อให้มันเติบใหญ่พอที่จะรองรับภาคการท่องเที่ยวของเราได้ แล้วแต่จะคิดว่าจะสร้างสรรค์ให้เกิดสตาร์ต อัพด้านการท่องเที่ยวขึ้นมาได้อย่างไร นั่นคือ Strategy development ด้านการท่องเที่ยว ถ้าคิดได้อย่างนี้ คมนาคม รถไฟ ก็จะมีงบประมาณขึ้นมา จะตอบวัตถุประสงค์ได้ ว่าตรงนี้ควรจะมีรถไฟท่องเที่ยวไปหรือไม่ แล้วเอกชนจะตามมาเอง
ผมให้ความสำคัญกับยุทธศาสตร์การท่องเที่ยว แล้วนโยบายสำคัญและงบประมาณจะตามมาทั้งหมด เพราะฉะนั้นการประชุมต้องซีเรียส งานต้องเดิน ผมให้เวลาในแผนงานโครงการมา 2 เดือน แต่แผนงานยังไม่ออกมา ไม่ใช่เรียกร้องนะ ขอให้เข้าใจกันนะ ทำงานออกมาเป็นชิ้นเป็นอัน อันไหนไม่ทัน ฝากไว้งบประมาณปี 2562
++พัฒนาเมืองรองต้องชัด
เป้าหมายปี 2561 ที่อยู่ที่ 3 ล้านล้านบาท ต่างชาติ 2 ล้านล้านบาท ไทยเที่ยวไทย 1 ล้านล้านบาท เติบโต 9% เชื่อมั่นว่าจะทำได้สูงมากกว่า 3 ล้านล้านบาทแน่นอน กระทรวงการท่องเที่ยวฯกับ ททท. จะทำอย่างไรที่จะเพิ่มรายได้ให้มากขึ้น อยากฟังว่าการท่องเที่ยวเมืองรองที่ผ่านมา 1 ปีเป็นอย่างไรบ้างเมื่อเปรียบเทียบกับปี 2559 ที่เมืองหลักมีรายได้จากการท่องเที่ยว 70% เมืองรองอยู่ที่ 30% มาเป็นปี 2561 รายได้จากเมืองหลัก 22 จังหวัด เทียบกับเมืองรอง 55 จังหวัด จะเพิ่มเมืองรองขึ้นอีก 10% ผมต้องการตัวเลข แพร่ น่าน ลำปาง ลำพูน เท่าไหร่ ปีหน้าเพิ่มเท่าไหร่ และวิธีการที่จะทำให้เพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวจะทำอย่างไร ผู้ว่าฯต้องทำงาน เอากระทรวงพาณิชย์ร้านค้า มาร่วมกับเรา ถ้าทำจริงๆ จังๆ รายได้สูงกว่านี้แน่นอน
เวลาไปเมืองรอง ไม่ได้ต้องการให้เยอะขนาดนั้น ต้องการให้พอเหมาะ แต่ถ้านักท่องเที่ยวไม่ไป อย่าหวังความเจริญ นักท่องเที่ยว 10 ล้านคนไปเชียงใหม่ แต่ลำปาง ไม่ถึงล้าน เพราะอะไร เมืองรองจะระบายตรงนี้ออกมา
รวมถึงการพัฒนาเขตพื้นที่ท่องเที่ยวชายฝั่งทะเลตะวันตก ภายใต้โครงการไทยแลนด์ริเวียร่า ได้แก่ เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และระนอง ซึ่งเราสามารถพัฒนาให้นักท่องเที่ยว เดินทางจากกรุงเทพฯบินตรงลงชุมพรได้ ซึ่งเราไม่ได้เริ่มจากศูนย์ เริ่มจากสิ่งที่มีอยู่แล้ว ถ้าทำให้ดีมันจะออกนโยบายต่างๆ ได้เร็ว ในแถบ Royal Coast งบประมาณรีบทำซะในเรื่องที่พร้อม ที่ยังไม่พร้อมก็เอาไว้ก่อน ถ้าจะมาทำตรงนี้ อยากให้เอกชนรัฐบาลช่วยกันคิดหน่อยว่า เส้นนี้ผมขอให้เป็นไฮเอนด์ มาร์เก็ต ที่ไม่มีอโกโก้ ขอให้ทำให้ดี เป็นการลงทุนที่มีเป้าหมาย แหล่งท่องเที่ยวมันมีอยู่แล้ว ก็พัฒนากันหน่อย แต่เราต้องเอาจริง ชาวบ้านจะได้อานิสงส์
ทั้งหมดเป็นการบ้านที่รองนายกฯสมคิด มอบให้ท.ท.ช. ไปทำยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวลงแผนงานให้ชัดเจน และพัฒนาท่องเที่ยวเพื่อหนุนโลคัล อินดัสตรีของไทยให้เข้มแข็งกว่าเดิม
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,350 วันที่ 22 - 24 มีนาคม พ.ศ. 2561
++ท่องเที่ยวสำคัญอันดับ1
รองสมคิด ยํ้าในที่ประชุมว่า เรื่องการท่องเที่ยว เราให้ความสำคัญเป็นอันดับ1 และไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เป็นนโยบายที่จะทำให้เกิดการพัฒนาจริงๆ ในเรื่องของ Local Industry ทุกวันนี้ จีดีพี ของเรามันมีอยู่แค่การส่งออกสินค้า ที่มีอยู่ไม่กี่ประเภท ตัวที่จะทำให้ “โลคัล อินดัสตรี” แข็งแรง คือ “การท่องเที่ยว” ฉะนั้นถ้าเราสามารถพัฒนาการท่องเที่ยวออกไปได้ สินค้าการเกษตรก็สามารถป้อนสู่การท่องเที่ยวได้ วิสาหกิจชุมชนก็ป้อนเข้ามาได้ สินค้าจากชุมชนก็จะสามารถป้อนสู่การท่องเที่ยวได้ และความ เจริญก็จะไม่มากระจุกตัวอยู่แค่ผู้ประกอบการไม่กี่ราย เรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญ ในอดีตเราเน้นการโปรโมตมากกว่า การพัฒนาท่องเที่ยว
เมื่อพูดถึงการพัฒนาท่องเที่ยวต้องมียุทธศาสตร์ ใน 5 และ 10 ปีข้างหน้าว่าจะเน้นเส้นทางไหนอย่างไร ก็จะพัฒนาเส้นทาง สินค้า ผู้ประกอบการ และมหาวิทยาลัยต่างๆ ก็สามารถเตรียมการมารองรับได้ ถ้าไม่มีสิ่งเหล่านี้เลย ก็ไม่สามารถผลิตชิ้นงานออกมาได้ ยกตัวอย่างง่ายๆ ผมเชื่อเลยว่าผู้ผลิตนโยบายเมืองรองที่ออกไป มันจะเริ่มมีผลให้ท้องถิ่นเองมีนักท่องเที่ยวเข้าไปมากขึ้น แต่เราต้องมีแผนรองว่า เมืองไหนบ้าง เส้นทางไหน แถบไหน การตลาดจะเป็นอย่างไร พอมีแล้วทุกอย่างก็จะตามไป
[caption id="attachment_270366" align="aligncenter" width="339"]
ตอนนี้เรากำลังจัดทำงบประมาณ มีเวลาอีกไม่มาก ผมขอให้สำนักงบรอรับเรื่องที่พวกท่านจะเสนอขึ้นไป ช่วงสัปดาห์ 2 สัปดาห์นี้ทำให้สมบูรณ์ ไม่ใช่สักแต่ว่าทำ ให้มีความคิดริเริ่มว่าจะทำอะไร ผมถามท่านรัฐมนตรีว่า อยากจะรู้ตัวเลขว่าเมืองรองไหนสำคัญ จะพัฒนาตรงนั้น
เรานึกภาพให้ดีๆ ว่าถ้านักท่องเที่ยวเข้ามาเยอะขึ้น สตอรี มันเต็มไปหมดเลย มันไม่มีการพัฒนาเมืองรองอะไรที่รองรับสตอรีเลย อย่างงบประมาณที่จะเอาไปพัฒนาอยุธยา เขาทำมาแล้วใช่มั้ยที่วงประชารัฐ สเกลใหญ่ไปไหม ใหญ่ไปทอนให้เล็กลง อยุธยาจะเป็นคนญี่ปุ่นเยอะ เพราะมีประวัติศาสตร์ มีหมู่บ้านญี่ปุ่น เราสามารถทำเส้นทางนํ้าเชื่อมต่อระหว่างหมู่บ้านญี่ปุ่นกับฮอลแลนด์ได้ไหม
มันก็จะเป็นสตอรีเกิดมาที่ อยุธยา สิงห์บุรี อ่างทอง เราสามารถสร้างแถบของประวัติศาสตร์ได้รึเปล่า ถึงบอกว่า ยุทธศาสตร์เป็นตัวสำคัญ ก็มีกำหนดไว้เลยว่าตรงไหน การตลาดเป็นอย่างไร ททท.มีหน้าที่โปรโมต ลองหลับตาดูที่ญี่ปุ่นมีการสร้างเมืองเอโดะ มันสร้างยากใช่มั้ย ทำไมมันมีแต่โรตีสายไหมอยุธยา การประชุมไม่ต้องเอาเปเปอร์มาเยอะ
++จี้เร่งทำแผนให้ทันงบกลางปี
ดังนั้นทำงานหนักเรื่องยุทธศาสตร์การท่องเที่ยว ให้ทันงบประมาณกลางปี มีนักท่องเที่ยวเข้ามา 35 ล้านคน ถ้าทำให้ดีนักท่องเที่ยว 35 ล้านคนนี่สร้างรายได้มหาศาล สินค้าท้องถิ่น ร่วมกับมหาดไทย รวมกับพื้นที่แหล่งท่องเที่ยว ร้านค้าประชารัฐ สินค้าเกษตรแปรรูป ทุกอย่างมันจะตามมาหมด และท่านต้องรู้อย่างหนึ่งว่าเมื่อการผลิตอุตสาห กรรมมันไปสู่ automation ส่วนหนึ่งของประเทศเลย ที่อยู่ในภาคแรงงานต้องมีงาน
ประเทศเราวางใจได้อย่างหนึ่ง คือเรามีภาคการท่องเที่ยวมีตำแหน่งที่รองรับบุคลากรได้เยอะมาก เพราะฉะนั้นเราต้อง เตรียมการในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า เอไอเกิดแน่นอน แบงก์ก็จะหาย ต้องมีการเตรียมการในเรื่องพวกนี้ขึ้นมา ฉะนั้นจะต้องมีอาชีพของตัวเองขึ้นมา ภาคบริการจะต้องรองรับธุรกิจการท่องเที่ยว ธุรกิจการท่องเที่ยวมีสารพัด ไม่ได้มีแค่ไกด์ แค่ขนส่ง
โปรแกรมเหล่านี้เราจะต้องเตรียมการขึ้นมาเพื่อให้มันเติบใหญ่พอที่จะรองรับภาคการท่องเที่ยวของเราได้ แล้วแต่จะคิดว่าจะสร้างสรรค์ให้เกิดสตาร์ต อัพด้านการท่องเที่ยวขึ้นมาได้อย่างไร นั่นคือ Strategy development ด้านการท่องเที่ยว ถ้าคิดได้อย่างนี้ คมนาคม รถไฟ ก็จะมีงบประมาณขึ้นมา จะตอบวัตถุประสงค์ได้ ว่าตรงนี้ควรจะมีรถไฟท่องเที่ยวไปหรือไม่ แล้วเอกชนจะตามมาเอง
ผมให้ความสำคัญกับยุทธศาสตร์การท่องเที่ยว แล้วนโยบายสำคัญและงบประมาณจะตามมาทั้งหมด เพราะฉะนั้นการประชุมต้องซีเรียส งานต้องเดิน ผมให้เวลาในแผนงานโครงการมา 2 เดือน แต่แผนงานยังไม่ออกมา ไม่ใช่เรียกร้องนะ ขอให้เข้าใจกันนะ ทำงานออกมาเป็นชิ้นเป็นอัน อันไหนไม่ทัน ฝากไว้งบประมาณปี 2562
เป้าหมายปี 2561 ที่อยู่ที่ 3 ล้านล้านบาท ต่างชาติ 2 ล้านล้านบาท ไทยเที่ยวไทย 1 ล้านล้านบาท เติบโต 9% เชื่อมั่นว่าจะทำได้สูงมากกว่า 3 ล้านล้านบาทแน่นอน กระทรวงการท่องเที่ยวฯกับ ททท. จะทำอย่างไรที่จะเพิ่มรายได้ให้มากขึ้น อยากฟังว่าการท่องเที่ยวเมืองรองที่ผ่านมา 1 ปีเป็นอย่างไรบ้างเมื่อเปรียบเทียบกับปี 2559 ที่เมืองหลักมีรายได้จากการท่องเที่ยว 70% เมืองรองอยู่ที่ 30% มาเป็นปี 2561 รายได้จากเมืองหลัก 22 จังหวัด เทียบกับเมืองรอง 55 จังหวัด จะเพิ่มเมืองรองขึ้นอีก 10% ผมต้องการตัวเลข แพร่ น่าน ลำปาง ลำพูน เท่าไหร่ ปีหน้าเพิ่มเท่าไหร่ และวิธีการที่จะทำให้เพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวจะทำอย่างไร ผู้ว่าฯต้องทำงาน เอากระทรวงพาณิชย์ร้านค้า มาร่วมกับเรา ถ้าทำจริงๆ จังๆ รายได้สูงกว่านี้แน่นอน
เวลาไปเมืองรอง ไม่ได้ต้องการให้เยอะขนาดนั้น ต้องการให้พอเหมาะ แต่ถ้านักท่องเที่ยวไม่ไป อย่าหวังความเจริญ นักท่องเที่ยว 10 ล้านคนไปเชียงใหม่ แต่ลำปาง ไม่ถึงล้าน เพราะอะไร เมืองรองจะระบายตรงนี้ออกมา
รวมถึงการพัฒนาเขตพื้นที่ท่องเที่ยวชายฝั่งทะเลตะวันตก ภายใต้โครงการไทยแลนด์ริเวียร่า ได้แก่ เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และระนอง ซึ่งเราสามารถพัฒนาให้นักท่องเที่ยว เดินทางจากกรุงเทพฯบินตรงลงชุมพรได้ ซึ่งเราไม่ได้เริ่มจากศูนย์ เริ่มจากสิ่งที่มีอยู่แล้ว ถ้าทำให้ดีมันจะออกนโยบายต่างๆ ได้เร็ว ในแถบ Royal Coast งบประมาณรีบทำซะในเรื่องที่พร้อม ที่ยังไม่พร้อมก็เอาไว้ก่อน ถ้าจะมาทำตรงนี้ อยากให้เอกชนรัฐบาลช่วยกันคิดหน่อยว่า เส้นนี้ผมขอให้เป็นไฮเอนด์ มาร์เก็ต ที่ไม่มีอโกโก้ ขอให้ทำให้ดี เป็นการลงทุนที่มีเป้าหมาย แหล่งท่องเที่ยวมันมีอยู่แล้ว ก็พัฒนากันหน่อย แต่เราต้องเอาจริง ชาวบ้านจะได้อานิสงส์
ทั้งหมดเป็นการบ้านที่รองนายกฯสมคิด มอบให้ท.ท.ช. ไปทำยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวลงแผนงานให้ชัดเจน และพัฒนาท่องเที่ยวเพื่อหนุนโลคัล อินดัสตรีของไทยให้เข้มแข็งกว่าเดิม
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,350 วันที่ 22 - 24 มีนาคม พ.ศ. 2561
