กวางตุ้งคลั่ง!ช็อปออนไลน์ โอกาสสำคัญของผู้ประกอบการไทย

เมื่อเทศกาลลดราคาเนื่องในวันคนโสดที่ผ่านมา ชาวกวางตุ้งซื้อสินค้าออนไลน์มากที่สุดเป็นอันดับ 1 ของจีน โดยใช้จ่ายไปทั้งสิ้น 16,340 ล้านหยวน เพิ่มขึ้น 167.82% เมื่อเทียบกับสถิติปี 2557 ตามด้วยมณฑลเจ้อเจียง และเจียงซู ตามลำดับ โดยเมือง 5 อันดับแรกในมณฑลกวางตุ้งที่ใช้จ่ายมากที่สุดคือ นครกวางโจว เมืองเสินเจิ้น ตงก่วน ฝอซาน และหุ้ยโจว สินค้ายอดนิยมใน
ปีนี้ได้แก่ โทรศัพท์มือถือ โทร-ทัศน์ รองเท้าผ้าใบ เสื้อกันหนาวและเสื้อแจ๊กเกต โดยนักช็อปอายุระหว่าง 26-35 ปี ใช้จ่ายมากที่สุด คิดเป็นสัดส่วน 48% ของปริมาณนักช็อปของมณฑลกวางตุ้งทั้งหมด

บริษัท Cainiao Internet Technology เปิดเผยสถิติที่น่าสนใจว่า เมื่อเวลา 18.49 น. ของวันที่ 11 พฤศจิกายน ยอดสั่งซื้อสินค้าได้ทะลุ 657 ล้านยอด มาก กว่ายอดทั้งหมดของวันคนโสดในปี 2559 โดยในจำนวน 340 เมือง (รวมฮ่องกง มาเก๊า และไต้หวัน) นครกวางโจวมียอดสั่งซื้อเป็นอันดับ 3 ของจีน และมียอดขายสินค้าเป็นอันดับ 1 ของจีน

เทศกาลลดราคาเนื่องในวันคนโสดตรงกับวันที่ 11 พฤศจิกายนของทุกปี หรือเรียกว่า เทศกาล 11-11 นักช็อปชาวจีนใช้จ่ายเพื่อซื้อสินค้าจากเว็บไซต์ tmall.com มูลค่ารวม ทั้งสิ้นกว่า 1.68 แสนล้านหยวน และจากเว็บไซต์ jd.com รวมทั้งสิ้น 1.271 แสนล้านหยวน

ทั้งนี้ ศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยในจีน (BIC) ได้เสนอแนะข้อสังเกตเพื่อเป็นประโยชน์สำหรับผู้ประกอบการไทยที่กำลังมองหาโอกาสจำหน่ายสินค้าในตลาดจีนผ่านระบบออนไลน์ไว้ดังนี้

1.กลุ่มผู้บริโภคในมณฑลกวางตุ้งอายุ 26-35 ปี ซึ่งเป็นวัยทำงาน มีแนวโน้มที่จะใช้จ่ายออนไลน์มากขึ้น เป็นโอกาสของผู้ประกอบการไทยที่จะสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์หรือบริการที่เหมาะสมกับผู้บริโภคช่วงอายุดังกล่าว ซึ่งเป็นกลุ่มที่ต้องการใช้ผลิตภัณฑ์ที่สามารถระบุอัตลักษณ์ความเป็นตัวตน รวมถึงความภูมิใจในการใช้ผลิตภัณฑ์นั้นๆ ผลิตภัณฑ์ไทยที่สามารถตอบโจทย์จึงจำเป็นต้องมีรูปลักษณ์ที่ดี ทันสมัย ใช้แล้วเกิดความภาคภูมิใจในแบรนด์

2.เมื่อสินค้าเทคโนโลยีและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ได้รับความนิยมมากขึ้น เป็นการบ่งบอกถึงอัตราการเข้าถึงอินเตอร์เน็ตผ่านอุปกรณ์พกพาที่นอกเหนือจากคอมพิวเตอร์ อาทิ โทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์แท็บเลต และทีวีดิจิตอล เพิ่มสูงขึ้นเป็นเงาตามตัว ผู้ประกอบการที่ต้องการทำตลาดสินค้าในมณฑลกวางตุ้งจึงควรหันมามองการตลาดออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ มากขึ้น

3.หากผลิตภัณฑ์เน้นกลุ่มลูกค้าในช่วงอายุอื่นๆ การตลาดออฟไลน์ยังคงสำคัญอยู่ เนื่องจากกลุ่มอายุ 35 ปีขึ้นไปยังมีพฤติกรรมการบริโภคแบบเดิมที่ต้องการจับต้องมองเห็น และทดลองผลิต ภัณฑ์ก่อนตัดสินใจซื้อสินค้า

4.ช่องทางที่จะนำผลิตภัณฑ์ไปสู่ผู้บริโภคมีหลากหลาย แต่การ “เลือก” รูปแบบที่เหมาะสมกับผลิตภัณฑ์และกลุ่มลูกค้า เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด

นอกจากวันที่ 11 พฤศจิกายน (11.11) ปัจจุบัน ในจีนยังมีช่วงเวลาช็อปปิ้งสำคัญอื่นๆ เช่น วันที่ 18 มิถุนายน (โปรโมชั่นกลางปี) และวันที่ 12 ธันวาคม (12.12) ซึ่งเป็นเทศกาลช็อปปิ้งต่อจากเทศกาลช็อปปิ้งวันคนโสด สำหรับผู้ประกอบการไทยที่เข้ามาในตลาดจีนแล้ว ช่วงเวลาเหล่านี้นับเป็นเวลาที่เหมาะสมในการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายเพื่อดึงดูดลูกค้าและเพิ่มยอดขาย และสำหรับผู้ประกอบการไทยที่ประสงค์เข้าตลาดจีน ช่วงเวลาเหล่านี้ก็น่าจะเป็นโอกาสที่ดีในการหาช่องทางทดลองจำหน่ายสินค้าไทยผ่านแพลตฟอร์ม E-Commerce ในจีน เพื่อเป็นการทดสอบตลาด

**คุณรู้ไหมว่า
เทศกาลช็อปปิ้งวันคนโสดเริ่มขึ้นตั้งแต่ปี 2552 และยอดขายสินค้าของแพลตฟอร์ม E-Commerce ต่างๆ จากเทศกาลดังกล่าวเพิ่มขึ้นทุกปี ซึ่งกลายเป็นเทศกาลช็อปปิ้งอย่างสนุกสนานที่ผู้บริโภคจีนทุกคนรอคอย

เมื่อวันที่ 11 พฤศจิ กายน ที่ผ่านมา Alibaba มียอดขาย 168.2 พันล้านหยวน (25.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) เพิ่มขึ้น 39% จากปี 2559 โดยจำนวนดังกล่าวสูงกว่ายอดขายรวมกันของ Black Friday และ Cyber Monday ของสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ Alibaba รายงานว่า 9 ใน 10 ของผู้ซื้อสินค้า ชำระเงินผ่าน mobile payment ซึ่งภายในช่วงเวลา 24 ชั่วโมงของ วันที่ 11 พฤศจิกายน 2560 Alipay ซึ่งเป็น mobile payment ของ Alibaba รองรับการชำระถึง 1.48 พันล้านยอด

นอกจากสินค้าทั่วไปแล้ว สินค้าสดนำเข้ากลายเป็นสินค้าที่ผู้บริโภคจีนนิยมกันมากในเทศกาลช็อปปิ้งของปีนี้ โดยสถิติจาก Tmall ชี้ว่า สินค้าสดที่ผู้บริโภคนิยมซื้อมากที่สุด ได้แก่ เนื้อพริกไทยดำของออสเตรเลีย เชอร์รี่ของชิลีและสหรัฐ อเมริกา กีวีของนิวซีแลนด์ มะม่วงดิบของเวียดนาม และผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์และอาหารทะเลนำเข้า เป็นต้น สำหรับ JD.com ในช่วงวันที่ 1-12 พฤศจิกายน 2560 JD.com มียอดจำหน่ายสินค้า สด 20,000 ตัน โดยส้มของออสเตรเลีย ลำไยของไทย 
และกีวีของนิวซีแลนด์มียอดขายติด 3 อันดับแรก

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,322 วันที่ 14 - 16 ธันวาคม พ.ศ. 2560