กรมวิชาการเกษตรยันทุเรียนส่งออกแดนปลาดิบไม่ใช่ทุเรียนอ่อน

17 พ.ค. 2560 | 08:43 น.
กรมวิชาการเกษตร  แจ้งบริษัทส่งออกทุเรียน แจงเหตุผู้บริโภคอ้างพบทุเรียนอ่อนในญี่ปุ่น  เผยพบเป็นทุเรียนแก่แต่ยังไม่สุก  ชี้ต้องสร้างการรับรู้วิธีสังเกตทุเรียนสุก แก่พร้อมรับประทาน แก่ผู้นำเข้าและผู้บริโภคแดนปลาดิบ

[caption id="attachment_151162" align="aligncenter" width="377"] นายสุวิทย์   ชัยเกียรติยศ นายสุวิทย์ ชัยเกียรติยศ[/caption]

อธิบดีกรมวิชาการเกษตร   เปิดเผยกรณีมีผู้ใช้เฟสบุ๊กโพสต์ภาพทุเรียนส่งออกจากไทยไปประเทศญี่ปุ่นพบทุเรียนอ่อนจำนวนมากจนห้างที่นำไปขายโดนลูกค้าตำหนิและขอคืนเงินนั้น  กองพัฒนาระบบและรับรองมาตรฐานสินค้าพืช กรมวิชาการเกษตร ได้ตรวจสอบรหัสของผู้ส่งออกตามที่ปรากฏเป็นข่าวพบว่า เป็นสินค้าของบริษัทรายหนึ่ง จึงได้ทำหนังสือแจ้งเตือนเพื่อให้บริษัทที่ส่งออกทุเรียนล็อตดังกล่าวปรับปรุงระบบการผลิตและการควบคุมคุณภาพให้เป็นไปตามประกาศกรมวิชาการเกษตร  เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ  และเงื่อนไขการจดทะเบียน เป็นผู้ส่งผลทุเรียนสดออกไปนอกราชอาณาจักร พ.ศ.2556   โดยควบคุมคุณภาพของผลทุเรียนสดตามที่กำหนดในประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่อง มาตรฐานทุเรียนของประเทศไทย พ.ศ.2545

ทั้งนี้เพื่อป้องกันการปฏิเสธสินค้าในอนาคต  ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการนำเข้าผลผลิตทางการเกษตรจากประเทศไทยทั้งหมดในภาพรวม  และมีผลต่อการพิจารณาพักใช้หรือเพิกถอนหนังสือสำคัญแสดงการจดทะเบียนเป็นผู้ส่งออกทุเรียนสดไปนอกราชอาณาจักร  ซึ่งกรมวิชาการเกษตรได้ขอให้บริษัทพิจารณาแก้ไขปรับปรุงระบบการผลิตทุเรียนสดให้ได้คุณภาพตามข้อกำหนด  พร้อมชี้แจงข้อเท็จจริงดังกล่าวกลับมาให้กรมวิชาการเกษตรทราบด้วย

“กรณีที่ได้รับแจ้งจากผู้ซื้อทุเรียนสดจากห้างสรรพสินค้าในญี่ปุ่น  พบว่าเป็นทุเรียนแก่ที่ยังดิบอยู่  ต้องรอให้สุกก่อนโดยใช้ระยะเวลาประมาณ 3 – 5 วันจึงจะรับประทานได้  ซึ่งต้องมีการสร้างการรับรู้วิธีการสังเกตลักษณะความสุกแก่ของทุเรียนให้แก่ผู้ประกอบการนำเข้าทุเรียนจากประเทศไทยและผู้บริโภคในประเทศญี่ปุ่น   โดยวิธีการสังเกตที่ง่ายสุด คือ หากทุเรียนสุกพร้อมที่จะรับประทานจะเริ่มมีกลิ่นออกมาจากผลของทุเรียน   อย่างไรก็ตามเพื่อรักษาภาพลักษณ์การส่งออกผลไม้ของไทยซึ่งไม่เฉพาะเพียงแค่ทุเรียน  ขอให้เกษตรกรและผู้ประกอบการเพิ่มความระมัดระวังในการคัดคุณภาพของสินค้าและปฏิบัติตามเงื่อนไขการนำเข้าของประเทศคู่ค้าอย่างเคร่งครัดด้วย”    อธิบดีกรมวิชาการเกษตร  กล่าว

อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวต่อว่า   การส่งออกทุเรียนผลสดไปนอกราชอาณาจักรผู้ส่งออกต้องยื่นคำขอและจดทะเบียนผู้ส่งออกกับกองพัฒนาระบบและรับรองมาตรฐานสินค้าพืช  กรมวิชาการเกษตร  เพื่อขอรับใบรับรองสุขอนามัยพืชแนบไปกับสินค้าก่อนส่งออก  โดยเจ้าหน้าที่ด่านตรวจพืช  กรมวิชาการเกษตร จะทำการตรวจสอบศัตรูพืชทุเรียนที่โรงคัดบรรจุของผู้ประกอบการส่งออกที่ได้รับการรับรอง GMP ซึ่งเป็นสถานที่รับผลทุเรียนสดและคัดผลทุเรียน   ทั้งนี้ในปี 2559 ประเทศไทยส่งออกทุเรียนผลสดไปญี่ปุ่นปริมาณ  89,415 กิโลกรัม  คิดเป็นมูลค่ารวม 8,139,166 บาท   ปี 2560 (เมษายน – พฤษภาคม) ปริมาณ 26,765 กิโลกรัม  รวมมูลค่า 3,690,301 บาท