ประสิทธิ์ ศรีสุวรรณ บนเกม‘ล่างาน-ล่าเงิน-ล่าบุญ’

20 มี.ค. 2560 | 12:30 น.
ประสิทธิ์ ศรีสุวรรณ นักธุรกิจ เซเลบบุญคนดัง อดีตมาร์เก็ตติ้งที่โชกโชนในเกมหุ้น เขาขึ้นชื่อว่าเป็นมาร์เก็ตติ้งฝีมือดี ที่หาตัวจับไม่ง่าย บนเส้นทางสายอาชีพมาร์เก็ตติ้งคนดังในอำเภอหาดใหญ่ ที่มุมานะการให้บริการลูกค้าด้านหลักทรัพย์ชนิดถึงลูกถึงคน เขาเป็นมาร์เก็ตติ้งที่โด่งดังว่ายทวนน้ำที่ไหลบ่าท่วมหาดใหญ่ เมื่อเกือบ 30 ปีก่อน เพื่อไปคีย์คำสั่งซื้อขายหุ้นให้กับลูกค้า

จากเด็กแว้น ลูกพ่อค้า ไม่ได้หมายความว่า ประสิทธิ์ จะละเลยต่อการศึกษา ในทางกลับกัน เขามุ่งมั่นจนคว้าดีกรีดอกเตอร์ สร้างความภูมิใจให้กับเขาและครอบครัว จากอาชีพมาร์เก็ตติ้งชื่อดังในหาดใหญ่ มีนักลงทุนรายใหญ่อยู่ในมือหลายราย ด้วยสไตล์การเล่นหุ้นเก็งกำไรอย่างหนักของลูกค้าหาดใหญ่ สร้างโวลุ่มอย่างดีให้กับโบรกเกอร์ที่เขาสังกัดอยู่ ชื่อของ “ประสิทธิ์” จึงเป็นที่สนใจและต้องการของโบรกเกอร์ เพราะนั่นหมายถึงโวลุ่ม (รายใหญ่ ) ที่เขามีอยู่ในกำมือ

“ประสิทธิ์ “ มีชื่อในท็อปชาร์ต ซีอีโอ ที่มีเงินเดือนสูงสุดของประเทศด้วย ในยุคที่ตลาดหุ้นเก็บค่านายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ (คอมมิสชัน ) 0.5% ต่างกับยุคนี้ ค่าคอมมิสชัน ต่ำติดดิน ล้านละ 500 บาท

ด้วยการบริการ ทุกระดับประทับใจ ทำให้ “ประสิทธิ์” มีฉายา “ไข่มุกหาดใหญ่” เป็นที่หมั่นไส้จากคนวงการเดียวกัน กระทั่งถูกซื้อตัวจากหาดใหญ่ ขึ้นมานั่งบริหารงานที่กรุงเทพฯในตำแหน่งผู้บริหาร บริษัท หลักทรัพย์ ยูไนเต็ดฯยุคนั้น
บนเส้นทางค้าหุ้น จากมาร์เก็ตติ้งสู่ผู้บริหาร ตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันซ่าฯ และอีกหลาย ๆ โบรกเกอร์ ตำแหน่งสุดท้ายในฐานะลูกจ้างคือ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ คันทรี่ กรุ๊ปฯ ก่อนจะผันตัวเองมาเป็นเจ้าของกิจการโบรกเกอร์ผลไม้สีเขียว “แอพเพิลเวลธ์” ที่ “ประสิทธิ์” เข้าไปร่วมก่อตั้งและถือหุ้นใหญ่ซึ่งกำลังจะนำเข้าตลาดหุ้นภายในปีนี้ด้วย

การทำงานของ “ประสิทธิ์” ไม่ได้จำกัดอยู่เฉพาะสายงานหลักทรัพย์ การลงทุนธุรกิจภาษา การลงทุนด้านไอที ที่เขาสนใจ หรือแม้กระทั่งการเข้าบริหารในบริษัท เฟอร์รัมฯ ( FER ) ตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ที่ดำเนินการเรื่อยมาและมุ่งพัฒนาให้ FER ให้เติบโต มีผลกำไร สร้างความพึงพอใจและผลตอบแทนที่ดีกับผู้ถือหุ้น

“ประสิทธิ์” วันนี้ ล้างมือในอ่างทองคำ ไม่ได้เข้าร่วมการบริหารงานในบล.แอพเพิลเวลธ์ฯ หลังจากที่ถูกสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) สั่งพักงาน 2 ปี กรณีไม่รอบคอบการปฏิบัติหน้าที่เรื่องการโอนหุ้น หลังเกิดคดีดังขึ้นมาคงเหลือตำแหน่งประธานกรรมการสายงานเพื่อสังคม (CSR) เท่านั้นซึ่งเขาบอกว่า ผลกระทบจากคำสั่งของก.ล.ต.มีบ้าง แต่ด้วยนโยบายและระบบการทำงานของแอพเพิลเวลธ์ แม้ว่า ไม่มีชื่อ “ประสิทธิ์” เป็นเบอร์ 1 ก็ยังสามารถดำเนินงานได้อย่างมืออาชีพ

“ วันนี้ผมวางมือ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับบล.แอพเพิลเวลธ์ฯ แต่ยังทำงานในเฟอร์รัม และมีกิจการส่วนตัว ลงทุนทำบริษัทเล็ก ๆ ของตัวเอง ทำฟินเทค และเทคโนโลยีทางการเงิน ตามสไตล์การเรียนรู้ทางลัด จึงไปดึงทีมฟินเทคมาร่วมงาน ตอนนี้มีงานในมืออยู่ 2 บริษัท เพิ่งเริ่มสร้าง”

เขากล่าวถึงการทำงานใน FER ซึ่งถูกโจมตีถึงเกมการเงิน หลังจากบริษัทแห่งนี้เพิ่มทุน ขายหุ้นให้นักลงทุนเฉพาะเจาะจง ( PP ) จำนวน 300 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 1 บาท ขณะที่ราคาหุ้นบนกระดาน ไม่ถึง 70 สตางค์ ถูกมองว่าเป็นการสร้างนักลงทุนเทียม ซึ่งเขายืนยันว่า เป็นกองทุนที่เข้ามาซื้อจริง 300 ล้านบาท และเข้าไปซื้อบริษัท สตาร์แก๊สฯ ผู้ให้บริการสถานีบริการแก๊ส โดยวางตัว สตาร์แก๊สให้เป็นเจ้ารายใหญ่เจ้าเดียวในภาคเหนือและอีสาน หลังจากที่ได้นายเชาวรัตน์ เวศม์ภิญโญ พันธมิตรธุรกิจที่เข้ามาร่วมซื้อหุ้น PP ครั้งนี้ด้วย มีความชำนาญและมีปั๊มก๊าซในมือจำนวนมาก
บนเส้นทางการทำงาน ล่าเงิน ของประสิทธิ์ ใน FER ล่าสุดได้จับมือพันธมิตรจีน บริษัท LinyangMicrogridจากประเทศจีน จดทะเบียนในตลาดหุ้นดาวโจนส์ สหรัฐฯ ร่วมทำนวัตกรรมใหม่ EVCharger เป็นสถานีชาร์จแบตเตอร์รี่ สำหรับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ตามเทรนด์รถไฟฟ้าที่กำลังจะมาแรงในปีนี้ ซึ่ง FER ได้เซ็นสัญญาความเข้าใจเบื้องต้น ( MOU ) เจ้าเดียวในประเทศไทย ขณะนี้มีการเปิดตัว EV ชาร์จแล้ว

ไม่เพียงเส้นทางล่าเงิน ล่างาน แต่เส้นทางสายบุญ เขาก็ไม่เคยขาดสักวันเดียว ทั้ง 3 อย่างเดินควบคู่กับไปตลอดเวลา ไม่มีวันไหนที่ไม่มีบุญ ไม่มีวันไหนที่ไม่ล่าเงิน ไม่มีวันไหนที่ไม่ล่างาน เพราะทั้ง 3 อย่างได้หลอมรวมอยู่ในตัวของ “ประสิทธิ์ “ จนยากจะแยกออกจากกันได้

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,245 วันที่ 19 - 22 มีนาคม พ.ศ. 2560