ตลาดการเมืองคึก“บ้านใหญ่”ยกทัพซบ“ภูมิใจไทย”ดันสูตร 4+4

*** หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ “ลึก ตรงประเด็น เห็นโอกาส” ฉบับ 4134 ระหว่างวันที่ 25-27ก.ย.2568 โดย...กาแฟขม

*** อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี คนที่ 32 นำครม.ชุดใหม่เข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณ 24 ก.ย. 2568 ก่อนวางคิวแถลงนโยบายต่อสภาฯ ขอประธานสภาฯ บรรจุวาระให้ 29-30 ก.ย.

*** ยํ้าแล้วยํ้าอีกแทบทุกเวทีกับโรดแมปรัฐบาล 4 เดือน ก่อน “ยุบสภา” เป็นแม่นมั่น ฉะนั้นในเรื่องกฎบัตรกฎหมายประกอบสมัยประชุมสภาฯ ปิดสิ้นเดือน ต.ค. กฎหมายใหม่ๆ คงเสนอไม่ทัน ก็ต้องใช้เท่าที่มีอยู่ตรึงสถานการณ์บริหารไปก่อน โดยเฉพาะภัยอาชญากรรมทางด้านเศรษฐกิจ คงใช้กฎหมายเท่าที่มีอยู่ ซึ่งน่าจะเพียงพอในการปราบปรามเหล่าร้ายทั้งหลาย แก้ปัญหาได้แน่ถ้าเคร่งครัดกฎหมาย เมื่อ “นายกฯหนู” ยํ้าเช่นนี้ ก็ต้องเชื่อตามนี้ หลัง 30 ต.ค.ที่แถลงนโยบายเสร็จนับไปเลย 120 วัน ยุบสภาฯ เลือกตั้งใหม่แน่ คะเนและคำนวณกันแล้ววันเลือกตั้งน่าจะไปตกแถวปลาย มี.ค.หรือ ต้น เม.ย.

*** ช่วงเวลานี้เป็นที่รู้กัน ตลาดนัดส.ส.เริ่มคึกคักในการย้ายพรรค จัดทัพรับเลือกตั้งใหม่ พรรคของนายกฯหนู มีพลังในการดึงดูดให้ส.ส. อดีต ส.ส. นักการเมืองบ้านใหญ่ ไหลเข้ามากองรวมกัน เหมือนยุคหนึ่งสมัยหนึ่งที่พรรคไทยรักไทย เคยใช้ พรรคนายกฯหนูมาถึงตรงนี้ไม่ใช่แค่ 4 เดือน แต่ขอรวบรวมส.ส.ให้ได้มากที่สุดเลือกตั้งรอบหน้าจัดตั้งรัฐบาล นั่งเก้าอี้นายกฯครองอำนาจไปต่ออีก 4 ปี ตามสูตร 4+4

ที่เห็นๆ บ้านใหญ่ภาคใต้ไปกันยกใหญ่ ยกค่าย ทั้งฝั่งอันดามัน ระนอง ภูเก็ต พังงา กระบี่ ตรัง สตูล ที่หมายมั่นยกทั้งกระบิ รวมไปกับฝั่งอ่าวไทย ชุมพร สุราษฎร์ สงขลาบางส่วน นครศรีธรรมราช ทำท่าจะเป็นสีนํ้าเงินพรึ่บพรั่บไปทั้งด้ามขวานกันเลยทีเดียว ต้องจับตาดูสานฝันนายกฯหนู ณ เขากระโดง ไปต่อในเก้าอี้แห่งอำนาจได้หรือไม่ 

*** สำคัญเลยและต้องสั่งการด่วน เหตุเงินทุนปริศนาไหลเข้าประเทศไทยจำนวนมาก ทำให้ค่าเงินบาทแข็งค่า และถูกจับตามองเป็นเงินสีเทา และประเทศไทยกลายเป็นแหล่งฟอกเงินเหล่านี้ ซึ่งเสียหายมหาศาล กับภาพลักษณ์ประเทศ และค่าความสูญเสียทางด้านเศรษฐกิจ เพราะถ้าไทยกลายเป็นแหล่งฟอกเงินสีเทา นักธุรกิจหรือบรรดาบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลก จะเมินไทยทันที

ว่าแล้ว เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง สั่งกระทรวงการคลัง ประสานกับทั้งธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.), สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ตั้งทีมมาศึกษาเรื่องนี้ ตอบโจทย์เชื่อมโยงข้อมูลให้ได้ว่าเงินมาจากไหน จะได้เกาให้ถูกที่คันแก้ปัญหาให้ตรงจุด 

*** จับตาประชุมผู้ถือหุ้น ดุสิตธานี 26 ก.ย.นี้ มีวาระร้อนๆ ปลด ชนินทธ์ โทณวณิก ผู้บริหาร ซีอีโอและเป็นบุตรชายคนโตของท่านผู้หญิงชนัตถ์ ปิยะอุย ผู้ก่อตั้งเครือดุสิตธานีด้วยความขัดแย้งของพี่น้อง ประกอบมือที่สามเข้าแทรก แต่ได้ยินเสียงกระซิบมาว่าพี่น้อง มีกาวใจ คุยกันรู้เรื่องแล้ว ชนินทธ์ จะได้โอกาสไปต่อ ก็ต้องตามดูวันประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้นจะเอาอย่างไร

*** แรงไม่หยุด ฉุดไม่อยู่ สำหรับ MAGURO หุ้นร้านอาหารสุดฮ็อต ราคาพุ่งแรงต่อเนื่อง ทำ New High 2 วันติดกัน แตะ 24.30 เป็น All Time High หลังผลประกอบการครึ่งปีแรกรายได้เติบโตสวย กำไรสุทธิครึ่งปีโตแรง 96% เป็นการเติบโตสวนทางธุรกิจร้านอาหารทั่วไป ที่ค่อนข้างเหนื่อยกับสภาพเศรษฐกิจ....ยิ่งกว่านั้น MAGURO ภายใต้การนำของซีอีโอหนุ่มไฟแรง จักรกฤติ สายสมบูรณ์ ประสบความสำเร็จกับการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง....2 แบรนด์ ร้านอาหารใหม่คือ BINCHO และ KIWAMIYA ร้านแฮมเบิร์กดังจากญี่ปุ่น ต่างได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว ลูกค้าเยอะมาก...คิวจองยาวทุกวัน....และยังขยายธุรกิจ เปิดสาขาใหม่อย่างต่อเนื่อง...สงสัยงบไตรมาส 3 น่าจะออกมาหล่อๆ แน่นอน

***ปิดท้ายปฏิทินข่าว... วันศุกร์ที่ 26 ก.ย.- วันอาทิตย์ที่ 5 ต.ค.2568 บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF เปิดบูธนิทรรศการในรูปแบบ Interactive ภายใต้แนวคิด “SUSTAINOVATION BEHIND EVERY BITE - ทุกคำ ทุกคน คือพลังสู่ความยั่งยืน” ในงานมหกรรมความยั่งยืนที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน SUSTAINABILITY EXPO 2025 (SX2025) ร่วมสร้างความมั่นคงทางอาหารเพื่อสนับสนุนให้ทุกคนมีสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น พร้อมพบกิจกรรมด้านนวัตกรรมความยั่งยืน ที่บูธ CPF โซน Better Living ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ 

หน้า 4 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 45 ฉบับที่ 4,134 วันที่ 25 - 27 กันยายน พ.ศ. 2568