กลุ่ม Digital Services เติบโต 19.54% โดยเฉพาะในกลุ่ม e-Retail ที่เติบโตถึง 49.37% และ e-Logistics ที่เติบโต 46.29% ขณะที่ FinTech เติบโต 23.89% การเติบโตในกลุ่มนี้สะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภคที่หันมาใช้บริการออนไลน์มากขึ้น และความต้องการระบบชำระเงินดิจิทัลที่ปลอดภัยและสะดวก
กลุ่ม Software and Software Services เติบโต 8.46% โดยบริการซอฟต์แวร์ (Software Services) เติบโตสูงกว่า Software On-Premise อย่างชัดเจน ซึ่งเป็นผลจากการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบ Cloud และ SaaS ที่ช่วยลดต้นทุนและเพิ่มความคล่องตัวในการดำเนินธุรกิจ
กลุ่ม Digital Content เติบโต 14.41% แม้จะมีสัดส่วนต่ำที่สุด แต่มีแนวโน้มขยายตัวจากการบริโภคเนื้อหาดิจิทัลที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในรูปแบบวิดีโอสั้น Podcast และคอนเทนต์แบบ Interactive ที่สามารถสร้าง Engagement ได้สูง
แนวโน้มเทคโนโลยีที่ส่งผลต่อการตลาด
เทคโนโลยีที่มีผลต่อพฤติกรรมผู้บริโภคและการบริโภคสื่อในปี 2567 ได้แก่ AI และ Machine Learning ที่ช่วยในการวิเคราะห์ข้อมูลและคาดการณ์พฤติกรรมผู้บริโภค Cloud Computing ที่ช่วยให้การจัดการข้อมูลมีประสิทธิภาพมากขึ้น Big Data & Analytics ที่เป็นหัวใจของการวางกลยุทธ์การตลาดแบบ Personalization และ IoT ที่เชื่อมโยงอุปกรณ์ต่าง ๆ เข้ากับชีวิตประจำวันของผู้บริโภค
นอกจากนี้ Blockchain และ FinTech ยังมีบทบาทในการสร้างความโปร่งใสในการทำธุรกรรม ขณะที่ AR/VR และ Metaverse เปิดโอกาสใหม่ในการสร้างประสบการณ์แบรนด์ที่ล้ำสมัยและมีความแตกต่าง
การเปลี่ยนแปลงด้านแรงงานและบุคลากร และ การผลิตบัณฑิตในสาขาที่เกี่ยวข้อง
ในปี 2567 มีบริษัทในกลุ่ม Software and Services จำนวน 14,429 แห่ง กลุ่ม Hardware and Devices จำนวน 10,144 แห่ง กลุ่ม Digital Services จำนวน 752 แห่ง และกลุ่ม Digital Content จำนวน 277 แห่ง
จำนวนบุคลากรในอุตสาหกรรมมีทั้งหมด 575,000 คน โดยกลุ่ม Hardware and Devices มีจำนวนมากที่สุดที่ 305,875 คน รองลงมาคือ Software and Services ที่ 175,254 คน Digital Services ที่ 86,177 คน และ Digital Content ที่ 7,688 คน
อย่างไรก็ตาม แนวโน้มการจ้างงานในบางกลุ่มเริ่มลดลงจากการใช้ AI และฟรีแลนซ์แทนพนักงานประจำ ซึ่งสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างแรงงานในยุคดิจิทัล นักการตลาดควรปรับทีมให้มีความยืดหยุ่น และเน้นการใช้เครื่องมืออัตโนมัติควบคู่กับการสร้างสรรค์
ขณะที่อัตราการจบการศึกษาในสาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์อยู่ที่ 71.38% วิศวกรรมคอมพิวเตอร์ที่ 86.28% ขณะที่สาขาดิจิทัลและข้อมูลมีอัตราการจบสูงถึง 200.73% และ 200.00% ตามลำดับ
การผลิตบุคลากรเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะในสายดิจิทัลและข้อมูล ซึ่งเป็นสาขาที่มีความต้องการสูงในตลาดแรงงาน นักการตลาดควรให้ความสำคัญกับการร่วมมือกับมหาวิทยาลัยเพื่อพัฒนาหลักสูตรที่ตอบโจทย์ตลาด และสร้างโอกาสในการฝึกงานหรือโครงการร่วมกับแบรนด์
การคาดการณ์ภาพรวมมูลค่าอุตสาหกรรมดิจิทัล ปี 2568–2570
มูลค่าอุตสาหกรรมดิจิทัลคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ภายใน 3 ปีข้างหน้า โดยในปี 2568 จะอยู่ที่ 2.69 ล้านล้านบาท ปี 2569 ที่ 2.89 ล้านล้านบาท และปี 2570 ที่ 3.11 ล้านล้านบาท ขณะที่จำนวนบุคลากรจะเพิ่มขึ้นจาก 592,333 คนในปี 2568 เป็น 633,890 คนในปี 2570
กลุ่มที่เติบโตเร็วที่สุดคือ Digital Services โดยเฉลี่ย 10–14% ต่อปี โดยเฉพาะ e-Retail, FinTech และ Logistics ซึ่งเป็นกลุ่มที่นักการตลาดควรจับตามองและวางแผนลงทุนอย่างจริงจัง
บทสรุป:
อุตสาหกรรมดิจิทัลไทยกำลังเติบโตอย่างมั่นคงและมีศักยภาพสูงในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ นักการตลาด โฆษณา และประชาสัมพันธ์จึงควรใช้ข้อมูลเหล่านี้ในการวางกลยุทธ์อย่างชาญฉลาด เพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน และเตรียมพร้อมสู่อนาคตที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี
ขอบคุณข้อมูลจากdepa_Digital-Industry-2024_PressCon_Presentation_TH https://www.depa.or.th/th/article-view/press-conference-digital-industry-2024
ผู้นำวิสัยทัศน์ หน้า 15 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 4,140 วันที่ 16 - 18 ตุลาคม พ.ศ. 2568