สำหรับเจ้าของธุรกิจครอบครัว การวางแผนสืบทอดตำแหน่งเป็นเรื่องที่ท้าทายและเต็มไปด้วยคำถามมากมาย แต่หากสามารถจัดการได้อย่างเหมาะสม ก็จะช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ในครอบครัวและผลักดันความสำเร็จของธุรกิจในระยะยาวได้ ผู้นำรุ่นก่อนควรพิจารณาว่าจะวางมือไปเลยเพื่อเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ได้เรียนรู้และเติบโตด้วยตัวเอง
หรือจะยังคงอยู่ในฐานะที่ปรึกษาเพื่อให้คำแนะนำและสนับสนุน ซึ่งแม้ว่าบทบาทที่ปรึกษาจะเป็นประโยชน์ในหลายกรณี แต่ในบางสถานการณ์ก็อาจกลายเป็นอุปสรรคต่อการเติบโตของผู้นำรุ่นถัดไปเช่นกัน ท้ายที่สุดแล้วคำถามสำคัญที่ทุกคนต้องตอบคือ “ควรอยู่ต่อหรือควรถอยออกไป” เพื่อให้ธุรกิจสามารถเดินหน้าต่อไปได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน
โดยทั่วไปหลังจากส่งต่อธุรกิจแล้ว ผู้นำรุ่นก่อนมักยังคงมีบทบาทสำคัญในองค์กร ทั้งในฐานะสมาชิกบอร์ดบริหารหรือประธานบริษัท และบางครั้งยังคงมีอำนาจบริหารและถือหุ้นอีกด้วย ซึ่งการมีส่วนร่วมนี้มีทั้งข้อดีและข้อเสีย โดยในแง่บวกคือผู้นำรุ่นก่อนสามารถเป็นที่ปรึกษาและให้คำแนะนำแก่ทายาท ซึ่งจะช่วยลดแรงกดดันและเสริมสร้างความไว้วางใจในครอบครัวเพื่อให้การเปลี่ยนผ่านเป็นไปอย่างราบรื่น
ผู้นำรุ่นก่อนก็สามารถเข้ามาช่วยเติมเต็มช่องว่างด้านการบริหารเพื่อให้ธุรกิจยังคงดำเนินไปได้อย่างราบรื่น ด้วยการให้คำแนะนำ ถ่ายทอดทักษะ และสอนเทคนิคการบริหารที่สำคัญ งานวิจัยพบว่าการมีส่วนร่วมของผู้นำรุ่นก่อนในกรณีนี้ช่วยให้ทายาทเรียนรู้และปรับตัวได้ดีขึ้น ส่งต่อความรู้ที่สำคัญ และเพิ่มโอกาสในการบริหารธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ
นอกจากนี้ยังมีอิทธิพลของอายุและความเป็นมาของธุรกิจด้วย ในช่วงเปลี่ยนผ่านผู้นำเป็นช่วงเวลาสำคัญที่ทุกครั้งที่เกิดขึ้น ธุรกิจจะได้เรียนรู้วิธีรับมือกับการเปลี่ยนผ่านมากขึ้น ทำให้อายุของธุรกิจเป็นตัวบ่งชี้ถึงประสบการณ์ในการสืบทอดตำแหน่ง เมื่อธุรกิจอายุน้อยมักต้องการผู้นำที่แข็งแกร่ง เพราะยังมีประสบการณ์น้อยและแนวคิดสำคัญยังคงเชื่อมโยงกับผู้ก่อตั้ง จึงจำเป็นต้องอาศัยผู้นำรุ่นก่อนเข้ามามีบทบาทในการให้คำแนะนำและถ่ายทอดทรัพยากรที่สำคัญ
รวมถึงอาจกระตุ้นให้เกิดแนวคิดใหม่ๆผ่านการทำงานร่วมกัน แต่เมื่อธุรกิจเติบโตขึ้นและมีโครงสร้างบริหารที่มั่นคง การตัดสินใจมักกระจายตัวมากขึ้น ทำให้องค์กรสามารถดำเนินงานได้โดยไม่ต้องพึ่งพาผู้ก่อตั้งอย่างใกล้ชิด ดังนั้นในแง่ของการบริหาร ผู้นำรุ่นก่อนจึงมีบทบาทสำคัญกับธุรกิจที่อายุน้อยมากกว่าธุรกิจที่มีความมั่นคงอยู่แล้ว
ดังนั้นผู้นำรุ่นปัจจุบันควรพิจารณาว่าควรอยู่ต่อหรือถึงเวลาถอยออกมาแล้ว โดยสามารถตัดสินใจได้จากสองคำถามหลัก คือ ทายาทมีทุนมนุษย์สูงและพร้อมสำหรับบทบาทผู้นำหรือไม่ และธุรกิจเคยผ่านการเปลี่ยนผ่านผู้นำมาก่อนหรือไม่ หากคำตอบคือ “ใช่” ทั้งสองข้อ ก็ถึงเวลาส่งไม้ต่อให้กับทายาทอย่างเต็มตัวแล้ว แต่หากทายาทยังขาดประสบการณ์ และธุรกิจยังไม่เคยผ่านการเปลี่ยนผู้นำมาก่อน
ผู้นำรุ่นก่อนควรให้คำแนะนำ ถ่ายทอดความรู้ และช่วยให้ทายาทเรียนรู้ทักษะที่จำเป็นก่อน จากนั้นจึงค่อยๆ ถอยออกมาอย่างเป็นธรรมชาติ และครอบครัวควรมีการเตรียมความพร้อมให้ทายาทล่วงหน้า เช่น การให้สะสมประสบการณ์จากภายนอกธุรกิจครอบครัวและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญจากภายนอก เพื่อประเมินความพร้อมของทั้งองค์กรและทายาทสำหรับการเปลี่ยนผ่านอย่างแท้จริงด้วย
ที่มา: Melania Riefolo , Sena Özkara , Jan-Philipp Ahrens and Niloufar Nekouei, August 6, 2024. Should Former Leaders Stay Involved in the Family Firm? Available: https://familybusiness.org/content/should-former-leaders-stay-involved-in-the-family-firm