ส่งพัสดุผิดเหตุสับสนเลขที่บ้าน ฟ้องศาลขอเปลี่ยนบ้านเลขที่ได้หรือไม่?

16 พ.ย. 2568 | 06:25 น.
อัปเดตล่าสุด :16 พ.ย. 2568 | 06:39 น.

ส่งพัสดุผิดเหตุสับสนเลขที่บ้าน ฟ้องศาลขอเปลี่ยนบ้านเลขที่ได้หรือไม่? : คอลัมน์อุทาหรณ์จากคดีปกครอง โดย...นายปกครอง หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 4149

KEY

POINTS

  • เจ้าของบ้านฟ้องนายอำเภอขอให้เปลี่ยนบ้านเลขที่ข้างเคียง (99/8) ที่คล้ายกับของตน (99) เนื่องจากทำให้เกิดปัญหาส่งพัสดุผิดพลาดบ่อยครั้ง
  • ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งไม่รับคำฟ้องไว้พิจารณา
  • ศาลให้เหตุผลว่า ความเดือดร้อนเกิดจากความผิดพลาดของพนักงานส่งพัสดุ ไม่ได้เกิดจากการกระทำของนายอำเภอโดยตรง ผู้ฟ้องจึงไม่ใช่ผู้เสียหายที่มีสิทธิฟ้องคดี

“สวัสดีครับ มีพัสดุมาส่ง” พนักงานส่งพัสดุส่งเสียงเรียกให้คนในบ้านออกมารับพัสดุ 

“อ้าว นี่ไม่ใช่พัสดุของที่นี่นะ บ้านนี้ไม่มีคนชื่อเอกเขนก น่าจะส่งผิด” หญิงสาวยื่นซองพัสดุคืนให้แก่พนักงาน ก่อนเดินกลับเข้าบ้านด้วยความหงุดหงิด

เหตุการณ์เช่นว่านี้ น่าจะเกิดขึ้นซ้ำ ๆ ระหว่างบ้านสองหลัง ที่จะนำมาเล่าให้ฟังในวันนี้ เนื่องจากว่า มีเลขที่บ้านตัวหน้าเหมือนกัน (เลขที่ 99) แต่ต่างกันตรงที่อีกหลังหนึ่งมีทับด้วย (เลขที่ 99/8) ทำให้พนักงานพัสดุเกิดความสับสน หรือไม่ได้ตรวจสอบให้รอบคอบ จึงจัดส่งพัสดุผิดบ้านอยู่บ่อยครั้ง 

เป็นเหตุให้ต้องมีการติดตามพัสดุที่สูญหาย จนเกิดความเดือดร้อนและรำคาญใจ ความเดือดร้อนดังกล่าวอาจจะดูเล็กน้อยในสายตาของหลายคน แต่สำหรับเจ้าตัวเมื่อบ่อยครั้งเข้าก็อาจรู้สึกว่าไม่อยากทนอีกต่อไป จึงนำคดีมาฟ้องต่อศาลปกครอง เช่นอุทาหรณ์ที่หยิบยกมาเล่าสู่กันฟังในวันนี้ 

แต่ทว่า ... กรณีเช่นนี้ศาลจะรับฟ้องหรือไม่ และเพราะเหตุใด มาติดตามกันเลยครับ

มูลเหตุของคดีนี้เกิดจาก ... ผู้ฟ้องคดีอยู่บ้านเลขที่ 99 อ้างว่าตนได้รับความเดือดร้อน จากการที่นายอำเภอกำหนดเลขที่บ้านให้กับบ้านอีกหลังหนึ่ง เป็นบ้านเลขที่ 99/8 ซึ่งอยู่ในหมู่และตำบลเดียวกัน ไม่ถูกต้องตามข้อ 19 ของระเบียบสำนักทะเบียนกลาง ว่าด้วยการจัดทำทะเบียนราษฎร พ.ศ. 2535 ที่ระบุว่า เมื่อได้กำหนดให้บ้านเลขที่แล้ว ต่อมามีบ้านปลูกสร้างขึ้นใหม่ระหว่างบ้านหลังใด ก็ให้ใช้บ้านเลขที่ที่อยู่ใกล้ชิดนั้น แล้วเพิ่มเติมตัวเลขไว้ท้าย เช่น 5/2 , 5/3 เป็นบ้านเลขที่ที่ปลูกสร้างขึ้นใหม่ ... ซึ่งบ้านดังกล่าวตั้งอยู่บริเวณหน้าหมู่บ้าน ส่วนบ้านของผู้ฟ้องคดีตั้งอยู่บริเวณท้ายซอย 

โดยบ้านหลังดังกล่าว แม้จะอยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน แต่ไม่ได้อยู่ในบริเวณใกล้เคียงกัน และไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกันทางเครือญาติ ทำให้พนักงานส่งเอกสารและพัสดุสับสนในการจัดส่ง ส่งผลให้เอกสารและพัสดุของผู้ฟ้องคดีสูญหายบ่อยครั้ง 

ผู้ฟ้องคดีจึงฟ้องนายอำเภอ (ผู้ถูกฟ้องคดี) ต่อศาลปกครอง เพื่อขอให้ศาลพิพากษาเพิกถอนการออกบ้านเลขที่ 99/8 และออกบ้านเลขที่ใหม่ให้ถูกต้อง 

คดีมีประเด็นปัญหาว่า ผู้ฟ้องคดีเป็นผู้มีสิทธิในการฟ้องนายอำเภอต่อศาลปกครองหรือไม่ ?

ศาลปกครองสูงสุดพิจารณาแล้วเห็นว่า ผู้ฟ้องคดีฟ้องว่า ได้รับความเดือดร้อน หรือเสียหายจากการที่นายอำเภอ กำหนดเลขที่บ้านโดยไม่ถูกต้องตามระเบียบสำนักทะเบียนกลาง ว่าด้วยการจัดทำทะเบียนราษฎรฯ ทำให้เอกสารและพัสดุของผู้ฟ้องคดีสูญหาย ขอให้ศาลเพิกถอนการกำหนดเลขที่บ้านดังกล่าว และให้นายอำเภอกำหนดเลขที่บ้านให้เป็นไปตามระเบียบดังกล่าว

จึงเป็นคดีพิพาทเกี่ยวกับการที่หน่วยงานทางปกครอง หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายตามมาตรา 9 วรรคหนึ่ง (1) แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542  

                             ส่งพัสดุผิดเหตุสับสนเลขที่บ้าน ฟ้องศาลขอเปลี่ยนบ้านเลขที่ได้หรือไม่?

อย่างไรก็ตาม การที่ผู้ฟ้องคดีจะเป็นผู้มีสิทธิฟ้องคดีต่อศาลปกครอง จะต้องปรากฏว่า ผู้ฟ้องคดีเป็นผู้ได้รับความเดือดร้อนหรือเสียหาย หรืออาจจะเดือดร้อนหรือเสียหาย โดยมิอาจหลีกเลี่ยงได้ อันเนื่องจากการกระทำ หรือการงดเว้นการกระทำของหน่วยงานทางปกครอง หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐตามมาตรา 42 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าว และคำขอของผู้ฟ้องคดีจะต้องเป็นคำขอที่ศาลอาจกำหนดคำบังคับให้ได้ตามมาตรา 72 แห่งพระราชบัญญัติเดียวกัน

เมื่อปรากฏข้อเท็จจริงว่า บ้านของผู้ฟ้องคดี เลขที่บ้าน 99 ส่วนบ้านที่พิพาท เลขที่บ้าน 99/8 จึงเห็นได้ว่า บ้านทั้งสองหลังมีเลขที่บ้านที่แตกต่างกัน ความเดือดร้อนหรือเสียหายของผู้ฟ้องคดีในคดีนี้ จึงเกิดจากการที่พนักงานส่งเอกสารและพัสดุไม่ตรวจสอบเลขที่บ้านทั้งสองหลังให้ถี่ถ้วน ก่อนที่จะส่งเอกสารและพัสดุ มิได้เกิดจากการที่นายอำเภอ กำหนดเลขที่บ้านเป็นเลขที่ 99/8 แต่อย่างใด  

ดังนั้น ผู้ฟ้องคดีจึงมิใช่ผู้ได้รับความเดือดร้อนหรือเสียหายหรืออาจจะเดือดร้อนหรือเสียหาย โดยมิอาจหลีกเลี่ยงได้ ที่จะมีสิทธิฟ้องนายอำเภอต่อศาลปกครองตามมาตรา 42 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองฯ ศาลจึงไม่อาจรับคำฟ้องนี้ไว้พิจารณาได้

ศาลปกครองสูงสุดจึงมีคำสั่งยืนตามคำสั่งของศาลปกครองชั้นต้นที่ไม่รับคำฟ้องไว้พิจารณา (คำสั่งศาลปกครองสูงสุดที่ 529/2568) 

สรุปได้ว่า การที่ผู้ฟ้องคดีจะเป็นผู้มีสิทธิฟ้องคดีต่อศาลปกครองจะต้องปรากฏว่า ผู้ฟ้องคดีเป็นผู้ได้รับความเดือดร้อนหรือเสียหาย หรืออาจจะเดือดร้อนหรือเสียหายโดยมิอาจหลีกเลี่ยงได้ อันเนื่องจากการกระทำหรือการงดเว้นการกระทำของหน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ 

เมื่อคดีนี้ผู้ฟ้องคดีได้รับความเดือดร้อนจากพนักงานส่งพัสดุ ที่ไม่ตรวจสอบเลขที่บ้านให้ละเอียดรอบคอบ มิใช่จากการที่นายอำเภอกำหนดบ้านเลขที่มีทับให้แก่บ้านพิพาท ผู้ฟ้องคดีจึงมิใช่ผู้มีสิทธิฟ้องนายอำเภอ ต่อศาลปกครอง ... นั่นเองครับ  

(ปรึกษาคดีปกครองได้ที่ สายด่วนศาลปกครอง 1355 และสามารถศึกษาความรู้ที่น่าสนใจเกี่ยวกับคดีปกครองได้ที่ “ศูนย์การเรียนรู้ศาลปกครองออนไลน์”)                        https://aclib.admincourt.go.th/

คอลัมน์อุทาหรณ์จากคดีปกครอง โดย...นายปกครอง หน้า 6 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 45 ฉบับที่ 4,149 วันที่ 16 -19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568