Accountability & Ownership ในยุค AI ฐานรากใหม่ขององค์กร

25 พ.ค. 2568 | 00:00 น.

Accountability & Ownership ในยุค AI ฐานรากใหม่ขององค์กร : โดย ผศ.ดร.วัชรพจน์ ทรัพย์สงวนบุญ ศูนย์กลยุทธ์และความสามารถทางการแข่งขันองค์กร ม.เทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี

"องค์กรแห่งอนาคต ไม่ใช่แค่ใช้ AI แต่ต้องเป็นองค์กรที่ไม่มีใครลอยตัวเหนือความรับผิดชอบได้" 

บริบทใหม่ของการแข่งขัน เมื่อเทคโนโลยีไม่ใช่คำตอบสุดท้าย 
ในโลกธุรกิจที่เทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ไม่ว่า AI, Automation และ Data-driven Decision Making กำลังเป็นฐานการขับเคลื่อนองค์กรให้เติบโตและแข่งขันได้ "เทคโนโลยี" กลายเป็น baseline ไม่ใช่ differentiator อีกต่อไป สิ่งที่แตกต่างองค์กรชั้นนำออกจากองค์กรทั่วๆ ไป คือ วัฒนธรรมการบริหาร โดยเฉพาะสองเสาหลักที่มักถูกละเลยในบริบทองค์กรไทย ได้แก่

1.Accountability คือ ความรับผิดชอบต่อผลของการกระทำ
2.Sense of Ownership คือ ความรู้สึกเป็นเจ้าของในภารกิจและผลลัพธ์องค์กร

ในยุคที่ข้อมูลมหาศาลและ AI เป็นเครื่องมือสำคัญในการวิเคราะห์ทางเลือกให้เรามากมาย สิ่งที่เทคโนโลยีตอบแทนเราไม่ได้ คือ ความรับผิดชอบทางจริยธรรมและการตัดสินใจที่มี Integrity หากผู้นำองค์กรขาด Accountability แม้มีเทคโนโลยีชั้นสูงเพียงใด ก็จะซ้ำรอยตัวอย่างวิกฤติในสังคมไทย ตึกถล่มไร้คนผิด ถนนมรณะไร้การแก้ไข งบประมาณรั่วไหลไร้คำอธิบาย และระบบยุติธรรมที่ล้มเหลวในการสร้างความเชื่อมั่น

Accountability ไม่ใช่เครื่องมือควบคุม แต่เป็นวัฒนธรรมแห่งการปลดล็อกศักยภาพ

ในมุมบริหารองค์กร การสร้าง Accountability ไม่ใช่เรื่องของ “การจับผิด” แต่คือ การปลูกฝังวัฒนธรรมที่ทุกคนมีส่วนร่วมรับผลของการกระทำตนเองและองค์กร โดยสอดคล้องกับหลัก 3 ประการ

Transparency โปร่งใส ตรวจสอบได้ : ในยุคที่ข้อมูลกลายเป็นทรัพยากรหลักของเศรษฐกิจดิจิทัล การบริหารจัดการข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพจึงไม่ใช่ทางเลือก แต่เป็น “ความจำเป็น” ซึ่งนำไปสู่แนวคิดสำคัญสองประการที่องค์กรไม่อาจมองข้าม ได้แก่ ธรรมาภิบาลข้อมูล (Data Governance) และ ความโปร่งใสของระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI Explainability)

Responsibility ตัดสินใจบนฐานจริยธรรม : องค์กรเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การพัฒนาโครงสร้างและระบบการบริหารงานที่ยืดหยุ่น แต่มีความชัดเจน คือ หัวใจสำคัญของความสำเร็จ องค์ประกอบที่มักถูกมองข้ามแต่มีอิทธิพลสูง ได้แก่ การกำหนดบทบาทหน้าที่อย่างชัดเจน และ การตั้งตัวชี้วัดความสำเร็จที่เน้นผลกระทบ

Answerability กล้ารับผลสำเร็จ-ล้มเหลว  : การทำงานที่ขับเคลื่อนด้วยความร่วมมือข้ามสายงาน การประเมินผลพนักงานไม่ควรจำกัดอยู่เพียงมุมมองของผู้บังคับบัญชาอีกต่อไป เพราะอาจไม่สะท้อนภาพรวมของพฤติกรรมการทำงานในชีวิตจริง แนวคิด Performance Review with 360° Feedback หรือ การประเมินแบบ 360 องศา จึงเป็นแนวทางที่องค์กรยุคใหม่หันมาให้ความสำคัญมากขึ้น

ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดในระดับสากล เช่น บริษัทชั้นนำระดับโลกอย่าง Unilever สร้างวัฒนธรรม “เจ้าของร่วม” โดยให้พนักงานทุกระดับเข้าใจว่า ผลลัพธ์องค์กรคือผลลัพธ์ของตนเอง ผ่านระบบตรวจสอบและตอบสนองแบบ real-time ไม่ใช่แค่รายปี

Sense of Ownership ต่อยอด Accountability สู่ขีดความสามารถ
การสร้าง "Sense of Ownership" ไม่ใช่เพียงเห็นชอบมอบคนอื่นทำแล้วบอกว่า "คุณต้องรับผิดชอบนะ" แต่คือ การสร้างการมีส่วนร่วมอย่างแท้จริง (Participative Governance) ซึ่งองค์กรสมัยใหม่ใช้ 4 เครื่องมือสนับสนุน ได้แก่

1.Employee Feedback System ฟังเสียงพนักงานแบบต่อเนื่อง (continuous listening)

2.OKR (Objectives & Key Results) ให้พนักงานตั้งเป้าหมายของตนเองที่สัมพันธ์กับเป้าหมายองค์กร

3.Transparent Reward Mechanism รางวัลหรือผลตอบแทนสัมพันธ์กับผลลัพธ์ที่มีส่วนร่วมจริง

4.Agile Team Structure โครงสร้างยืดหยุ่น ให้ทีมงานบริหารโครงการเองเหมือน Startup

เมื่อพนักงานมี Sense of Ownership พวกเขาจะไม่เพียงแต่ทำตามคำสั่ง แต่คิดล่วงหน้า และตัดสินใจบนฐานผลประโยชน์ระยะยาวขององค์กร ตรงกันข้ามกับกรณีในประเทศไทยที่ผู้มีอำนาจ "ลอยตัว" และหลบเลี่ยงความรับผิดชอบจนโครงสร้างองค์กรและสังคมเสื่อมถอย

Accountability + Ownership = Competitive Advantage ยุคใหม่
องค์กรที่หลอมรวม Accountability และ Ownership เข้าด้วยกันจะได้เปรียบทางการแข่งขันใน 3 มิติ ได้แก่

Trust  เพิ่มความเชื่อมั่นจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย  ดึงดูดลูกค้าและคู่ค้า (ผลกระทบต่อการแข่งขัน)

Adaptability ตัดสินใจและปรับตัวเร็ว บนข้อมูลจริง ตอบสนองตลาดได้เร็วกว่าคู่แข่ง (ผลกระทบต่อการแข่งขัน)

Sustainability  สร้างองค์กรยั่งยืน ไม่เสื่อมสลายเพราะปัญหาภายใน รักษาความสามารถแข่งขันระยะยาว (ผลกระทบต่อการแข่งขัน)

บทเรียนจากสังคมไทย สู่สูตรสำเร็จองค์กรไทยยุค AI

ตัวอย่างจากวิกฤติและโครงสร้างสังคมไทยชี้ชัดว่า องค์กรที่ไร้ Accountability และ Ownership คือ องค์กรที่กำลังยืนบนขอบเหว แม้จะมีทรัพยากรและเทคโนโลยีมากเพียงใด หากเราต้องการเห็นองค์กรไทยเติบโตบนเวทีโลกอย่างยั่งยืน เราจำเป็นต้องออกแบบ "วัฒนธรรมองค์กรยุค AI" บนฐานคิดใหม่ ที่ไม่มีใครอยู่เหนือกติกา ไม่มีใครหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบ และทุกคนรู้สึกว่า "องค์กรคือของเรา" อย่างแท้จริง

องค์กรที่แข่งขันได้ในโลก AI ไม่ใช่แค่ใครใช้เทคโนโลยีเก่งกว่า แต่ใครสร้างวัฒนธรรมแห่งความรับผิดชอบและการมีส่วนร่วมได้แน่นแฟ้นกว่า 

หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 4099 ระหว่างวันที่ 25-28 พ.ค. 2568