นายอักเซล วินเทอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็กซ์โพเนนเชียล จำกัด บริษัทร่วมทุนด้านนวัตกรรมระหว่างสยามพิวรรธน์และบริษัท พิวอท ดิจิทัล จำกัด และ Chief Digital Officer บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด กล่าวว่า บริษัทมีเป้าหมายสำคัญของการวางกลยุทธ์ด้าน AI คือการมอบประสบการณ์ลูกค้าแบบเฉพาะบุคคลในระดับสูงสุด (Hyper Personalization) และสร้างความเป็นเลิศในการดำเนินงาน
บริษัทจึงนำเทคโนโลยี AI มาใช้เพื่อยกระดับการค้นหาและแนะนำสินค้าที่ชาญฉลาดและตรงใจมากยิ่งขึ้น รวมถึงเปิดตัวฟีเจอร์อัจฉริยะที่ช่วยอำนวยความสะดวก เช่น การวิเคราะห์ภาพเพื่อการสะสมคะแนนและรับสิทธิ์จอดรถอย่างรวดเร็ว ตลอดจนเครื่องมือที่ช่วยให้เข้าใจความคิดเห็นจากลูกค้าได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น
กลยุทธ์นี้ยังรวมถึงการใช้ระบบวิเคราะห์ข้อมูลขั้นสูงเพื่อบริหารจัดการโฆษณาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งในแอปพลิเคชันและภายในศูนย์การค้า รวมถึงการนำระบบอัตโนมัติที่ขับเคลื่อนด้วย AI มาใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกของลูกค้าอย่างครอบคลุมและแบบเรียลไทม์
โดยบริษัทได้จัดตั้งทีมผู้เชี่ยวชาญด้าน AI โดยเฉพาะ ซึ่งไม่เพียงแค่พัฒนาและดูแลฟีเจอร์ใหม่ ๆ เท่านั้น แต่ยังมีบทบาทสำคัญในการให้ความรู้และฝึกอบรมด้าน AI แก่ผู้ใช้งานในองค์กร อีกทั้งยังได้ร่วมมือเชิงกลยุทธ์ (Strategic alliances) กับ Google Cloud และสตาร์ทอัพที่มีความคล่องตัว เพื่อร่วมกันผลักดันนวัตกรรมด้าน AI อย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งยกระดับมาตรฐานใหม่ให้กับธุรกิจค้าปลีกในประเทศไทย
ด้านนายปานเทพย์ นิลสินธพ ประธานบริหารสายงานประสบการณ์ลูกค้า บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด กล่าวว่า เพื่อยกระดับการสร้างประสบการณ์ของลูกค้าไปอีกขั้น สยามพิวรรธน์ได้ร่วมมือกับ Amity ติดตั้ง AI Customer Service Kiosk คีออสอัจฉริยะที่มีพนักงานบริการลูกค้าดิจิทัล ที่ศูนย์การค้าสยามพารากอนและไอคอนสยาม โดย Kiosk เหล่านี้ ช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้าในการค้นหาร้านค้าและข้อมูลเบื้องต้นต่างๆ
ในเฟสแรก ระบบรองรับหลายภาษา ได้แก่ ภาษาไทย อังกฤษ และจีน และจากเสียงตอบรับที่ดีจากลูกค้า เราจึงมีแผนที่จะขยายการใช้งาน เพิ่มฟีเจอร์รองรับหลายภาษา และติดตั้งเพิ่มเติมในพื้นที่ต่างๆ ของสยามพารากอนและไอคอนสยามภายในปีนี้ โดยในเฟสต่อไป จะเพิ่มอีก 4 ภาษา ได้แก่ ภาษาเกาหลี ภาษาญี่ปุ่น ภาษารัสเซีย และภาษาอาหรับ เพื่อให้สามารถให้บริการนักท่องเที่ยวต่างชาติได้ดียิ่งขึ้น
นอกจากนี้ ยังมีการนำอุปกรณ์แปลภาษาด้วย AI แบบเรียลไทม์ มาช่วยยกระดับการบริการลูกค้า ช่วยลดอุปสรรคด้านการใช้ภาษาและให้บริการได้รวดเร็วขึ้น
“บริษัทมุ่งเน้นในการสร้างประสบการณ์แบบ ‘WOW Experience’ ที่มอบความสะดวกสบายยิ่งขึ้นและบริการลูกค้าแบบเฉพาะบุคคลเพื่อสร้าง Engagement นวัตกรรมเหล่านี้ต้องอาศัยความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในพฤติกรรมและความต้องการของลูกค้า เพื่อส่งมอบประสบการณ์ดิจิทัลที่สร้างความประทับใจในทุกจุดสัมผัส”
ขณะที่นายบุญเลิศ สินสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส ผู้บริหารสายงานเทคโนโลยีสารสนเทศ บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด กล่าวว่า โครงสร้างระบบไอที เป็นปัจจัยสำคัญซึ่งเป็น backbone ในการขับเคลื่อนองค์กรให้เดินหน้าไปอย่างมั่นคง และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานมากขึ้น เพื่อรองรับการเปลี่ยนผ่านสู่อนาคตและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน การอบรบให้ความรู้พื้นฐานด้าน AI เป็นสิ่งสำคัญสำหรับการอัพสกิลพนักงาน
ที่ผ่านมาสยามพิวรรธน์ใช้เครื่องมือ AI อาทิ Microsoft CoPilot ซึ่งเป็นระบบ Generative AI Chatbot ที่ทำงานร่วมกับ Microsoft Office มาใช้ทั่วทั้งองค์กร ทำให้พนักงานทุกคนสามารถเข้าถึงและใช้งานได้อย่างสะดวก ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานในทุกทีม ด้วยเทคนิคการใช้งาน CoPilot เพื่อให้พนักงานได้เรียนรู้และใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีได้อย่างเต็มที่
นอกจากนี้ยังมีการนำระบบ AI เข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพงานด้านบัญชีและการเงิน ในการทำรายการจ่ายเงินให้กับเจ้าหนี้การค้า (Account Payable) โดยที่ AI จะทำการจับคู่รายการสั่งซื้อสินค้าและบริการกับใบแจ้งหนี้แล้วสร้างรายการจ่ายเงินเข้าระบบบัญชีเจ้าหนี้ ในระบบ SAP แบบอัตโนมัติ
นายไวยศ ปิยะกุลวรวัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารกลุ่มงานพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อสนับสนุนลูกค้าและธุรกิจ บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด กล่าวว่า การนำเทคโนโลยี AI เพื่อทำความเข้าใจ in-mall customer journey ได้ชัดเจนขึ้น ทำให้สามารถศึกษาข้อมูลเชิงลึกจากการทำ Deep Learning เพื่อให้เกิด Surveillance to Intelligence สำหรับวางแผนการสร้างประสบการณ์ลูกค้าที่ดีขึ้น
รวมทั้งทำให้เราสามารถวิเคราะห์ข้อมูลได้อย่างแม่นยำ เข้าใจพฤติกรรมของลูกค้าเชิงลึก และนำเสนอข้อเสนอหรือโปรโมชั่นที่ตรงใจ ในเวลาที่เหมาะสม ยกระดับประสบการณ์ช็อปปิ้งที่ตรงกับความต้องการของแต่ละบุคคลมากยิ่งขึ้น การนำเทคโนโลยี AI มาใช้ในการดำเนินธุรกิจของสยามพิวรรธน์ ช่วยเสริมประสิทธิภาพการทำงานภายในองค์กร ตอกย้ำความเป็นผู้นำในการพัฒนาจุดหมายปลายทางชั้นนำของประเทศและภูมิภาค
ด้านนายสุรศักดิ์ วัฒนายากร ผู้บริหารกลุ่มงานกลยุทธ์ข้อมูลธุรกิจ บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด กล่าวว่า บริษัทอัพเกรดแพลตฟอร์มข้อมูลเพื่อให้ระบบฐานข้อมูลมีความทันสมัย มีประสิทธิภาพสูง และสามารถประมวลผลได้ดีขึ้น เพื่อให้การจัดการและการใช้ข้อมูลเกิดประโยชน์สูงสุด
เพราะ Data เป็นขุมพลังที่จะช่วยเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน เข้าใจลูกค้าและร้านค้าผู้เช่า รวมทั้งพันธมิตรธุรกิจ ได้ดียิ่งขึ้น การใช้ AI ทำให้เราสามารถวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ซึ่งทำให้เรานำอินไซด์ต่างๆ ไปใช้ต่อยอดโอกาสทางธุรกิจต่อไปได้
“แนวทางการพัฒนาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) อย่างรอบด้านของสยามพิวรรธน์ สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการเป็นผู้นำธุรกิจค้าปลีกของไทย พร้อมทั้งมีบทบาทในการกำหนดทิศทางอนาคตของการสร้างประสบการณ์ในจุดหมายปลายทางที่ชาญฉลาดและมุ่งเน้นผู้บริโภคในระดับโลก”