SIMAT เพชรแท้จัดหนัก-จัดใหญ่

12 มี.ค. 2564 | 01:30 น.

SIMAT เพชรแท้จัดหนัก-จัดใหญ่ : คอลัมน์เมาธ์ทุกอำเภอ ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3661 หน้า 20 ระหว่างวันที่ 14-17 มี.ค.2564 By…เจ๊เมาธ์

>> ดัชนีหุ้นไทยส่งสัญญาณการเป็นหุ้นขาขึ้นอย่างชัดเจน หลังจากปิดตลาดได้สูงที่สุดนับจากเดือนมกราคมปี 63 เป็นต้นมา สัญญาณดีที่ว่า...ปัจจัยในประเทศเป็นเรื่องการวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่เริ่มเข้าถึงบุคลากรทางการแพทย์และกลุ่มเสี่ยงเป็นกลุ่มแรกๆ ของประเทศ ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ลดน้อยลงทุกวัน เหลือเพียงไม่กี่สิบคนเท่านั้น ค่าเงินบาทซึ่งอ่อนค่าลงก็ทำให้อุตสาหกรรมส่งออกได้รับประโยชน์ รวมไปถึงความสามารถในการแข่งขันของประเทศสูงขึ้นตามไปด้วย
 ส่วนปัจจัยต่างประเทศ ที่มีอิทธิพลต่อการปรับตัวขึ้นของดัชนีหุ้นไทยมีหลายเรื่อง เช่น สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ  มีมติผ่านแพ็กเกจเงินเยียวยาโควิด-19 มูลค่า 1.9 ล้านล้านดอลลาร์  ทำให้ดาวโจนส์ทำสถิติสูงสุดใหม่อีกครั้ง เนื่องจากมั่นใจว่าเศรษฐกิจของอเมริกา จะฟื้นตัวได้อย่างแข็งแกร่ง, ความกังวลเงินเฟ้อ เริ่มผ่อนคลาย เนื่องจากดัชนีราคาผู้บริโภคสหรัฐฯ (CPI) ดีดตัวขึ้นเป็น 0.4% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน และเพิ่มขึ้น 1.7% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมาสูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ปี 63 เป็นต้นมา นอกจากนี้ยังได้รับประโยชน์จากราคานํ้ามันดิบและค่าการกลั่น (เพิ่มขึ้น 13 จุด) ในตลาดโลกที่ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องอีกด้วย
 จากนี้ไปคงต้องมาตามดูกันว่าดัชนีหุ้นไทยจะวิ่งขึ้นไปได้อีกไกลแค่ไหน ไปถึง 1,600 จุดได้หรือไม่ และบรรดากูรูที่เงียบหายไปนาน จะออกมาเกาะกระแสฟันธงทิศทางตลาดหุ้นอีกหรือไม่ อีกไม่นานจะได้รู้กันแล้วค่ะ 

>> หลังจากครม. มีมติเห็นชอบ ให้ดอกเบี้ยผิดนัดชำระเหลือเพียง 5% จากเดิม 7.5% นักลงทุนจำนวนมาก กังวลว่าจะมีผลกระทบกับหุ้นกลุ่มลีสซิ่ง โดยเฉพาะกลุ่มจำนำทะเบียนอย่าง MTC และ SAWAD ซึ่งกรณีนี้ เจ๊เมาธ์ขอแจ้งให้ทราบโดยทั่วกันว่า การลดอัตราดอกเบี้ยผิดนัดชำระ ไม่มีผลต่อหุ้นกลุ่มนี้แต่อย่างใด สาเหตุเพราะหุ้นกลุ่มนี้อยู่ภายใต้การควบคุมของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่เข้มงวดมากกว่า ขณะเดียวกัน MTC ยิ่งไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใดทั้งสิ้น เนื่องจาก MTC ไม่มีการเรียกเก็บดอกเบี้ยผิดนัดชำระแต่อย่างใด จึงแจ้งมาให้ทราบโดยทั่วกันเจ้าค่า

 >> หลังจากราคาหุ้นของ EA ร่วงติดต่อกันหลายวัน เพราะหลายโครงการที่เคยประกาศไว้ อาจจะไม่สามารถทำได้ตามกำหนดเวลา ทั้งแผนการผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าที่เคยกำหนดว่า ก้อนแรกแจ้งเกิดไตรมาสแรก เป็นอันต้องเลื่อนออกไป ขณะที่โครงการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า เลื่อนออกไปเป็นช่วงปลายปี แต่อย่างไรก็ตาม โครงการที่ว่าเหล่านี้ เป็นเรื่องของโปรเจคในอนาคตที่ยังมองไปเห็นตัวเลขที่ชัดเจน

สำหรับเจ๊เมาธ์...โครงการที่ EA ทำอยู่แล้วในปัจจุบัน เช่น โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม เรือไฟฟ้าล่องแม่นํ้าเจ้าพระยา และโครงการรถเมล์ไฟฟ้า สร้างรายได้ให้กับบริษัทฯได้เป็นอย่างดีทั้งนั้น  ถ้าโครงการในอนาคตอาจต้องเลื่อนกำหนดเวลาออกไปบ้าง...แต่มันก็ไม่ได้กระทบฐานรายได้ปัจจุบันของ EA แต่อย่างใด เอาเป็นว่า นักวิเคราะห์จาก บล.หยวนต้า ให้ราคาเป้าหมายเอาไว้ที่ 69 บาท ได้ก็แล้วกันเจ้าค่ะ 
 

 >> ราคาหุ้นวิ่งกระฉูด...เมื่อ JKN ของ “แม่แอน-ข้ามเพศพันล้าน” หรือ นายจักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ จับมือ บริษัท สยาม เฮอเบล เทค จำกัด บริษัทลูกของ ดีโอดี ไบโอเทค (DOD) ซึ่งการจับมือดังกล่าว ภายใต้การเป็น Strategic Partner เพื่อร่วมพัฒนาสูตรผลิตผลิตภัณฑ์จากกัญชงร่วมกัน โดย “สยาม เฮอเบล เทค”  ได้รับใบอนุญาตนำเข้าเมล็ดพันธุ์กัญชงจากต่างประเทศ ทำให้ DOD เป็นบริษัทมหาชนเพียงรายเดียวในกลุ่มแรก ที่ได้รับใบอนุญาตนำเข้าเมล็ดพันธุ์ 

>> ขณะเดียวกัน JKN ประกาศทุ่มเงินเช่าเวลาช่อง NEW 18 เป็นเวลา 2 เดือน เพื่อนำคอนเทนต์ดาวเทียม JKN TV ทั้งข่าว สารคดี และซีรีส์ละครอินเดีย ออกอากาศตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งแม้จะไม่ใช่การซื้อช่องทีวีดังกล่าว แต่การเช่าเต็มเวลาถึง 2 เดือนของ JKN ก็น่าจะต่อยอดให้ธุรกิจของ JKN ได้ไม่น้อย และแม้ว่าจะมีดราม่า เรื่องการ “แม่แอน” โพสเฟสบุ๊ก หลายคนมองกันว่า จงใจเชียร์หุ้น JKN ออกนอกหน้าเกินไป แต่สุดท้ายเมื่อ “แม่แอน”  เคลียร์ข้อสงสัยของ ก.ล.ต. มันก็เลยทำให้ทุกอย่างจบ แบบ “แฮปปี้เอ็นดิ้ง” นั่นเองเจ้าค่ะ 

>>  ดูเอาเถอะ SIMAT ประกาศเพิ่มทุน 7:1:3 บาท แจกวอร์แรนต์ฟรีถ้วนหน้าให้กับผู้ถือหุ้นเดิม จะเพิ่มทุนตามหรือไม่ตาม ได้ฟรีๆ  4:1 ราคาใช้สิทธิ 1:1: 2 บาท ข่าวออกมาขนาดนี้ แต่หุ้นในกระดานไม่ตกใจ ราคาไม่ตกหนักอย่างที่กลัวๆ กัน เพราะอะไร สัดส่วน 7:1 ผลกระทบกับหุ้นในกระดานไม่มากนั่นเอง ถือไว้มีแต่ได้ ๆ ยิ่งถือยาวยิ่งได้ตังส์ ไม่ต้องเชื่อเจ๊เมาธ์ ก็ได้นะ แต่ให้เชื่อปัจจัยพื้นฐานและธุรกิจ “เพชรแท้” ย่อมเป็นเพชรแท้ วันยังคํ่าค่ะ 
 

 >>  มีคนถามเจ๊เมาธ์ มาหลังไมค์ว่า ทำไมราคาหุ้น  KWM ถึงแรงกว่าหุ้นตัวอื่นที่ประกาศว่า จะทำธุรกิจเกี่ยวกับ พืชกัญชา และ กัญชง...เรื่องมันเป็นแบบนี้ค่ะ คือเมื่อ KWM จับมือเป็นพันธมิตรกับ เอ็น. อี. แฮมพ์ (N.E. Hanp) ซึ่งเป็นบริษัทนำเข้าวัตถุดิบเมล็ดกัญชง และจับมือเป็นพันธมิตรกับ บริษัท โรงงานเภสัชอุตสาหกรรม เจเอสพี (ประเทศไทย)  หรือ JSP Pharma ซึ่งมีประสบการณ์ด้านการผลิตยาทั้งแผนปัจจุบันและยาแผนโบราณ  มีโรงงานได้มาตรฐาน  ทำให้ KWM สามารถทำธุรกิจเกี่ยวกับพืชกัญชาและกัญชงได้อย่างครบวงจร

เริ่มจากการมีเมล็ดพันธุ์เพื่อขายและทำการเพราะปลูก นี่สามารถเรียกได้ว่า “ธุรกิจต้นนํ้า” และการที่ KWM มีความเชี่ยวชาญด้านการผลิตเครื่องสกัดสารจากพืชกัญชาและหรือกัญชง ด้วยระบบที่ได้มาตรฐาน ซึ่งเมื่อมีความสามารถสกัดสารจากพืชออกมาจำหน่ายได้  เรียกได้ว่า นี่คือ “ธุรกิจกลางนํ้า” ในขณะที่ความสามารถด้านการผลิตยาทั้งแผนปัจจุบันและยาแผนโบราณ ของพันธมิตรอย่าง JSP Pharma ก็ถือได้ว่าเป็น “ธุรกิจปลายนํ้า” นั้นเอง

ดังนั้นเมื่อ KWM สามารถทำธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับพืชกัญชา และกัญชงได้อย่างครบวงจรแบบนี้ จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมราคาหุ้นของ KWM ถึงได้วิ่งแรงนั้นเองเจ้าค่ะ…เจ๊เมาธ์เชื่อว่า ไม่ใช่แค่นี้นะ ยังมีความร่วมมือพัฒนาเทคโนโลยีร่วมกับพันธมิตรต่างชาติ ไปจนถึงบริษัทผลิตยาชื่อดัง ที่ใครๆ ในตลาดหุ้นก็รู้จัก กำลังวิ่งมาหา KWM อีกด้วย โอ๊ย  !!!!! รวม ๆ แล้วหลายราย...อย่างนี้สิ เรียกว่าเนื้อหอมของจริง