Play
Role Model ที่ตอบโจทย์ลูกค้า กับความสุขบุคลากรสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน
ภาวะการแข่งขัน การเปลี่ยนผ่านจากเทคโนโลยีแบบเดิม ไปสู่โครงข่ายใยแก้วนำแสง และความต้องการใช้งานอินเทอร์เน็ตของผู้บริโภคที่มีจำนวนมหาศาล ทำให้กลุ่มผู้ให้บริการและผู้ประกอบการบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ตทุ่มงบลงทุนจำนวนมาก เพื่อพัฒนาโครงข่ายให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ดังนั้น ITEL ในฐานะผู้ให้บริการโครงข่ายใยแก้วนำแสงรายใหญ่ รวมถึงให้บริการออกแบบ ก่อสร้าง และรับเหมางานโครงการสายใยแก้วนำแสง โครงการสื่อสัญญาณโทรคมนาคม และธุรกิจให้บริการเช่าพื้นที่ดาต้าเซ็นเตอร์ นับเป็นการตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าได้อย่างครบวงจร และสามารถให้บริการลูกค้าได้ครอบคลุมทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย ได้รับประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีในครั้งนี้ เพราะหัวใจสำคัญของธุรกิจ คือเราต้องพร้อมอยู่เสมอ ทั้งหน้าบ้าน และหลังบ้าน เพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้า สร้างโอกาสการเติบโตอย่างไม่หยุดยั้ง
ITEL ถึงจะเป็นบริษัทน้องใหม่เริ่มเปิดให้บริการเพียง 4 ปี ในธุรกิจให้บริการโครงข่ายไฟเบอร์ออฟติกทั่วประเทศ มีประวัติผลงานทั้งการติดตั้งและการให้บริการวงจร Fiber Optic ให้กับองค์กรชั้นนำต่างๆ เช่น TOT, CAT, PEA และ MEA โดยนับตั้งแต่แรกก่อตั้ง ได้ยึดหลักการดำเนินธุรกิจ การเติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน พร้อมกับกำหนดเป้าหมายด้วยความมุ่งมั่นว่า ภายในปี 2560 เราจะก้าวขึ้นสู่การเป็นผู้ให้บริการโครงข่ายใหญ่ที่สุด มีเสถียรภาพมากที่สุด และบริการน่าประทับใจที่สุดในประเทศไทย
หลังผลงานในปี 2559 ที่ผ่านมา เป็นเครื่องพิสูจน์ได้เป็นอย่างดีว่า บริษัทสามารถสร้างการเติบโตสวนทางกับภาวะการเติบโตเศรษฐกิจของประเทศ แม้ว่า ITEL จะก่อตั้งได้เพียง 4 ปี แต่เรามีเรื่องราวที่ยาวนานจากบริษัทแม่อย่าง บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ILINK ซึ่งเป็นผู้นำด้านสายสัญญาณของประเทศ
จากรุ่นสู่รุ่น ทำให้กลุ่มธุรกิจเราแข็งแกร่ง และทราบดีว่า การให้ความสำคัญในการเติบโตอย่างยั่งยืนร่วมกันระหว่างลูกค้า พนักงานทุกคน รวมไปถึงผู้ถือหุ้น เป็นสิ่งสำคัญมาก ในการผลักดัน ITEL ให้เติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ ซึ่งพิสูจน์ด้วยการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ โดยใช้วลาเพียง 3 ปี มี Role Model ที่ใช้ในการตอบโจทย์ลูกค้าของ ITEL คือ 1.การให้บริการตอบโจทย์ความต้องการที่แท้จริงของลูกค้า 2.การสร้างประสบการณ์ที่ดีกว่าให้กับลูกค้าตั้งแต่ต้นจนถึงการดูแลหลังการขาย 3.operation จะต้องนำส่งบริการตั้งแต่ต้นจนจบไปถึงลูกค้าอย่างดีเยี่ยม ไม่มีข้อบกพร่อง
ITEL ในฐานะผู้ให้บริการโครงข่ายใยแก้วนำแสง (Fiber Optic Network) รายใหญ่ซึ่งสามารถให้บริการได้ครอบคลุมทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย จุดเด่นที่โครงข่ายของบริษัทฯ เป็นเคเบิ้ลใยแก้วนำแสงทั้งเส้นทาง ตั้งแต่โครงข่ายหลักจนถึงโครงข่ายย่อยที่ทำการเชื่อมต่อไปยังลูกค้าปลายทาง ทำให้สามารถรับ-ส่งข้อมูลได้ด้วยความเร็วสูง และมีเสถียรภาพในการใช้งานมากกว่าโครงข่ายประเภทอื่น ไม่ว่าจะเป็น โครงข่ายสายโทรศัพท์ หรือโครงข่ายสายทองแดง
นอกจากนี้ โครงข่ายของ ITEL ยังเป็นเส้นทางที่แตกต่าง และไม่ทับซ้อนกับโครงข่ายใยแก้วนำแสงที่มีอยู่เดิมของผู้ให้บริการรายอื่น ซึ่งส่วนใหญ่เป็นโครงข่ายตามเส้นทางเสาไฟฟ้าบนถนน โดยบริษัทฯ เลือกใช้เสาโทรเลขตามแนวรถไฟเป็นเส้นทางหลักในการวางโครงข่าย ทำให้ลูกค้าของเราสามารถใช้บริการที่เหนือกว่าได้อีกด้วย และให้บริการครอบคลุมแล้วทั้งสิ้น 75 จังหวัดทั่วประเทศ และยังสามารถให้บริการเชื่อมต่อกับโครงข่ายเคเบิ้ลใยแก้วนำแสงของประเทศเพื่อนบ้าน
นอกเหนือจากเส้นทางของโครงข่ายใยแก้วนำแสงที่ครอบคลุม สิ่งสำคัญคือความพร้อมเพื่อรองรับการบริการที่รวดเร็ว ทั้งการติดตั้ง รวมถึงซ่อมบำรุง ต้องมีอุปกรณ์ที่พร้อมใช้งานหรือต้องมีพร้อมให้บริการในสถานที่ที่ลูกค้าต้องการมากที่สุด เพื่อเชื่อมต่อหรือส่งผ่านข้อมูลต่างๆ ไปยังผู้ใช้บริการได้สะดวก และรวดเร็ว หรือที่เรียกว่า “Multiple Gateway Connectivity” กล่าวคือ การให้ลูกค้าหรือ ผู้ใช้บริการสามารถรับการบริการที่รวดเร็วและตอบสนองความต้องการได้อย่างมีประสิทธิภาพ
[caption id="attachment_144424" align="aligncenter" width="503"]
Role Model ที่ตอบโจทย์ลูกค้า กับความสุขบุคลากรสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน[/caption]
แม้เทคโนโลยีจะเปลี่ยนแปลงรวดเร็วอย่างไร สิ่งที่ ITEL มุ่งเน้นรวมถึงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง คือ การขยายโครงข่ายที่พร้อมใช้งานอยู่แล้ว ให้สามารถรองรับการบริการในทุกๆ รูปแบบของการบริการ ทั้งการขยายโครงข่ายหรืออุปกรณ์ของโครงข่ายให้ใกล้กับผู้ใช้บริการมากที่สุด “Connectivity” นั้น ต้องเล็งเห็นถึงคุณภาพและสะท้อนถึงการบริการทั้งเส้นทางของโครงข่ายใยแก้วนำแสงที่มากกว่าสองเส้นทาง รวมถึงอุปกรณ์ในการให้บริการ โดยคำนึงถึงการให้บริการหลังการขายเป็นสำคัญควบคู่ไปด้วย
สำหรับการเป็นเจ้าของโครงข่ายใยแก้วนำแสงทั่วประเทศนั้น สามารถต่อยอดไปยังผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (Internet Service Provider or ISP) ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วจะไม่มีโครงข่ายเป็นของตัวเอง และเลือกใช้บริการของ ITEL ในแง่ของโครงข่ายที่รองรับการให้บริการอินเทอร์เน็ตระดับองค์กรไปยังลูกค้าปลายทาง บริการอื่นๆ ที่สามารถประกอบออกมาเป็นโซลูชั่นต่างๆ ได้ เช่น Private Cloud หรือ Hosting ต่างๆ ที่ผ่านโครงข่ายส่วนตัว เป็นต้น ที่พยายามจะทำให้ทุกอย่างในการบริการ “Multiple Gateway Connectivity” ที่ไม่มีข้อจำกัดนั้น จะเป็นประโยชน์กับผู้ใช้บริการได้โดยตรง โดยการพัฒนาเพื่อให้เกิดประโยชน์ สามารถใช้งานได้จริง ตามที่ได้ให้ความมั่นใจไว้กับลูกค้าในกลุ่มของการให้บริการระดับองค์กร
“เทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ แน่นอนว่า ITEL เราต้องก้าวให้ทันเทคโนโลยี เพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้า ขณะเดียวกัน บุคลากรเป็นหัวใจสำคัญในการเดินหน้าธุรกิจ ภายในบริษัทเองจึงเน้นเรื่องของการพัฒนาศักยภาพ รวมทั้งความสุขในการทำงานของพนักงานทุกคน เพราะเมื่อพนักงานทำงานอย่างมีความสุข จะสามารถส่งผ่านความสุขนั้นไปถึงมือลูกค้าผู้รับบริการจาก ITEL ได้เช่นกัน เพราะเราเชื่อว่าการเติบโตอย่างยั่งยืน คือ การที่บุคลากรสามารถทำงานตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าและด้วยรางวัลการันตีจากเวที Asia Corporate Excellence & Sustainability Awards (ACES) 2016 ณ ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งเป็นปีที่ 2 ติดต่อกันที่ได้รางวัลนี้ มอบให้องค์กรที่ดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคมสอดรับกับนโยบายและการปฏิบัติงานของบริษัท นับเป็นการเติบโตอย่างยั่งยืน”
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,257
วันที่ 30 เมษายน - 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2560
ITEL ถึงจะเป็นบริษัทน้องใหม่เริ่มเปิดให้บริการเพียง 4 ปี ในธุรกิจให้บริการโครงข่ายไฟเบอร์ออฟติกทั่วประเทศ มีประวัติผลงานทั้งการติดตั้งและการให้บริการวงจร Fiber Optic ให้กับองค์กรชั้นนำต่างๆ เช่น TOT, CAT, PEA และ MEA โดยนับตั้งแต่แรกก่อตั้ง ได้ยึดหลักการดำเนินธุรกิจ การเติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน พร้อมกับกำหนดเป้าหมายด้วยความมุ่งมั่นว่า ภายในปี 2560 เราจะก้าวขึ้นสู่การเป็นผู้ให้บริการโครงข่ายใหญ่ที่สุด มีเสถียรภาพมากที่สุด และบริการน่าประทับใจที่สุดในประเทศไทย
หลังผลงานในปี 2559 ที่ผ่านมา เป็นเครื่องพิสูจน์ได้เป็นอย่างดีว่า บริษัทสามารถสร้างการเติบโตสวนทางกับภาวะการเติบโตเศรษฐกิจของประเทศ แม้ว่า ITEL จะก่อตั้งได้เพียง 4 ปี แต่เรามีเรื่องราวที่ยาวนานจากบริษัทแม่อย่าง บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ILINK ซึ่งเป็นผู้นำด้านสายสัญญาณของประเทศ
จากรุ่นสู่รุ่น ทำให้กลุ่มธุรกิจเราแข็งแกร่ง และทราบดีว่า การให้ความสำคัญในการเติบโตอย่างยั่งยืนร่วมกันระหว่างลูกค้า พนักงานทุกคน รวมไปถึงผู้ถือหุ้น เป็นสิ่งสำคัญมาก ในการผลักดัน ITEL ให้เติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ ซึ่งพิสูจน์ด้วยการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ โดยใช้วลาเพียง 3 ปี มี Role Model ที่ใช้ในการตอบโจทย์ลูกค้าของ ITEL คือ 1.การให้บริการตอบโจทย์ความต้องการที่แท้จริงของลูกค้า 2.การสร้างประสบการณ์ที่ดีกว่าให้กับลูกค้าตั้งแต่ต้นจนถึงการดูแลหลังการขาย 3.operation จะต้องนำส่งบริการตั้งแต่ต้นจนจบไปถึงลูกค้าอย่างดีเยี่ยม ไม่มีข้อบกพร่อง
ITEL ในฐานะผู้ให้บริการโครงข่ายใยแก้วนำแสง (Fiber Optic Network) รายใหญ่ซึ่งสามารถให้บริการได้ครอบคลุมทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย จุดเด่นที่โครงข่ายของบริษัทฯ เป็นเคเบิ้ลใยแก้วนำแสงทั้งเส้นทาง ตั้งแต่โครงข่ายหลักจนถึงโครงข่ายย่อยที่ทำการเชื่อมต่อไปยังลูกค้าปลายทาง ทำให้สามารถรับ-ส่งข้อมูลได้ด้วยความเร็วสูง และมีเสถียรภาพในการใช้งานมากกว่าโครงข่ายประเภทอื่น ไม่ว่าจะเป็น โครงข่ายสายโทรศัพท์ หรือโครงข่ายสายทองแดง
นอกจากนี้ โครงข่ายของ ITEL ยังเป็นเส้นทางที่แตกต่าง และไม่ทับซ้อนกับโครงข่ายใยแก้วนำแสงที่มีอยู่เดิมของผู้ให้บริการรายอื่น ซึ่งส่วนใหญ่เป็นโครงข่ายตามเส้นทางเสาไฟฟ้าบนถนน โดยบริษัทฯ เลือกใช้เสาโทรเลขตามแนวรถไฟเป็นเส้นทางหลักในการวางโครงข่าย ทำให้ลูกค้าของเราสามารถใช้บริการที่เหนือกว่าได้อีกด้วย และให้บริการครอบคลุมแล้วทั้งสิ้น 75 จังหวัดทั่วประเทศ และยังสามารถให้บริการเชื่อมต่อกับโครงข่ายเคเบิ้ลใยแก้วนำแสงของประเทศเพื่อนบ้าน
นอกเหนือจากเส้นทางของโครงข่ายใยแก้วนำแสงที่ครอบคลุม สิ่งสำคัญคือความพร้อมเพื่อรองรับการบริการที่รวดเร็ว ทั้งการติดตั้ง รวมถึงซ่อมบำรุง ต้องมีอุปกรณ์ที่พร้อมใช้งานหรือต้องมีพร้อมให้บริการในสถานที่ที่ลูกค้าต้องการมากที่สุด เพื่อเชื่อมต่อหรือส่งผ่านข้อมูลต่างๆ ไปยังผู้ใช้บริการได้สะดวก และรวดเร็ว หรือที่เรียกว่า “Multiple Gateway Connectivity” กล่าวคือ การให้ลูกค้าหรือ ผู้ใช้บริการสามารถรับการบริการที่รวดเร็วและตอบสนองความต้องการได้อย่างมีประสิทธิภาพ
[caption id="attachment_144424" align="aligncenter" width="503"]
แม้เทคโนโลยีจะเปลี่ยนแปลงรวดเร็วอย่างไร สิ่งที่ ITEL มุ่งเน้นรวมถึงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง คือ การขยายโครงข่ายที่พร้อมใช้งานอยู่แล้ว ให้สามารถรองรับการบริการในทุกๆ รูปแบบของการบริการ ทั้งการขยายโครงข่ายหรืออุปกรณ์ของโครงข่ายให้ใกล้กับผู้ใช้บริการมากที่สุด “Connectivity” นั้น ต้องเล็งเห็นถึงคุณภาพและสะท้อนถึงการบริการทั้งเส้นทางของโครงข่ายใยแก้วนำแสงที่มากกว่าสองเส้นทาง รวมถึงอุปกรณ์ในการให้บริการ โดยคำนึงถึงการให้บริการหลังการขายเป็นสำคัญควบคู่ไปด้วย
สำหรับการเป็นเจ้าของโครงข่ายใยแก้วนำแสงทั่วประเทศนั้น สามารถต่อยอดไปยังผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (Internet Service Provider or ISP) ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วจะไม่มีโครงข่ายเป็นของตัวเอง และเลือกใช้บริการของ ITEL ในแง่ของโครงข่ายที่รองรับการให้บริการอินเทอร์เน็ตระดับองค์กรไปยังลูกค้าปลายทาง บริการอื่นๆ ที่สามารถประกอบออกมาเป็นโซลูชั่นต่างๆ ได้ เช่น Private Cloud หรือ Hosting ต่างๆ ที่ผ่านโครงข่ายส่วนตัว เป็นต้น ที่พยายามจะทำให้ทุกอย่างในการบริการ “Multiple Gateway Connectivity” ที่ไม่มีข้อจำกัดนั้น จะเป็นประโยชน์กับผู้ใช้บริการได้โดยตรง โดยการพัฒนาเพื่อให้เกิดประโยชน์ สามารถใช้งานได้จริง ตามที่ได้ให้ความมั่นใจไว้กับลูกค้าในกลุ่มของการให้บริการระดับองค์กร
“เทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ แน่นอนว่า ITEL เราต้องก้าวให้ทันเทคโนโลยี เพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้า ขณะเดียวกัน บุคลากรเป็นหัวใจสำคัญในการเดินหน้าธุรกิจ ภายในบริษัทเองจึงเน้นเรื่องของการพัฒนาศักยภาพ รวมทั้งความสุขในการทำงานของพนักงานทุกคน เพราะเมื่อพนักงานทำงานอย่างมีความสุข จะสามารถส่งผ่านความสุขนั้นไปถึงมือลูกค้าผู้รับบริการจาก ITEL ได้เช่นกัน เพราะเราเชื่อว่าการเติบโตอย่างยั่งยืน คือ การที่บุคลากรสามารถทำงานตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าและด้วยรางวัลการันตีจากเวที Asia Corporate Excellence & Sustainability Awards (ACES) 2016 ณ ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งเป็นปีที่ 2 ติดต่อกันที่ได้รางวัลนี้ มอบให้องค์กรที่ดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคมสอดรับกับนโยบายและการปฏิบัติงานของบริษัท นับเป็นการเติบโตอย่างยั่งยืน”
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,257
วันที่ 30 เมษายน - 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2560