Play
ยกระดับเทคโนโลยี สร้างสตาร์ทอัพ กลยุทธ์ผลักดัน MFEC สู่ความยั่งยืน
ต้องยอมรับว่าเรื่องของไอทีและเทคโนโลยีสารสนเทศ เข้ามามีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศชาติ และสนับสนุนภาคธุรกิจให้มีการเติบโตอย่างโดดเด่นชัดเจน ไม่ว่าจะเป็น ระบบเศรษฐกิจ การผลิต การอุปโภคบริโภค การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ การสาธารณสุข การเงินการลงทุน รวมถึงภาคอุตสาหกรรมต่างๆ ทั่วโลก ล้วนมีความต้องการและลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและเพิ่มข้อได้เปรียบในการแข่งขัน
ดังนั้น จึงเป็นโอกาสของ “บมจ. เอ็ม เอฟ อี ซี หรือ MFEC” บริษัทไอที ที่ก้าวมาเป็นกลุ่มผู้ประกอบธุรกิจไอทีชั้นนำของประเทศไทยในนาม MFEC GROUP ให้บริการที่ปรึกษาและพัฒนาระบบเครือข่ายงานสารสนเทศที่มีการเติบโตรวดเร็วมากที่สุดในประเทศ ให้บริการกลุ่มลูกค้าทั้งภาครัฐบาลและเอกชน ครอบคลุมตั้งแต่ให้คำปรึกษา พัฒนา วางระบบคอมพิวเตอร์ เครื่อข่ายสารสนเทศ แอพพลิเคชั่นทางธุรกิจ และบริหารองค์กร
โดยมีศูนย์วิจัยและพัฒนาโซลูชั่นต่างๆ จากประสบการณ์ในกลุ่มอุตสาหกรรมที่หลากหลาย ทำให้เราก้าวสู่การเป็นผู้นำอุตสาหกรรมบริการด้านระบบเทคโนโลยีสารสนเทศของไทย ด้วยมาตรฐานการให้บริการที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก และวันนี้การเปลี่ยนแปลงของโลกเทคโนโลยีในปัจจุบัน ทำให้เราต้องหันมาปรับกลยุทธ์ไปเช่นกัน และไม่ลืมที่จะมองหาการเติบโตจากโอกาสใหม่ๆ ที่รออยู่อีกเป็นจำนวนมาก
เวลาเราถนัดหรือเชี่ยวชาญอะไร เราจะทำในสิ่งเดิมๆ ที่เราคุ้นเคย แต่นวัตกรรมใหม่จะเกิดขึ้น ก็ต่อเมื่อเราก้าวเข้าไปทำในสิ่งที่ไม่รู้ เพื่อต่อยอดความรู้เดิม หากนับย้อนไปตั้งแต่เริ่มต้น MFEC ทำธุรกิจด้วยการใช้ทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญในเทคโนโลยีต่างๆ ผนวกกับสินค้าของพาร์ทเนอร์ไปตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า
แต่ด้วยปัจจุบันการมาของเทคโนโลยี Cloud Computing ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับฮาร์ดแวร์จะค่อยๆ ลดลงจนกระทั่งเหลือแต่ Application layer แม้จะดูเหมือนเป็นภาวะคุกคามสำหรับธุรกิจไอที แต่ MFEC ก็ปรับตัวอย่างรวดเร็วโดยการคลุกคลีและเข้าใจโจทย์ทางธุรกิจของลูกค้า แล้วใช้ความเชี่ยวชาญทางเทคโนโลยีไปตั้งโจทย์ใหม่ แก้ปัญหา หรือปรับโมเดลทางธุรกิจให้กับลูกค้าที่กำลังถูกความเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีคุกคามอยู่เช่นกัน
[caption id="attachment_141122" align="aligncenter" width="503"]
ยกระดับเทคโนโลยี สร้างสตาร์ทอัพ กลยุทธ์ผลักดันMFECสู่ความยั่งยืน[/caption]
สำหรับในปี 2560 ทิศทางการเติบโตของอุตสาหกรรมไอที โดยเฉพาะนโยบายประเทศไทย 4.0 (Thailand 4.0) ของภาครัฐที่สนับสนุนอุตสาหกรรมไอทีอย่างชัดเจน รวมถึงธุรกิจ Startup จึงเชื่อว่าจะมีงานใหม่ไหลเข้าสู่ตลาดอีกเป็นจำนวนมาก จึงเป็นโอกาสที่ MFEC จะปฏิรูปวิธีการบริหารจัดการภายในองค์กรเพื่อรองรับกับโอกาสทางธุรกิจที่เกิดขึ้น พร้อมผลักดันองค์กรให้มีรายได้และกําไรเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว
โดยทำให้องค์กรเป็นเครือข่ายเชื่อมโยง เพื่อที่จะด้วยกลยุทธ์ที่เรากำลังทำมี 2 มิติ คือ 1.ใช้เทคโนโลยียกระดับหรือพัฒนาธุรกิจที่เปลี่ยนไป และ 2.สร้างกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่เต็มไปด้วยพลังแห่งความคิดสร้างสรรค์และมีศักยภาพ แลกเปลี่ยนและพัฒนาทักษะร่วมกันจนประสบความสำเร็จ โมเดลการทำธุรกิจแบบนี้ทำให้ภาพในอดีตที่ทุกคนเป็นเสมือนลูกจ้างเปลี่ยนไป นับจากนี้พวกเขาจะรู้สึกว่าตัวเองเป็น Startup ที่กำลังคิดค้นพัฒนาสิ่งใหม่ ซึ่งสนุกสนานและเปิดศักยภาพมากกว่าเดิม
โอกาสอันสำคัญจากสภาพทางการเงินที่บริษัทมีเงินสดล้นมือ และสัญญาณที่ควรเริ่มลงทุน บริษัทจึงมีนโยบายเป็น Corporate Venture Capital (CVC) ให้กับพนักงานที่พร้อมจะแตกตัวออกไปเป็นบริษัท Startup ซึ่งมีความเสี่ยงน้อยกว่าการลงทุนในบริษัท Startup ทั่วไป อีกทั้งเป็นการกระตุ้นให้พนักงานมีความคิดสร้างสรรค์ ร่วมรับผิดชอบกับความเติบโตและยั่งยืนของบริษัท และยังเป็นโอกาสความก้าวหน้าในสายอาชีพของพนักงานอีกด้วย
[caption id="attachment_141124" align="aligncenter" width="369"]
ศิริวัฒน์ วงศ์จารุกร[/caption]
จึงเป็นที่มีของการลงทุนในธุรกิจโครงการใหม่ร่วมกับพนักงาน ในช่วงปลายปี 2559 บอร์ดบริษัทฯ อนุมัติจัดตั้งบริษัท Playtorium Solutions จำกัด ดำเนินธุรกิจหลักในการให้บริการทดสอบซอฟต์แวร์แบบครบวงจร และ “Crowd Testing” พร้อมทั้งให้บริการจัดหาบุคลากรที่เชี่ยวชาญด้านไอที ต่างๆ เพื่อทำงานในโครงการตามที่ลูกค้าต้องการ โดย MFEC จะเข้าถือหุ้นสัดส่วน 70% ของทุนจดทะเบียน 5 ล้านบาท เพื่อขยายฐานธุรกิจให้กว้างขึ้น เสริมสร้างความเป็นผู้นำในธุรกิจเทคโนโลยีสารสนเทศให้แข็งแกร่ง และมีศักยภาพในการแข่งขันในตลาดยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ ยังได้ความร่วมมือกับยอดฝีมือแห่งวงการเพลงรักเมืองไทย คุณบอย ชีวิน โกสิยพงษ์ ผู้บริหารค่ายเพลงเลิฟอีส (LOVEiS) สร้างแอพพลิเคชั่น “Fanster” ให้ผู้ที่ชื่นชอบศิลปินในค่าย LOVEiS ได้ติดตามความเคลื่อนไหวของศิลปินที่ชื่นชอบ รวมทั้ง ร่วมมือกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คณะวิศวกรรมศาสตร์ ภาควิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์และโครงการ Industrial Liaison Program หรีอ ILP ถือเป็นการรวมความแข็งแกร่งของ 2 หน่วยงาน เพื่อพัฒนาและวิจัยงานด้าน Data Science และ Big Data ตลอดจนตั้งเป้าผลิตบุคลากร “นักวิทยาศาสตร์ข้อมูล หรือ Data Scientist” ซึ่งถือเป็นส่วนสำคัญที่จะแทรกเข้าไปในหลายมิติของการพัฒนาเศรษฐกิจในอนาคต
ทั้งหมดนี้ นับเป็นก้าวที่สำคัญของ MFEC GROUP ในการขานรับนโยบายประเทศไทย 4.0 และการปรับเปลี่ยนของวงการไอที และ Startup การปรับกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจของ MFEC ซึ่งโมเดลเดิมนั้นจะเป็นวันแมนโชว์ เป็นผู้ขายเทคโนโลยีเพื่อให้ลูกค้านำไปแก้ปัญหาของตัวเอง แต่กลยุทธ์ใหม่ตอนนี้คือทำอย่างไรให้พนักงานกลุ่มคนรุ่นใหม่ประสบความสำเร็จ เหมือนกับที่เรา success เติบโตไปด้วยกัน
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,253 วันที่ 16 - 19 เมษายน พ.ศ. 2560
ดังนั้น จึงเป็นโอกาสของ “บมจ. เอ็ม เอฟ อี ซี หรือ MFEC” บริษัทไอที ที่ก้าวมาเป็นกลุ่มผู้ประกอบธุรกิจไอทีชั้นนำของประเทศไทยในนาม MFEC GROUP ให้บริการที่ปรึกษาและพัฒนาระบบเครือข่ายงานสารสนเทศที่มีการเติบโตรวดเร็วมากที่สุดในประเทศ ให้บริการกลุ่มลูกค้าทั้งภาครัฐบาลและเอกชน ครอบคลุมตั้งแต่ให้คำปรึกษา พัฒนา วางระบบคอมพิวเตอร์ เครื่อข่ายสารสนเทศ แอพพลิเคชั่นทางธุรกิจ และบริหารองค์กร
โดยมีศูนย์วิจัยและพัฒนาโซลูชั่นต่างๆ จากประสบการณ์ในกลุ่มอุตสาหกรรมที่หลากหลาย ทำให้เราก้าวสู่การเป็นผู้นำอุตสาหกรรมบริการด้านระบบเทคโนโลยีสารสนเทศของไทย ด้วยมาตรฐานการให้บริการที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก และวันนี้การเปลี่ยนแปลงของโลกเทคโนโลยีในปัจจุบัน ทำให้เราต้องหันมาปรับกลยุทธ์ไปเช่นกัน และไม่ลืมที่จะมองหาการเติบโตจากโอกาสใหม่ๆ ที่รออยู่อีกเป็นจำนวนมาก
เวลาเราถนัดหรือเชี่ยวชาญอะไร เราจะทำในสิ่งเดิมๆ ที่เราคุ้นเคย แต่นวัตกรรมใหม่จะเกิดขึ้น ก็ต่อเมื่อเราก้าวเข้าไปทำในสิ่งที่ไม่รู้ เพื่อต่อยอดความรู้เดิม หากนับย้อนไปตั้งแต่เริ่มต้น MFEC ทำธุรกิจด้วยการใช้ทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญในเทคโนโลยีต่างๆ ผนวกกับสินค้าของพาร์ทเนอร์ไปตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า
แต่ด้วยปัจจุบันการมาของเทคโนโลยี Cloud Computing ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับฮาร์ดแวร์จะค่อยๆ ลดลงจนกระทั่งเหลือแต่ Application layer แม้จะดูเหมือนเป็นภาวะคุกคามสำหรับธุรกิจไอที แต่ MFEC ก็ปรับตัวอย่างรวดเร็วโดยการคลุกคลีและเข้าใจโจทย์ทางธุรกิจของลูกค้า แล้วใช้ความเชี่ยวชาญทางเทคโนโลยีไปตั้งโจทย์ใหม่ แก้ปัญหา หรือปรับโมเดลทางธุรกิจให้กับลูกค้าที่กำลังถูกความเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีคุกคามอยู่เช่นกัน
[caption id="attachment_141122" align="aligncenter" width="503"]
สำหรับในปี 2560 ทิศทางการเติบโตของอุตสาหกรรมไอที โดยเฉพาะนโยบายประเทศไทย 4.0 (Thailand 4.0) ของภาครัฐที่สนับสนุนอุตสาหกรรมไอทีอย่างชัดเจน รวมถึงธุรกิจ Startup จึงเชื่อว่าจะมีงานใหม่ไหลเข้าสู่ตลาดอีกเป็นจำนวนมาก จึงเป็นโอกาสที่ MFEC จะปฏิรูปวิธีการบริหารจัดการภายในองค์กรเพื่อรองรับกับโอกาสทางธุรกิจที่เกิดขึ้น พร้อมผลักดันองค์กรให้มีรายได้และกําไรเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว
โดยทำให้องค์กรเป็นเครือข่ายเชื่อมโยง เพื่อที่จะด้วยกลยุทธ์ที่เรากำลังทำมี 2 มิติ คือ 1.ใช้เทคโนโลยียกระดับหรือพัฒนาธุรกิจที่เปลี่ยนไป และ 2.สร้างกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่เต็มไปด้วยพลังแห่งความคิดสร้างสรรค์และมีศักยภาพ แลกเปลี่ยนและพัฒนาทักษะร่วมกันจนประสบความสำเร็จ โมเดลการทำธุรกิจแบบนี้ทำให้ภาพในอดีตที่ทุกคนเป็นเสมือนลูกจ้างเปลี่ยนไป นับจากนี้พวกเขาจะรู้สึกว่าตัวเองเป็น Startup ที่กำลังคิดค้นพัฒนาสิ่งใหม่ ซึ่งสนุกสนานและเปิดศักยภาพมากกว่าเดิม
โอกาสอันสำคัญจากสภาพทางการเงินที่บริษัทมีเงินสดล้นมือ และสัญญาณที่ควรเริ่มลงทุน บริษัทจึงมีนโยบายเป็น Corporate Venture Capital (CVC) ให้กับพนักงานที่พร้อมจะแตกตัวออกไปเป็นบริษัท Startup ซึ่งมีความเสี่ยงน้อยกว่าการลงทุนในบริษัท Startup ทั่วไป อีกทั้งเป็นการกระตุ้นให้พนักงานมีความคิดสร้างสรรค์ ร่วมรับผิดชอบกับความเติบโตและยั่งยืนของบริษัท และยังเป็นโอกาสความก้าวหน้าในสายอาชีพของพนักงานอีกด้วย
[caption id="attachment_141124" align="aligncenter" width="369"]
จึงเป็นที่มีของการลงทุนในธุรกิจโครงการใหม่ร่วมกับพนักงาน ในช่วงปลายปี 2559 บอร์ดบริษัทฯ อนุมัติจัดตั้งบริษัท Playtorium Solutions จำกัด ดำเนินธุรกิจหลักในการให้บริการทดสอบซอฟต์แวร์แบบครบวงจร และ “Crowd Testing” พร้อมทั้งให้บริการจัดหาบุคลากรที่เชี่ยวชาญด้านไอที ต่างๆ เพื่อทำงานในโครงการตามที่ลูกค้าต้องการ โดย MFEC จะเข้าถือหุ้นสัดส่วน 70% ของทุนจดทะเบียน 5 ล้านบาท เพื่อขยายฐานธุรกิจให้กว้างขึ้น เสริมสร้างความเป็นผู้นำในธุรกิจเทคโนโลยีสารสนเทศให้แข็งแกร่ง และมีศักยภาพในการแข่งขันในตลาดยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ ยังได้ความร่วมมือกับยอดฝีมือแห่งวงการเพลงรักเมืองไทย คุณบอย ชีวิน โกสิยพงษ์ ผู้บริหารค่ายเพลงเลิฟอีส (LOVEiS) สร้างแอพพลิเคชั่น “Fanster” ให้ผู้ที่ชื่นชอบศิลปินในค่าย LOVEiS ได้ติดตามความเคลื่อนไหวของศิลปินที่ชื่นชอบ รวมทั้ง ร่วมมือกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คณะวิศวกรรมศาสตร์ ภาควิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์และโครงการ Industrial Liaison Program หรีอ ILP ถือเป็นการรวมความแข็งแกร่งของ 2 หน่วยงาน เพื่อพัฒนาและวิจัยงานด้าน Data Science และ Big Data ตลอดจนตั้งเป้าผลิตบุคลากร “นักวิทยาศาสตร์ข้อมูล หรือ Data Scientist” ซึ่งถือเป็นส่วนสำคัญที่จะแทรกเข้าไปในหลายมิติของการพัฒนาเศรษฐกิจในอนาคต
ทั้งหมดนี้ นับเป็นก้าวที่สำคัญของ MFEC GROUP ในการขานรับนโยบายประเทศไทย 4.0 และการปรับเปลี่ยนของวงการไอที และ Startup การปรับกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจของ MFEC ซึ่งโมเดลเดิมนั้นจะเป็นวันแมนโชว์ เป็นผู้ขายเทคโนโลยีเพื่อให้ลูกค้านำไปแก้ปัญหาของตัวเอง แต่กลยุทธ์ใหม่ตอนนี้คือทำอย่างไรให้พนักงานกลุ่มคนรุ่นใหม่ประสบความสำเร็จ เหมือนกับที่เรา success เติบโตไปด้วยกัน
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,253 วันที่ 16 - 19 เมษายน พ.ศ. 2560