‘ธีรพงศ์’ เปิดเกมรุกไทยยูเนี่ยน ปรับตัวเร็ว–ลดซ้ำซ้อน–เพิ่มคล่องตัว รับมือศึกค้าโลก 2026

06 ธ.ค. 2568 | 22:50 น.

ไทยยูเนี่ยนคว้ารางวัล Global Expansion Award เวที “Go Thailand 2026 : Beyond Survival” สะท้อนพลังผู้นำไทยยุคใหม่ จากความโดดเด่นด้านการขยายธุรกิจสู่สากล พร้อมวิสัยทัศน์ Marine Health & Nutrition

KEY

POINTS

  • ธีรพงศ์ จันศิริ ซีอีโอไทยยูเนี่ยน ประกาศกลยุทธ์เชิงรุกเพื่อรับมือความท้าทายและความผันผวนของเศรษฐกิจโลก
  • ชู 3 แนวทางหลักในการปรับองค์กร ได้แก่ การปรับตัวอย่างรวดเร็ว (Resilience) การลดความซ้ำซ้อน (Simpler) และการเพิ่มความคล่องตัว (Leaner & Faster)
  • มีเป้าหมายเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้องค์กรสามารถแข่งขันและเติบโตอย่างยั่งยืนในเวทีการค้าโลกภายในปี 2569

"ไทยยูเนี่ยน" คว้ารางวัล Global Expansion Award เวที “Go Thailand 2026 : Beyond Survival” สะท้อนพลังผู้นำไทยยุคใหม่ จากความโดดเด่นด้านการขยายธุรกิจสู่สากล พร้อมวิสัยทัศน์ Marine Health & Nutrition

ท่ามกลางช่วงเปลี่ยนผ่านสำคัญของประเทศไทย ทั้งบริบทการเมือง เศรษฐกิจ และการแข่งขันระดับโลก เวที “Go Thailand 2026 : Beyond Survival” จัดโดยฐานเศรษฐกิจ จึงเปรียบเสมือนจุดรวมพลังความหวังใหม่ของสังคมไทย เพื่อนำความท้าทายมาสร้างเป็นโอกาสในการขับเคลื่อนประเทศสู่ยุคถัดไป งานดังกล่าวจัดขึ้นเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2568 ณ สยามพารากอน โดยมีผู้นำภาครัฐและเอกชนเข้าร่วมอย่างคับคั่ง พร้อมร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีมอบรางวัล “The Leadership Award 2025” ซึ่งมอบให้แก่ผู้นำที่มีความโดดเด่นจาก 10 สาขา

หนึ่งในรางวัลสำคัญของปีนี้คือ Global Expansion Award ที่ตกเป็นของ “ธีรพงศ์ จันศิริ” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ผู้นำที่ผลักดันองค์กรอาหารทะเลของไทยให้อยู่ในระดับแถวหน้าของโลกมาอย่างต่อเนื่อง โดยในวันงาน มีนายชู ชง ชาน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านกิจการกลุ่มบริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ขึ้นรับรางวัลแทน

ธีรพงศ์ จันศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)

“ธีรพงศ์” ให้มุมมองกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า เคล็ดลับความสำเร็จของไทยยูเนี่ยน คือการมองหาจุดแข็งขององค์กรให้เจอ พร้อมสร้าง Growth Mindset ให้พนักงานคิดเสมอว่าต้องทำได้ดีกว่าเดิม พร้อมกล้าที่จะล้มเหลว เพราะโลกยุคนี้คือความไม่แน่นอน การเปลี่ยนแปลงรุนแรงและรวดเร็ว “Change is Normal” จึงจำเป็นที่ทุกคนต้องไม่หยุดเรียนรู้และพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง

มุ่งการเติบโตอย่างยั่งยืน

นอกจากการบริหารต้นทุนที่เข้มแข็งแล้ว ไทยยูเนี่ยนยังเดินหน้าตามวิสัยทัศน์การเป็นผู้นำระดับโลกด้าน Marine Health & Nutrition ผ่านการสร้างผลิตภัณฑ์นวัตกรรมใหม่ การผลักดันมาตรฐานด้านความยั่งยืน และการพัฒนาบุคลากรด้านเทคโนโลยีเพื่อรองรับโลกธุรกิจยุคใหม่ โดยองค์กรเชื่อว่าการเติบโตจากนี้ต้องเป็น “การเติบโตที่ยั่งยืนจริง” ไม่ใช่เพียงการขยายเชิงปริมาณ

แม้ในด้านภาพรวมเศรษฐกิจโลกปี 2569 “ธีรพงศ์” จะประเมินว่ายังคงเต็มไปด้วยความท้าทาย ทั้งผลพวงจากความตึงเครียดทางการค้าระหว่างประเทศมหาอำนาจ และการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน รวมถึงปัจจัยภายในประเทศ จากภาระหนี้สินของครัวเรือนไทยที่ยังสูง ขณะที่นโยบายการเงินยังตึงตัว แต่ยังมีสัญญาณเชิงบวกจากภาคท่องเที่ยวและการบริโภคภายในประเทศที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง ซึ่งน่าจะช่วยประคองเศรษฐกิจไทยในภาพรวม

‘ธีรพงศ์’ เปิดเกมรุกไทยยูเนี่ยน ปรับตัวเร็ว–ลดซ้ำซ้อน–เพิ่มคล่องตัว รับมือศึกค้าโลก 2026

3 กลยุทธ์หลักรับมือความผันผวน

ไทยยูเนี่ยนฯ ยังเดินหน้ากลยุทธ์ในการรับมือความผันผวน โดยยึด 3 แนวทางสำคัญ ได้แก่

Resilience : การปรับตัวอย่างทันการณ์

Simpler : การลดความซ้ำซ้อนของการทำงาน

Leaner & Faster : เพิ่มความคล่องตัว และตัดสินใจเร็วขึ้น เพื่อให้สามารถยืนหยัดได้ท่ามกลางความผันผวนจากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก

สะท้อนความสำเร็จได้จากผลประกอบการในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้บริษัทมียอดขายรวมอยู่ที่ 34,501 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 1,304 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า สะท้อนความสามารถในการทำกำไรต่อเนื่อง แม้ในภาวะเศรษฐกิจโลกยังคงมีความท้าทาย โดยได้รับแรงหนุนจากกลุ่มธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง และกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารทะเลแช่แข็ง ส่งผลให้ไทยยูเนี่ยนฯยังมีกระแสเงินสดที่แข็งแกร่งต่อเนื่องที่ 4,127 ล้านบาทในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2568

“ผลประกอบการในไตรมาส 3 แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและความสามารถในการปรับตัวของไทยยูเนี่ยน ท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน สะท้อนว่าเรากำลังดำเนินกลยุทธ์ไปในทิศทางที่ถูกต้อง ทั้งในด้านการเพิ่มความคล่องตัวของการดำเนินงาน การเสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจหลัก และการต่อยอดศักยภาพการแข่งขันของแบรนด์ในพอร์ตทั้งหมดของบริษัท” ธีรพงศ์ กล่าว

รั้งเบอร์ 1 ผู้ผลิตทูน่าโลกเหนียวแน่น

ปัจจุบันไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป หรือ TU เป็นผู้นำระดับโลกในอุตสาหกรรมอาหารทะเล โดยมุ่งมั่นส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูง ดีต่อสุขภาพ และเปี่ยมด้วยนวัตกรรมให้แก่ผู้บริโภคทั่วโลกมาตั้งแต่ปี 2520 บริษัทเป็นหนึ่งในผู้ผลิตปลาทูน่าบรรจุกระป๋องรายใหญ่ที่สุดของโลก โดยมีรายได้รวมกว่า 138,433 ล้านบาทในปี 2567 และมีพนักงานมากกว่า 44,000 คนทั่วโลก ภายใต้วิสัยทัศน์ในการเป็นผู้นำระดับโลกในกลุ่มอุตสาหกรรมอาหารและโภชนาการเพื่อสุขภาพจากท้องทะเล และพันธกิจ “Healthy Living, Healthy Oceans” ธุรกิจของไทยยูเนี่ยนครอบคลุมผลิตภัณฑ์อาหารทะเลแปรรูปและแช่แข็ง ผลิตภัณฑ์เพิ่มมูลค่า โปรตีนทางเลือก อาหารสัตว์เลี้ยง และอาหารสัตว์

ไทยยูเนี่ยนเป็นเจ้าของแบรนด์ทั่วโลก ประกอบด้วย Chicken of the Sea, John West, Petit Navire, King Oscar, Rügen Fisch และ SEALECT โดยบริษัทฯ มุ่งสร้างผลกระทบเชิงบวกทั้งต่อผู้คนและสิ่งแวดล้อม ภายใต้กลยุทธ์ด้านความยั่งยืน SeaChange® 2030

ลุย Blue Finance อนุรักษ์ทะเล

สำหรับอีกก้าวย่างสำคัญในปี 2568 ไทยยูเนี่ยนยังสามารถระดมทุนด้าน Blue Finance หรือการบริหารจัดการการเงินเพื่อการทำงานด้านการอนุรักษ์ท้องทะเล มูลค่ารวมกว่า 24,000 ล้านบาท โดยนับเป็นครั้งแรกในประเทศไทยที่มีการออกหุ้นกู้แบบผสมผสานระหว่าง Blue Bond และ Sustainability-Linked Bond ภายในธุรกรรมเดียวกัน ซึ่งได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างล้นหลาม ด้วยยอดจองซื้อทะลุเป้าถึง 3.68 เท่า ส่งผลให้ไทยยูเนี่ยนสามารถระดมทุนจากแหล่งเงินทุนที่เชื่อมโยงกับความยั่งยืนได้เกินเป้าหมายปี 2568 ซึ่งกำหนดไว้ที่ 75% ของเงินกู้ยืมระยะยาว และพร้อมเดินหน้าสู่เป้าหมาย 100% ภายในปี 2573

“เราเดินหน้าสู่การปิดปี 2568 ด้วยความแข็งแกร่ง พร้อมวางรากฐานที่มั่นคงสำหรับความสำเร็จในปี 2569 ไทยยูเนี่ยนมุ่งลดความซับซ้อนของกระบวนการต่างๆ เพิ่มความคล่องตัวและความรวดเร็วในการทำงาน เพื่อก้าวสู่การเป็นผู้นำของโลกในกลุ่มอุตสาหกรรมอาหารและโภชนาการเพื่อสุขภาพจากท้องทะเล” ธีรพงศ์ กล่าวเสริม

2 โปรเจ็กต์สำคัญมุ่งสู่ปี 2573

ขณะที่โครงการด้าน Transformation ของบริษัท ได้แก่ โปรเจ็กต์ Sonar และ โปรเจ็กต์ Tailwind ยังคงเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนกลยุทธ์เพื่อมุ่งสู่ปี 2573 โดยค่าใช้จ่ายจากโครงการดังกล่าวยังส่งผลต่อกำไรในระยะสั้น แต่ไทยยูเนี่ยนคาดว่าค่าใช้จ่ายเหล่านี้จะทยอยลดลงตั้งแต่ปี 2569 เป็นต้นไป นอกจากนี้ ไทยยูเนี่ยนยังเดินหน้าปรับโครงสร้างการบริหารงานเพื่อเพิ่มความคล่องตัวและประสิทธิภาพการบริหารจัดการต้นทุนในกระบวนการผลิต การจัดซื้อ และค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร โดยตั้งเป้าลดค่าใช้จ่ายสุทธิ 118 ล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2570

รางวัลสะท้อนการยอมรับระดับสากล

สำหรับการคว้ารางวัล Global Expansion Award ในครั้งนี้จึงเปรียบเสมือนบทพิสูจน์การก้าวที่มั่นคงของไทยยูเนี่ยนในฐานะองค์กรไทยบนเวทีโลก พร้อมตอกย้ำว่าการบริหารบนพื้นฐานการเรียนรู้ พัฒนา และกล้าที่จะเปลี่ยนแปลง คือหัวใจสำคัญของผู้นำยุคใหม่-ผู้นำที่ไม่หยุดยืนอยู่ในกรอบเดิม แต่เดินหน้าฝ่าอุปสรรคอยู่รอดท่ามกลางความผันผวน และ “Go Beyond Survival” อย่างแท้จริง

‘ธีรพงศ์’ เปิดเกมรุกไทยยูเนี่ยน ปรับตัวเร็ว–ลดซ้ำซ้อน–เพิ่มคล่องตัว รับมือศึกค้าโลก 2026

นายชู ชง ชาน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านกิจการกลุ่มบริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ตัวแทนรับรางวัลในครั้งนี้ ได้กล่าวขอบคุณ และระบุว่ารางวัลนี้สะท้อนถึงบทบาทการขยายธุรกิจระดับสากลของไทยยูเนี่ยนที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง

เบื้องหลังความสำเร็จของไทยยูเนี่ยนฯในครั้งนี้ อ้างอิงจากแนวคิดการบริหารองค์กรของนายธีรพงศ์ จันศิริ ซีอีโอของบริษัทฯที่ให้ความสำคัญกับ “การบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ” อันเป็นหัวใจสำคัญของธุรกิจอาหารทะเลโลกที่ผันผวนสูง ทั้งด้านต้นทุนวัตถุดิบ ค่าขนส่ง และสภาพเศรษฐกิจโลกที่คาดการณ์ยาก