“ชัยวัฒน์” นำทัพลุย Bangchak 100x ดัน EBITDA แตะ 8 หมื่นล้าน ด้วยทีมงานคุณภาพ

15 ต.ค. 2568 | 03:30 น.
อัปเดตล่าสุด :15 ต.ค. 2568 | 03:54 น.

เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2568 นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทบางจาก และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ได้นำคณะผู้บริหารประกาศกลยุทธ์ ‘Accelerating Bangchak 100x : Pivoting for Energy Security and Sustainability’

KEY

POINTS

  • บางจากตั้งเป้าหมายเพิ่ม EBITDA เป็น 80,000 ล้านบาทภายในปี 2571 หรือเติบโตขึ้น 100% ใน 3 ปี
  • ขับเคลื่อนการเติบโตผ่านการปรับโครงสร้างองค์กรใหม่เป็น 5 กลุ่มธุรกิจหลัก ตั้งแต่โรงกลั่น การค้า ไปจนถึงพลังงานอนาคต
  • นายชัยวัฒน์เน้นย้ำว่า "ทีมงานคุณภาพ" ที่แข็งแกร่ง ซึ่งรวมถึงบุคลากรที่ได้จากการซื้อกิจการเอสโซ่ เป็นกำลังสำคัญในการบรรลุเป้าหมาย

เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2568 นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทบางจาก และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ได้นำคณะผู้บริหารประกาศกลยุทธ์ ‘Accelerating Bangchak 100x : Pivoting for Energy Security and Sustainability’

โดยตั้งเป้าหมายการเติบโตอย่างก้าวกระโดด มี EBITDA (กำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย) เพิ่มขึ้น 100% จาก 40,000 ล้านบาท เป็น 80,000 ล้านบาท ภายในปี 2571 หรือเติบโต 100% ใน 3 ปี

ในการขับเคลื่อนครั้งนี้ ได้ประกาศปรับโครงสร้างองค์กรใหม่ (เริ่ม 1 ม.ค. 2569) แบ่งเป็น 5 กลุ่มหลัก ได้แก่

1.กลุ่มธุรกิจโรงกลั่น การตลาด และพลังงานชีวภาพ โดยกลุ่มนี้มีเป้าหมายสำคัญที่จะขยายกำลังการกลั่นเป็น 285,000 บาร์เรล/วัน (จากปี 2568 อยู่ที่ 265,000 บาร์เรล/วัน), การลงทุนในน้ำมันอากาศยานยั่งยืน (SAF) และ HVO (เชื้อเพลิงสะอาด), ขยายสถานีบริการน้ำมันเป็นมากกว่า 2,300 แห่งในปี 2571 และเพิ่มส่วนแบ่งตลาดน้ำมันจาก 29% เป็นมากกว่า 33%

2.กลุ่มธุรกิจการค้าน้ำมัน (Trading) จะยกระดับเป็นธุรกิจหลักใหม่ (new flagship) ตั้งเป้า EBITDA จากปัจจุบันมี EBITDA 650 ล้านบาท เพิ่มเป็น 4,400 ล้านบาทในปี 2571

3.กลุ่มธุรกิจต้นน้ำ (Upstream) มุ่งเป็นผู้นำในอาเซียนของผู้ดำเนินธุรกิจแหล่งปิโตรเลียมระยะกลาง โดยใช้ประสบการณ์ระดับสากลจากนอร์เวย์ เสริมความมั่นคงด้านพลังงานและการเติบโตในระยะยาว

“ชัยวัฒน์” นำทัพลุย Bangchak 100x ดัน EBITDA แตะ 8 หมื่นล้าน ด้วยทีมงานคุณภาพ

4.ธุรกิจไฟฟ้าและโครงสร้างพื้นฐาน จะต่อยอดจากพลังงานหมุนเวียนสู่การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานยุทธศาสตร์ ได้แก่ ดาต้าเซ็นเตอร์ รีไซเคิลแบตเตอรี่ ตั้งเป้าเพิ่ม EBITDA เป็น 7,000 ล้านบาท ภายในปี 2571

5.กลุ่มธุรกิจใหม่และโฮลดิ้งส์ จะลงทุนในเทคโนโลยีพลังงานอนาคต เช่น Bio-LNG, Green Ammonia, Nuclear Fusion มูลค่ากว่า 30 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อเตรียมพร้อมสู่อนาคต

ทั้งนี้จะใช้งบลงทุนรวม 35,000 ล้านบาท (ปี 2569–2571) กำหนดผลตอบแทนขั้นต่ำ IRR ไว้ที่ 15% และคาดว่าจะเพิ่ม EBITDA ได้ปีละ 10,000 ล้านบาท และสู่ 80,000 ล้านบาทในปี 2571

การปรับโครงสร้างและกลยุทธ์ใหม่นี้ไม่ใช่แค่การขยายธุรกิจ แต่เป็นการยกระดับบางจากสู่บริษัทพลังงานที่มั่นคง ยั่งยืน และพร้อมเข้าสู่ยุคพลังงานสะอาด โดยยังคงรักษาความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมพลังงานทั้งในไทยและภูมิภาค

ชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทบางจาก และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)

“ชัยวัฒน์” กล่าวในระหว่างการนำสื่อมวลชนศึกษาดูงานที่ประเทศญี่ปุ่นว่า เป้าหมายดังกล่าวถือมีความท้าทายมาก ซึ่งในแง่การบริหารแล้ว ทีมงานถือว่ามีความสำคัญมาก โดยตนมีทีมงานที่ดี และพร้อมที่จะลุยไปข้างหน้าด้วยกัน ขณะเดียวกันจากที่บางจากได้เข้าซื้อกิจการของเอสโซ่ฯ มีผลพลอยได้คือโรงกลั่น และสถานีบริการ รวมถึงได้คนเก่ง ๆ ที่มีคุณภาพ ที่ได้ว่าจ้างทำงานใหม่มาร่วมงานจำนวนมาก ซึ่งจะเป็นอีกส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเป้าหมายต่าง ๆ ที่เกี่ยวเนื่องข้างต้น

“ต้องบอกว่าผมได้ทีมที่ดี เป็นทีมที่พร้อมที่จะไปลุยกับผม ไม่อย่างนั้นผมคงวิ่งไปคนเดียวอาจจะแย่ไปแล้ว พอผมวิ่ง ทีมก็วิ่งตามผมมาโดยตลอด เราอยากจะไปไหนก็ไปด้วยกัน และก็คุยกัน พวกเขาก็ได้ challenge (ความท้าทาย) และก็ได้ส่งมอบ deliver (ผลลัพธ์) กันในลักษณะนั้น ผมคิดว่าโชคดีที่มีทีมที่ดี”

“ชัยวัฒน์” นำทัพลุย Bangchak 100x ดัน EBITDA แตะ 8 หมื่นล้าน ด้วยทีมงานคุณภาพ

อย่างไรก็ดี ในการปรับโครงสร้างธุรกิจใหม่เป็น 5 กลุ่มหลักในครั้งนี้ ที่ได้รวมหลายธุรกิจเข้าด้วยกัน มีเป้าหมายเพื่อสร้าง synergy ระหว่างหน่วยงาน และลดการทำงานแบบแยกส่วน (Silo) ที่มักเกิดขึ้นเมื่อแต่ละธุรกิจทำงานอย่างอิสระ ซึ่งการรวมพลังกันจะช่วยเปิดโอกาสให้เกิดการปรับปรุงกระบวนการทำงานอย่างเป็นระบบ และเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กลุ่มบางจากเติบโตได้อย่างยั่งยืนในระยะยาว

“หน้าที่ผมคือทำเพื่อผู้ถือหุ้นทุกคน เราเริ่มจากการปรับโครงสร้างธุรกิจเพื่อให้กลุ่มบางจากเข้มแข็งขึ้น ซึ่งแผนซื้อหุ้นคืน (Share Buyback) ระยะ 3 ปี ไม่ได้ให้ใครคนใดคนหนึ่ง ทุกคนจะได้รับเหมือนกันหมด โดยนักวิเคราะห์และ Business Consultant ต่างบอกว่าหุ้นบางจาก underperform สมัยก่อนยอดขายแสนล้าน สินทรัพย์ 5 หมื่นล้าน หุ้นอยู่ที่ 30 บาท วันนี้ยอดขาย 6 แสนล้าน สินทรัพย์ 3 แสนกว่าล้าน หุ้นก็ยังอยู่ที่ 30 บาท

ดังนั้นหน้าที่เราคือต้องดูแลผู้ถือหุ้นทุกคน ซึ่งการซื้อหุ้นคืนเป็นวิธีการลงทุนในตัวเองที่ดีที่สุด โดยเงินลงทุนใน Pipeline 3 ปี มี 3–4 หมื่นล้านบาท ส่วนเงินซื้อหลักพันล้านบาท สัดส่วนคนละเรื่องกัน เราต้องการสร้างพื้นฐานให้กลุ่มบางจากแข็งแรง ผลเสียในทางทฤษฎี (ที่ว่าการซื้อหุ้นคืนทำให้การขยายธุรกิจน้อยลง) นั้นน้อยมาก เป็นเรื่องจิตวิทยามากกว่า”

“ชัยวัฒน์” นำทัพลุย Bangchak 100x ดัน EBITDA แตะ 8 หมื่นล้าน ด้วยทีมงานคุณภาพ

ต่อคำถามบางจากและ ปตท. เป็นคู่แข่งขันหรือพันธมิตรกันอย่างไร เพราะธุรกิจส่วนใหญ่จะคล้ายกันนั้น

“ชัยวัฒน์” กล่าวว่า "เราเรียกเขาว่าลูกพี่ในธุรกิจเดียวกัน" โดย ปตท. เป็นบริษัทน้ำมันแห่งชาติเหมือนในทุกประเทศที่ต้องมี เพื่อตอบโจทย์ความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศ ที่บางครั้งก็ต้องเสียสละ แต่ก็จะได้รับสิทธิพิเศษบางอย่างด้วยเหมือนกัน

ส่วนบางจากฯ เป็นบริษัทพลังงานที่ไม่ใช่รัฐวิสาหกิจ สามารถที่จะยืนด้วยลำแข้งของตัวเอง และแข่งขันในตลาดโลกได้ ซึ่งเมื่อเป็นบริษัทใหญ่ที่ไม่ได้เป็นรัฐวิสาหกิจก็จะต้องแข่งขันเหมือนกับบริษัทเอกชน หรือบริษัทมหาชนทั่วไป ซึ่งก็พิสูจน์แล้วว่าบางจากไปทำอะไรได้หลายอย่าง ไปลงทุนในต่างประเทศที่นอร์เวย์ก็ได้รับการยอมรับพอสมควร ไปลงทุนบริการน้ำมันและโรงไฟฟ้าก็เป็นการตัดสินใจที่ตอบโจทย์ได้มากพอสมควร

ดังนั้นบางจากในเวลานี้ถือเป็นหนึ่งในบริษัทพลังงานชั้นนำที่ไม่ใช่รัฐวิสาหกิจ และไม่มีสิทธิพิเศษใด ๆ และขับเคลื่อนธุรกิจแบบมืออาชีพ