ซีอีโอทั่วโลก ออกจดหมายเปิดผนึกก่อน COP30 เร่งขับเคลื่อนเศรษฐกิจสีเขียว

กลุ่มผู้นำซีอีโอระดับโลกเรียกร้องให้ภาครัฐและเอกชนร่วมมือเร่งการเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจสีเขียว ก่อนการประชุม COP30 หลังข้อมูลชี้ว่าธุรกิจทั่วโลกเริ่มเห็นผลลัพธ์ชัดจากการลงทุนในเทคโนโลยีคาร์บอนต่ำ แต่กระแสการเปลี่ยนผ่านกำลังสะดุดจากต้นทุนที่สูง ความไม่แน่นอนเชิงนโยบาย และแรงกดดันทางภูมิรัฐศาสตร์

ผู้นำซีอีโอในกลุ่ม Alliance of CEO Climate Leaders ระบุว่า การเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจสีเขียวไม่ใช่เพียงภารกิจด้านสิ่งแวดล้อม แต่คือโอกาสทางเศรษฐกิจครั้งใหญ่ โดยตลาดพลังงานสะอาด เช่น โซลาร์เซลล์ กังหันลม รถยนต์ไฟฟ้า แบตเตอรี่ และเทคโนโลยีดักจับคาร์บอน มีมูลค่ารวมกว่า 7 แสนล้านดอลลาร์ต่อปี เพิ่มขึ้นเกือบ 4 เท่าตั้งแต่ปี 2015

ภาคธุรกิจเริ่มเห็นผลตอบแทนจากพลังงานหมุนเวียนที่มั่นคงและแข่งขันได้ ขณะที่ภาคเกษตรที่นำแนวทางเกษตรเชิงฟื้นฟูมาใช้ก็สามารถเพิ่มกำไรได้จริง นอกจากนี้ “เศรษฐกิจหมุนเวียน” ยังเปิดโอกาสใหม่ในการลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากร

อย่างไรก็ตาม รายงานเตือนว่า ความล่าช้าในการดำเนินนโยบายและต้นทุนการเปลี่ยนผ่านที่สูง กำลังทำให้เป้าหมายลดอุณหภูมิโลกเหลือเพียง 1.5 องศาเซลเซียส ห่างไกลความจริงโดยปัจจุบันนโยบายโลกยังนำพาไปสู่เส้นทางที่อุณหภูมิอาจสูงถึง 3 องศาในปี 2050 ซึ่งจะกระทบต่อความมั่นคงทางอาหาร เศรษฐกิจ และชีวิตผู้คนทั่วโลก

กลุ่มซีอีโอจึงเสนอ 13 แนวทางเร่งด่วน ทั้งฝั่งภาครัฐและเอกชน ตั้งแต่การสร้างสภาพแวดล้อมทางนโยบายที่มั่นคง การเพิ่มแรงจูงใจทางการเงินสำหรับเทคโนโลยีสะอาด การลดอุปสรรคในกระบวนการอนุมัติพลังงานหมุนเวียน ไปจนถึงการลงทุนในระบบเตือนภัยภูมิอากาศและเกษตรยั่งยืน

ขณะเดียวกัน ภาคธุรกิจเองต้องเร่งตั้งเป้าลดการปล่อยคาร์บอนในขอบเขต 1–3 ใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ พัฒนานวัตกรรมดิจิทัล และร่วมมือกันสร้างอุปสงค์ใหม่สำหรับเทคโนโลยีสะอาด เช่น การเข้าร่วมโครงการ “First Movers Coalition” ที่สนับสนุนการลดคาร์บอนในภาคอุตสาหกรรมหนัก

จดหมายเปิดผนึกย้ำว่า ความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนคือหัวใจสำคัญของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจสีเขียว โดยการลงมือในวันนี้จะเป็นตัวกำหนด ความเร็วและขนาดของการเปลี่ยนผ่านพร้อมเปิดโอกาสทางเศรษฐกิจครั้งประวัติศาสตร์ และปกป้องทั้งผู้คน ธุรกิจ และโลกไปพร้อมกัน

อ่านจดหมายเปิดผนึกฉบับเต็ม (คลิก)