"เศรษฐกิจ-ประชากร‘โต’  โอกาส‘การค้า-ลงทุน’ กัมพูชา

03 มี.ค. 2566 | 04:30 น.

จีนเปิดประเทศปลุก"ท่องเที่ยว-ลงทุน"คึกคักในกลุ่มอาเซียน รวมถึงกัมพูชา ที่ก่อนโควิด-19 จีนได้เข้ามาลงทุนจำนวนมาก โดยเฉพาะที่เมืองสีหนุวิลล์ ฐานลงทุนนักธุรกิจจีน

แต่ต้องซบเซาไปจากการระบาดเชื้อโควิด-19 จึงเป็นที่จับตาว่าหลังทางการจีนไฟเขียวให้คนจีนและนักธุรกิจจีน ออกท่องโลกได้อีกครั้ง จะกลับมารื้อฟื้นหรือเดินหน้าแผนลงทุนที่ค้างไว้ต่ออย่างไร ซึ่งจะมีผลให้เศรษฐกิจกัมพูชากลับมาขับเคลื่อนคึกคักอีกครั้ง

นางจีรนันท์ วงษ์มงคล อดีตอัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายการพาณิชย์) สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศสถานเอก อัครราชทูตไทย ประเทศกัมพูชา เคยให้ข้อมูลว่า จังหวัดชายทะเลภาคตะวันออกของไทย มีพื้นที่ติดต่อกับจังหวัดชายทะเลกัมพูชา หรือกลุ่ม 4K ประกอบด้วย จ.เกาะกง กัมโปงโสม (สีหนุวิลล์) แกป และกัมปอด และต่อเนื่องไปถึงชายทะเลตอนใต้ของเวียดนาม ซึ่งมีแหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อ คือ เกาะฟูก๊วก

"เศรษฐกิจ-ประชากร‘โต’  โอกาส‘การค้า-ลงทุน’ กัมพูชา

"เศรษฐกิจ-ประชากร‘โต’  โอกาส‘การค้า-ลงทุน’ กัมพูชา

ชาวจีนมาลงทุนใน 4 จังหวัดชายทะเลของกัมพูชากันมาก โดยเฉพาะในสีหนุวิลล์ มีการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ โรงแรม คอนโดมิเนียม ทำให้มีชาวจีนกว่า 5 ล้านคน อาศัยอยู่ในพื้นที่ 4 จังหวัดนี้ ซึ่งจะเป็นช่องทางการลงทุนและการตลาด ในการที่นักลงทุนไทยจะเข้าทำธุรกิจกับชาวจีน และใน 4 จังหวัดชายทะเลเหล่านี้ ทั้งในเรื่องการเชื่อมโยงทางการท่องเที่ยว การขายวัตถุดิบ อาหาร หรือพืชพันธุ์ และยังสามารถก้าวไปยังเวียดนามตอนใต้ รวมทั้งที่เกาะฟูก๊วก

อดีตทูตพาณิชย์ไทยประจำกัมพูชา เสนอว่า หากไทยสามารถสร้างเส้นทางเดินเรือชายฝั่ง เชื่อมภาคตะวันออกของไทย ไปกัมพูชาและเวียดนามตอนใต้ จะส่งผลดีต่อการท่องเที่ยว โดยก่อนโควิด-19 มีเส้นทางเรือสำราญจากพัทยา ชลบุรี ไปตราด สู่สีหนุวิลล์ และไปยังเสียมเรียบ มาจบที่เวียดนามตอนใต้ที่ฟูก๊วก และสามารถเป็นเส้นทางขนส่งสินค้าได้ด้วย

"เศรษฐกิจ-ประชากร‘โต’  โอกาส‘การค้า-ลงทุน’ กัมพูชา

"เศรษฐกิจ-ประชากร‘โต’  โอกาส‘การค้า-ลงทุน’ กัมพูชา

ส่วนการเดินทางทางบก มีหลายเส้นทางที่เชื่อมโยงกัมพูชาและเป็นช่องทางการค้าชายแดน ตลอดแนวพรมแดน ขณะที่เส้นทางสายหลักคือ ถนนสาย R-10 ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงข่ายคมนาคมขนส่งเชื่อมโยงในกลุ่มอนุภูมิภาค ลุ่มนํ้าโขง แนวระเบียงทางใต้ถือเป็นเส้นทางเศรษฐกิจและท่องเที่ยวที่เชื่อมโยง 3 ประเทศ คือ ไทย กัมพูชา เวียดนาม จากแนวถนนที่เลียบชายฝั่งทะเลของแต่ละประเทศ จึงเรียกกันว่าเป็น ROAD OF PARADISE (R-10)

ส่วนช่องทางการลงทุนนั้น นางจีระนันท์ ชี้ว่า เวลานี้ชาวกัมพูชามีสถานะทางเศรษฐกิจดีขึ้นมาก สังเกตได้จากเที่ยวบิน พนมเปญ-กรุงเทพฯ มีคนกัมพูชาเต็มลำ มาไทยทั้งเพื่อการท่องเที่ยวและรักษาพยาบาลต่อเนื่อง ขณะในพนมเปญงานจัดเลี้ยงในโรงแรมก็มีทุกวัน โดยกลุ่มผู้มีกำลังซื้อสูงมีอยู่จำนวนหนึ่งที่พร้อมใช้จ่าย

ส่วนกลุ่มวัยแรงาน หรือกลุ่มคนที่เป็นแรงงาน เวลานี้กว่าครึ่งเป็นกลุ่มที่มีรายได้เฉลี่ยเดือนละ 200-300 ดอลลาร์ กลุ่มคนชั้นกลางจบปริญญาตรี จะมีรายได้เริ่มที่เดือนละ 300 ดอลลาร์ เมื่อทำไปได้ 4-5 ปี จะขยับเป็นประมาณ 500 ดอลลาร์ และเริ่มสร้างครอบครัว ซื้อคอนโดฯ ที่พัก รถยนต์ ผู้จะไปลงทุนต้องแยกตลาดให้ชัดว่า จะจับกลุ่มไหน

“เวลานี้ไลฟ์สไตล์ของชาวกัมพูชาเปลี่ยนไป จากที่ชอบเที่ยวหรือหาซื้อบ้านติดทะเลกลุ่มจังหวัด 4K แต่วันนี้ไม่เอาแล้ว เพราะที่ดินถีบตัวสูง คนจีนมาแย่งซื้อหมด บางส่วนหันมาเที่ยวทะเลที่ตราดเพราะค่าใช้จ่ายถูกกว่า และเดินทางเข้าไทยอยู่ได้ 45 วัน โดยไม่ต้องมีวีซ่า เป็นอีกช่องทางที่สามารถทำการตลาดได้”

นอกจากนี้กัมพูชาเป็นสังคมที่ประชากรกำลังขยายตัว นโยบายรัฐสนับสนุนการมีบุตร คนกัมพูชาส่วนใหญ่มีลูก 4-5 คน เป็นโอกาสสำหรับการลงทุนธุรกิจเกี่ยวกับเด็ก และสถานศึกษา ตั้งแต่ระดับอนุบาลถึงมหาวิทยาลัย หรือธุรกิจสุขภาพ โดยโรงพยาบาลและคลีนิคยังจำเป็นและมีความต้องการสูง

ส่วนธุรกิจคนจีนในกัมพูชาที่ซบเซาลงในช่วงโควิด-19 และกระแสข่าวกลุ่มทุนจีนทิ้งโครงการจนสีหนุวิลล์ร้างนั้น อดีตทูตพาณิชย์ไทยประจำกัมพูชา ชี้ว่า ทุนจีนไม่ได้ทิ้ง เพียงแต่ปิดไปชั่วคราวช่วงโควิดเท่านั้น เพราะได้ลงทุนมาสร้างเมือง สร้างโรงแรม สร้างธุรกิจต่างๆ ด้วยเงินจำนวนมาก มูลค่านับร้อยล้านบาท จึงไม่ทิ้งแน่ และโครงการเหล่านี้ก็จ่ายเงินให้คนกัมพูชาไปหมดแล้ว ไม่มีใครเสียหาย เพียงแต่รอทุนจีนกลับมาในอนาคต เพื่อตัดสินใจว่าจะเดินหน้าต่อหรือขายกิจการ ซึ่งจะทำให้โครงการเกิดความชัดเจนต่อไป

การค้าการลงทุนกับเพื่อนบ้านยุคหลังโควิดจึงเป็นโอกาส และในกัมพูชาไม่มีความเสี่ยงเรื่องเสถียรภาพทางการเมือง นายกรัฐมนตรีฮุนเซนอยู่ในตำแหน่งมากว่า 30 ปี พัฒนาประเทศต่อเนื่อง จนเปลี่ยนแปลงไปมาก ประชาชนมีรายได้ดี เศรษฐกิจเติบโต จึงเป็นโอกาสอันดีของกลุ่มทุนไทย จะกลับไปลงทุนในกัมพูชาอีกครั้ง 

 

จักรกฤชณ์ แววคล้ายหงษ์/รายงาน

หน้า 10 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 43 ฉบับที่ 3,867  วันที่ 5-8 มีนาคม พ.ศ.2566