ปลุกกระแส บี 100 สกัดราคาปาล์มร่วงดิ่งเหว

นายมนัส พุทธรัตน์ ประธานสมาพันธ์ชาวสวนปาล์มน้ำมันแห่งประเทศไทย และคณะอนุกรรมการบริหารจัดการสมดุลน้ำมันปาล์ม ใน กนป. เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า เป็นที่ทราบกันดีกว่าราคาผลปาล์มเกิดจากอินโดนีเซียโละสต๊อกน้ำมันปาล์มดิบออกมา ในขณะที่ประเทศไทยก็มีผลผลิตออกมาทุกเดือน ก็ทำให้แต่ละเดือนก็มีสต๊อกเพิ่มขึ้นเรื่อย จากปัญหาดังกล่าวทำให้เกิดแนวความคิดที่จะสร้างความสมดุล และเสถียรภาพด้านราคาปาล์มทะลาย และสต๊อกน้ำมันปาล์มในระบบ โดยนำน้ำมันไบโอดีเซล มาแบ่งปัน

เริ่มแล้ววันนี้ จุดแบ่งปันสุขนาบูรณ์ ถือนโยบายนำร่อง แฟนพันธ์แท้ไบโอดีเซล B100 เรียนเชิญมาทดลองใช้ได้ น้ำมันชีวภาพ ลดควัน ไร้กลิ่น เป็นมิตรต่อสิ่ง แวดล้อม ที่แน่ๆ ช่วยเกษตรกรชาวสวนปาล์ม  ฝากถึงพี่น้องเกษตรกรชาวสวนปาล์มปทุมธานี มาร่วมมือช่วยกันใช้ B100 ถือเป็นนโยบายนำร่อง ที่เราพร้อมจะเป็นผู้นำในการจะสร้างความมั่นคงในอาชีพการทำสวนปาล์มที่ยั่งยืนในยุคต้นทุนสูง ทั้งราคาพลังงานและปุ๋ยเคมีที่มีราคาแพงขึ้น

สมาชิกกลุ่ม B 100 เพื่อเกษตรกรไทย โพสต์น่าสนใจว่า  การช่วยเหลือส่งออกลิตรละ 2 บาท น่าจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดตอนนี้ เพราะ สต็อกลดแน่ๆ และจะเป็นช่องทางหนึ่งในการบริหารจัดการได้ในอนาคตถ้าประเทศไทยมีผลผลิตปาล์มทะลายออกสู่ตลาดมากขึ้นและจะเป็นผลดีต่อเกษตรกร หลายคนมองว่าทำไมไม่เพิ่ม B 10 ,20 ถ้าเรามองแบบเป็นธรรม ปาล์มน้ำมัน B100 ปัจจุบันราคาลิตรละ 35 บาท  และอาจแพงกว่า เอามาผสม ดีเซล ซึ้งมีราคาถูกกว่าซึ่งจะเป็นการเพิ่มภาระให้กับประเทศ และไม่ได้ประโยชน์ทางภาษี

การกลับมาใช้ B7 น่าจะสมดุล การผลักดันการส่งออก ถึงจะเสีย 2 บาท อย่างไรก็คุ้มดังนั้นอยากให้เกษตรกรเปิดใจสักนิด เป็นเกษตรกรแบบนักบริหาร  คุณจะเข้าใจเลยว่า ที่ผ่านมารัฐบาล พยายามแก้ไข และสร้างสมดุล น่าจะเป็นผลดีต่อเกษตรกร ชาวสวนปาล์ม เพราะบางครั้ง การทำเกษตร พวกเราปลูกกันมากๆ ทำให้มันดกๆ เวลาผลผลิตมันมากเกินความจำเป็น มันเป็นปัญหาเหมือนกัน

ดังนั้นการจัดการ คือยุทธศาสตร์ที่สำคัญมากเป็นเกษตรกรแบบใจกว้างกันดีกว่า อย่ามามัวอิจฉาพวกเดียวกัน  บางครั้ง เห็นปาล์มทะลายราคาลงแต่น้ำมันขวดยังไม่ลง แล้วไปโหน ราคาให้น้ำมันขวดลง มันไม่เกิดประโยชน์ เพราะทุกคนมีต้นทุน สต็อกที่ผลิตน้ำมันขวด แล้ววางขาย เขาซื้อปาล์มราคาเท่าไหร่  เปิดใจกันสักนิด  ถ้าเราสามารถสร้างมาตรฐานน้ำมันขวดในประเทศได้น่าจะดี ลิตรละ 55 บาทขึ้น ห้ามต่ำกว่านี้  เราน่าจะขายปาล์มได้ราคาดีเช่นเดียวกัน เพราะทุกวันนี้ภาวะเงินเฟ้อในปัจจุบัน ปุ๋ยแพง ยาฆ่าหญ้าก็แพง  น้ำมันก็แพง แพงทั้งแผ่นดิน แล้วทำไมเราจะขายผลิตในราคาแพง บ้างไม่ได้

"สนับสนุนน้ำมันขวดขั้นต่ำ 55 บาท เกษตรกรชาวสวนจงภูมิใจ  วันนี้ประเทศไทยเป็นผู้ส่งออก  และปาล์มเป็นพืชที่ไม่มีปัญหาเรื่องการตลาด ถึงราคาถูกก็มีคนรับซื้อ และที่ผ่านมาวิกฤติโควิด เราชาวสวนได้รับผลกระทบน้อยมาก จะถือว่าเป็นโอกาสก็ได้  เราต้องขอบคุณคณะทำงานการบริการการจัดการทุกภาคส่วน ที่ผ่านมา เราขายปาล์มได้ราคาดีพอสมควร"

ซึ่งการลดต้นทุนเพิ่มผลผลิต ไม่น่าจะใช่วลีที่ฉลาดนัก เพราะลดต้นทุน ผลผลิตก็ลดตาม  น่าจะเพิ่มต้นทุน เพื่อให้ผลผลิตออกมาก  ต้นทุนต่อหน่วยถึงจะลดลงได้ถึงจะถูก ทุกวันนี้ปุ๋ยแพง ต้นทุนต่อหน่วยมันไม่ลงง่ายๆแล้ว บริหารจัดการกันให้ดี อนาคตพวกเราพอมีรายได้เลี้ยงครอบครัว ปาล์มราคาตกต่ำเมื่อไหร่ B100 ค่อยทำงาน

แหล่งข่าว กระทรวงพลังงาน เผยสถานการณ์การใช้ไบโอดีเซล (บี100) ปริมาณการใช้ไบโอดีเซล (บี100) เดือนมกราคมถึงเดือนกันยาย  ปี 65 เฉลี่ยอยู่ที่ 3.60 ล้านลิตร/วัน ลดลงจาก ช่วงเดียวกันของปี 64 ร้อยละ 21.70 (ปี 64 การใช้เฉลี่ย 4.60 ล้านลิตร/วัน) สำหรับการใช้ในเดือน ก.ย. 65 อยู่ที่ 3.00 ล้านลิตร/วัน ลดลงจาก สิงหาคม 65 ร้อยละ 6.30  (ส.ค.65 มีปริมาณการใช้ 3.20 ล้านลิตร/วัน) ตามความต้องการใช้น้ำมันดีเซลที่ลดลง

สำหรับแนวโน้มการใช้ 2 เดือนสุดท้าย (เดือนพฤศจิกายน-เดือนธันวาคม) ของปี 2565  ภาคเอกชนคาดว่า การใช้น้ำมันปาล์มดิบในภาคบริโภคและอุตสาหกรรม จะปรับลดลงมาอยู่ที่ 0.09 ล้านตัน  เนื่องจากภาวะการค้าและการบริโภคยังไม่กลับเข้าสู่ภาวะปกติโดยสิ้นเชิง ในขณะที่ภาคพลังงานปรับ เพิ่มขึ้น หลังจากมติคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2565 เห็นชอบ การกำหนดเพิ่มสัดส่วนการผสมไบโอดีเชลประเภทเมทิลเอสเตอร์ของกรดไขมันในน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว จาก บี5 เป็น บี7

โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 10 ตุลาคม 2565 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2565 คาดว่าความต้องการใช้น้ำมันปาล์มดิบในภาคพลังงานปี 2565 จะอยู่ ประมาณ 0.957 ล้านตัน (0.080 ล้านต้นต่อเดือน) ลดลง 0.189 ล้านตัน (-16%) จากปี 2564 ที่ 1.146 ล้านตัน (0.096 ล้านตันต่อเดือน)ซึ่งจะมีส่วนต่างการใช้ CPO ลดลง ประมาณ 0.016 ล้านต้นต่อเดือน (0.192 ล้านตันต่อปี)