นางสาวสุลัดดา ศรุติลาวัณย์ ผู้อำนวยการภูมิภาคยุโรป การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ททท. ยังคงเดินหน้ากลยุทธ์ Airline Focus อย่างต่อเนื่อง เพื่อกระตุ้นตลาดนักท่องเที่ยวระยะไกล เนื่องจากการเข้าถึงประเทศไทยเป็นสิ่งสำคัญ
โดยททท.ส่งเสริมและสนับสนุนสายการบินให้เปิดบินเข้าไทย ซึ่งไฮซีซันปลายปีนี้ต่อเนื่องไตรมาสแรกปีหน้า มีหลายสายการบินทยอยเปิดเที่ยวบินเข้าไทย
ไม่ว่าจะเป็นยูไนเต็ด แอร์ไลน์ กลับมาเปิดบินเข้าไทยอีกครั้งในรอบ 11 ปี ในเส้นทางลอสแอนเจลิส – ฮ่องกง – กรุงเทพฯ สายการบิน Arkia Israeli Airlines เที่ยวบิน IZ591 บินตรงจากกรุงเทลอาวีฟ อิสราเอล เข้าสนามบินสุวรรณภูมิ สายการบิน Norse Atlantic Airways สายการบินแรกที่เปิดเส้นทางตรงจากแมนเชสเตอร์สู่ไทย
รวมถึงเที่ยวบินปฐมฤกษ์สายการบิน แอร์ฟรานซ์ บินตรงจาก กรุงปารีสฝรั่งเศส เดินทางถึงท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต สัปดาห์ละ 3 เที่ยว ด้วยเครื่องบินโบอิ้ง 777-200 จำนวน 328 ที่นั่ง จนถึงเดือนมีนาคมปี 2569
โดยฝรั่งเศสเป็นตลาดอันดับ 5 ของตลาดระยะไกลที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาประเทศไทยมากที่สุด รองมาจาก รัสเซีย สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา และ เยอรมนี ซึ่งสะท้อนว่าเป็นตลาดคุณภาพที่น่าจับตามอง
สำหรับตลาดนักท่องเที่ยวฝรั่งเศสถือเป็นตลาดศักยภาพและเติบโตสูง โดย ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 23 พฤศจิกายน 2568 มีนักท่องเที่ยวฝรั่งเศสเดินทางท่องเที่ยวมายังประเทศไทย จำนวนทั้งสิ้น 710,968 คน เพิ่มขึ้น 13.8 %
เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2567 โดยส่วนใหญ่เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เดินทางครั้งแรก (First Visit) นิยมเดินทางท่องเที่ยวด้วยตนเอง (FIT) มีอัตราการใช้จ่ายต่อวันอยู่ที่ประมาณ 58,611 บาท/คน/ทริป และมีระยะเวลาพำนักที่ค่อนข้างยาวเฉลี่ยที่ 17.22 วัน
จุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวฝรั่งเศส ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ภูเก็ต กระบี่ สุราษฎร์ธานี ทั้งนี้ คาดว่าภายในปี 2568 จะมีนักท่องเที่ยวจากฝรั่งเศสเดินทางเข้าประเทศไทยจำนวน 846,000 คน การเปิดเส้นทางบินตรงของสายการบิน Air Arabia จากรัฐชาร์จาห์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ สู่จังหวัดกระบี่
การเติบโตของตลาดระยะไกล ใช้กลยุทธ์ผ่านการเดินหน้า Airline Focus อย่างต่อเนื่อง เพื่อดึงนักท่องเที่ยวที่มีคุณภาพเข้ามาเที่ยวไทย โดยการเพิ่มความสามารถด้านการเข้าถึงทางอากาศเป็นปัจจัยสำคัญในการผลักดันนักท่องเที่ยวเข้าประเทศ ทำให้ความจุเที่ยวบินจากยุโรปปีนี้เพิ่มขึ้นแล้วกว่า 16% เมื่อเทียบกับปีก่อน และสูงกว่าระดับก่อนโควิดในปี 2562 ถึง 5% ถือเป็นปัจจัยบวกสำคัญในการขับเคลื่อนตลาดระยะไกล
โดยตั้งเป้าหมายเฉพาะตลาดนักท่องเที่ยวยุโรปจะทำสถิติสูงสุดใหม่ในปี 2569 แตะระดับ 8.8 ล้านคน หนุนการเติบโตของตลาดระยะไกลทำนิวไฮถึง 11.6 ล้านคน ซึ่ง ททท.จะต่อยอดกลยุทธ์ “Airline Focus” เน้นการเพิ่มเส้นทางบินตรงมายังไทย
โดยเฉพาะเส้นทางใหม่จากยุโรปที่ยังอยู่ระหว่างเปิดเพิ่ม รวมถึงนอร์ซ แอตแลนติก ที่เตรียมบินจากสตอกโฮล์มและออสโลมายังภูเก็ต โดย ททท. ร่วมทำตลาดกับสายการบินต่างชาติหลายราย เช่น Norse Atlantic, Condor, TUI, British Airways และ Air France
แนวโน้มตลาดระยะไกลมีความสดใส อยู่ในแดนบวกทุกตลาด โดยตลาดยุโรป นักท่องเที่ยวยังคงนิยมเดินทางสู่ กรุงเทพฯ และภูเก็ต แต่ก็มีแนวโน้มเยือนเมืองรองอย่างจ.กระบี่มากขึ้น
สิ่งสำคัญคือ การขนนักท่องเที่ยวเข้ามา การมีเที่ยวบินฟื้นตัวถือเป็นเรื่องที่ดี โดยมียอดใช้จ่ายเฉลี่ยกว่า 60,000 บาทต่อทริป พร้อมพำนักระยะยาวมากขึ้น เฉลี่ยสองสัปดาห์ต่อทริป ซึ่งมีทิศทางสูงขึ้น โดยเฉพาะในหมวด ลักชัวรี สุขภาพและเวลเนส ทำให้การใช้จ่ายเติบโตขึ้นอีก
สำหรับในช่วนอกฤดูกาลท่องเที่ยว (โลว์ซีซั่น) ของยุโรป ททท.มองเห็นโอกาสจากตลาดอื่น อาทิ ยุโรปตอนใต้ และ ตะวันออกกลาง พร้อมเดินหน้าเจรจาดึงเที่ยวบินตรงจากประเทศที่ยังไม่มีเที่ยวบินพาณิชย์มายังไทย อาทิ โปแลนด์ และประเทศยุโรปตะวันออก ซึ่งปัจจุบันมีเฉพาะเที่ยวบินเช่าเหมาลำ ซึ่งแนวโน้มดังกล่าวควรเดินหน้าอย่างราบรื่นหากไม่มีเหตุการณ์รุนแรง อาทิ สงคราม ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ หรือวิกฤตเศรษฐกิจ
หากเศรษฐกิจประเทศต้นทางดี การเข้ามาเที่ยวไทยก็จะดีเช่นกัน โดยจากข้อมูลในวันที่ 23 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ไทยต้อนรับนักท่องเที่ยวยุโรปแล้ว 6.94 ล้านคน เพิ่มขึ้นเกือบ 13% เมื่อเทียบปีก่อน คาดว่าสิ้นปีนี้ตัวเลขจะเพิ่มขึ้นถึง 8.45 ล้านคน สูงกว่าปี 2562 ซึ่งเป็นช่วงก่อนโควิด โดยในปี 2569 ตลาดหลักอย่างสหราชอาณาจักร เยอรมนี และฝรั่งเศส อาจทำสถิติทะลุ 1 ล้านคน
ขณะที่ รัสเซีย อาจแตะ 2 ล้านคน กลยุทธ์ของไทยจึงไม่ใช่การแข่งขันกับคู่แข่งด้านราคา แต่ควรมุ่งเน้น คุณภาพสินค้าและบริการ แต่ยังยืนยันว่า แม้นักท่องเที่ยวยุโรปแข็งแกร่งขึ้น ก็ไม่สามารถทดแทนการลดลงมากของตลาดระยะใกล้ได้ทั้งหมด เนื่องจากฐานประชากรและความจุเที่ยวบินที่แตกต่างกันมาก
หน้า 10 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 4,154 วันที่ 4 - 6 ธันวาคม พ.ศ. 2568