เปิด 4 เหตุผลจีนเที่ยวไทยพลาดเป้า วีซ่าฟรีไม่ช่วย กรุ๊ปทัวร์จีนไม่มา

26 พ.ย. 2566 | 02:40 น.

เปิด 4 เหตุผลจีนเที่ยวไทยพลาดเป้า วีซ่าฟรีไม่ช่วย กรุ๊ปทัวร์จีนไม่มา คาดล่าสุดนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาไทย 3.5 ล้านคน ททท.ผนึกบิ๊กพันธมิตรจีน เร่งกู้ตลาดฟื้นความเชื่อมั่น โปรโมทเที่ยวอีสาน ขยายช่องทางเข้าไทยผ่านเส้นทาง R3A รถไฟความเร็วสูงจีน-ลาว

จีนจัดว่าเป็นตลาดหลักของการท่องเที่ยวไทย ซึ่งก่อนเกิดโควิด-19 เดินทางเข้ามาเที่ยวไทยกว่า 11 ล้านคน เท่ากับนักท่องเที่ยวจากอาเซียนรวมกัน หรือคิดเป็น 28% ของนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมดที่เดินทางเข้าไทย  การยกเว้นการตรวจลงตราวีซ่า หรือ  “วีซ่าฟรี” สำหรับนักท่องเที่ยวจีน หรือ “วีซ่าฟรีจีน” จึงเป็นหมัดเด็ดของรัฐบาลเศรษฐา ที่คาดหวังจะกระตุ้นตลาดนักท่องเที่ยวจีน แต่ในกลับไม่เป็นไปตามที่หวังไว้

ล่าสุดไทยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ 23.85 ล้านคนแล้ว (1ม.ค.-19 พ.ย.66)  แต่ตลาดนักท่องเที่ยวจีนที่เคยครองอันดับ 1 กลายมาเป็นอันดับ 2 รองจากนักท่องเที่ยวมาเลเซีย  โดยไทยมีนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาเที่ยวแล้ว 2,975,155 คน ทำให้มีแนวโน้มว่าตลอดทั้งปีนี้จะไทยจะมีนักท่องเที่ยวจีนราว 3.5 ล้านคน จากที่ในเดือนมิถุนายน ททท. คาดการณ์ว่าจะมีนักท่องเที่ยวชาวจีนประมาณ 4-4.4 ล้านคนในปีนี้ ซึ่งก็ยังต่ำกว่าเป้าหมายแรกที่เคยตั้งไว้ว่าจะมีสูงถึง 5 ล้านคน

นักท่องเที่ยวจีนเที่ยวไทย

การชลอตัวของนักท่องเที่ยวจีนเที่ยวไทย มีสาเหตุหลักมาจาก 4 ปัจจัยหลัก ได้แก่

  • ปัญหาเศรษฐกิจในของจีน

จากพิษโควิด-19 ซึ่งปิดประเทศไปนานร่วม 3 ปี  GDP จีนลดลงอย่างมาก จากวิกฤตอสังหาริมทรัพย์ อสังหาจีนรายใหญ่ทยอยล้มลงไป ไม่ว่าจะเป็นการล้มละลายของไชน่า เอเวอร์แกรนด์  การผิดนัดชำระหนี้ของ คันทรี่ การ์เดน ทำให้คนจีนในภาคก่อสร้างตกงานแล้วกว่า 62 ล้านตำแหน่ง และลุกลามสู่ภาคการเงิน ที่พนักงานในภาคนี้ถูกลดค่าตอบแทนแล้วมากถึง 40%  

การจ้างงานใหม่ลดลง ทำให้คนจีนต้องรัดเข็มขัดและลดการเดินทางออกนอกประเทศ  ทุกวันนี้คนจีนเดินทางเที่ยวต่างประเทศลดลง จากเดิมเคยอยู่ที่ประมาณ 100-150 ล้านคนต่อปี แต่ทุกวันนี้เดินทางไม่ถึง 100 ล้านคนต่อปี
 

  • รัฐบาลจีนก็ให้ความสำคัญในการโปรโมทการท่องเที่ยวภายในประเทศ

ทั้งนี้เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งหลังจากจีนเปิดประเทศ คนจีนเดินทางเที่ยวในประเทศมากขึ้น  และการทำพาสปอร์ตใหม่ หรือต่ออายุพาสปอร์ต สำหรับคนจีนที่พาสปอร์ตหมดอายุ ก็จะยากมากขึ้นกว่า การเดินทางออกนอกประเทศจึงเป็นคนที่มีกำลังซื้อ มีพาสปอร์ตอยู่แล้วในมือเป็นส่วนใหญ่  เทรนด์การเดินทางของนักท่องเที่ยวจีน จึงเป็นกลุ่มเอฟไอที หรือเดินทางมาเป็นกลุ่มเล็กๆ การเดินทางมาโดยกรุ๊ปทัวร์ใหญ่อย่างในอดีตแทบจะไม่มี

  • ปัญหากระแสด้านลบเรื่องความไม่ปลอดภัยในการเดินทางมาเที่ยวไทย

จากกรณีเกิดอาชญากรรมที่เกิดขึ้นกับคนจีน มีทั้งการหลอกลวง เรียกค่าไถ่ ฆาตกรรม จากคนจีนด้วยกันเองในไทย โดยเฉพาะหลังจากภาพยนตร์ No More Bets ที่กำลังเข้าฉายในจีนและได้รับความนิยมอย่างมาก โกยรายได้ไปแล้วกว่า 1.9 หมื่นล้านบาท ได้นำเสนอเรื่องที่นักเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ชาวจีน ถูกลักพาตัวขณะเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศอาเซียน (ในฉากคล้ายประเทศไทย) และถูกส่งไปเพื่อนบ้านไปประเทศที่ 3 (ฉากคล้าย พม่า กัมพูชา ) ถูกกักขังและบังคับให้ทำงานในแก๊งต้มตุ๋มหลอกลวงแก๊งคอลเซ็นเตอร์  ซึ่งภาพยนตร์อ้างอิงสร้างจากเรื่องจริง ทำให้เกิดการวิตก หวาดกลัวในการเดินทางมาไทย และอาเซียน และเหตุกราดยิงที่สยามพารากอน

รวมไปถึงโซเชียลทุกแพลตฟอร์มในจีน มีก็คอนเทนต์ และทำคลิปอย่ามาไทย ไม่ปลอดภัย จำนวนมาก บวกกับกระแสภาพยนตร์ดังกล่าว รวมถึงเฟกนิวส์ต่างเช่น เช่น นักท่องเที่ยวจีนถูกขโมยไตไปขาย หรือลูกลักพาตัวไปโดยแก็งคอลเซ็นเตอร์  ทำให้คลิปมีผู้เข้าชมสูงมาก ต่างแสดงความเห็นเชิงลบ หวาดกลัวที่จะมาไทย รวมถึงคอนเทนต์ข่าวการจับกุมทุนจีนสีเทา  จีนหลอกจีนในไทยมาเป็นกระแสทำคอนเทนต์

  • เที่ยวบินเส้นทางไทย-จีนไม่ฟื้น ทำตั๋วเครื่องบินแพง

จำนวนเที่ยวบินระหว่างไทย-จีนที่ยังไม่กลับมาฟื้นตัวเท่าเดิม ส่งผลให้ราคาตั๋วเครื่องบินมีราคาสูงขึ้นมาก และในช่วงตารางบินฤดูหนาวนี้ (ต.ค.66-สิ้นมี.ค.67) มีเที่ยวบินในเส้นทางบินจีน-ไทยอยู่ที่  3.5 ล้านที่นั่งเท่านั้น  คนจีนที่มีศักยภาพในการเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศ  จึงเลือกที่จะเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่นมากกว่า

เนื่องจากปลอดภัย ใกล้ และญี่ปุ่นมีมาตรการสนับสนุนงบเพื่อดึงสายการบินกลับไปเปิดให้บริการ ขณะที่ในส่วนของประเทศไทยททท.ไม่มีงบประมาณที่จะเข้าไปสนับสนุนให้สายการบินเพิ่มเที่ยวบินเข้าไทยได้ตามแผนที่วางไว้ เนื่องจากติดปัญหาเรื่องของงบประมาณประจำปี 2567 ที่ยังไม่สามารถใช้ได้

ล่าสุดจากข้อมูลของสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) หรือ CAAT พบว่าจากจำนวนผู้โดยสารที่น้อยลง ส่งผลให้ 10 สายการบินจีน ยกเลิกสล็อตเที่ยวบินมาไทย ธ.ค.-ม.ค. หายไปกว่า 39% จากเดิมแจ้งทำการบินมาไทย จำนวน 21,923 เที่ยวบิน พบว่ามีสายการบินยืนยันทำการบินเพียง 13,278 เที่ยวบิน หายไป 8,648 เที่ยวบิน หรือ 35%

อีกทั้งสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศจีน หรือ CAAC ก็มีการแจ้งภายในว่ารัฐบาลจีนมีนโยบายเพิ่มการเดินทางออกนอกประเทศของคนจีนหลังโควิดแบบค่อยเป็นค่อยไป ไม่ใช้ให้จีนอยากออกมาก็ออกมาได้เต็มที่ จากสถานการณ์เศรษฐกิจ และความไม่พร้อมของสายการบินด้วย

อย่างไรก็ตามด้วยปัญหาของเศรษฐกิจจีนที่เกิดขึ้น ทำให้คนชั้นกลางถึงล่างของจีนที่กระจายตัวอยู่ในเมืองต่างๆของจีน และเป็นกำลังหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้รับผลกระทบอย่างมาก  คนกลุ่มนี้ส่วนใหญ่มาเที่ยวไทยในลักษณะกรุ๊ปทัวร์จีน  ประกอบกับค่าตั๋วเครื่องบินและแพ็คเกจทัวร์ที่แพงขึ้น ทำให้นักท่องเที่ยวจีนกลุ่มนี้ไม่สามารถเดินทางมาเที่ยวไทยได้เหมือนในอดีต มาตรการวีซ่าฟรี จึงไม่สามารถหวังผลได้มากนักสำหรับนักท่องเที่ยวกรุ๊ปทัวร์

จำนวนนักท่องเที่ยวจีน หลังวีซ่าฟรี

นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่าปัจจุบันกระแสการเดินทางของนักท่องเที่ยวจีนอยู่ในระดับประมาณ 10,000 คนต่อวัน โดยคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 15,000 คนต่อวันได้ในช่วงปลายปีนี้ และก็มีความเป็นได้ว่า ททท.อาจนำเสนอให้รัฐบาลต่อมาตรการวีซ่าฟรีออกไปจนถึงสิ้นปี 2567 ขณะเดียวททท.จะผลักดันตลาดให้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยเน้นสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวจีน สร้างการรับรู้เกี่ยวกับความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยในการเดินทางมายังไทย

เปิด 4 เหตุผลจีนเที่ยวไทยพลาดเป้า วีซ่าฟรีไม่ช่วย กรุ๊ปทัวร์จีนไม่มา

โดยการส่งเสริมตลาดร่วมกับพันธมิตรที่มีศักยภาพ เพื่อเพิ่มโอกาสทางการตลาดทั้งในรูปแบบออนไลน์และออฟไลน์ มุ่งเน้นการทำตลาดกลุ่มนักท่องเที่ยวที่หลากหลาย รวมถึงใช้ Soft Power ไทยมาเป็นจุดขายในการส่งเสริมการท่องเที่ยว เน้นการเพิ่มการใช้จ่ายเฉลี่ย รวมถึงวันพักเฉลี่ยให้มากขึ้น ซึ่งจะสะท้อนให้เห็นความสามารถของไทยในการรองรับนักท่องเที่ยวกลุ่มคุณภาพ ผ่านการกระตุ้นตลาดของสำนักงานของททท. 5 แห่งในตลาดจีน ได้แก่ ปักกิ่ง,เซี่ยงไฮ้,กว่างโจว,เฉินตู และคุนหมิง

ทั้งนี้รัฐบาลจีนมีนโยบายเพื่อสอดรับการเติบโตด้านจำนวนและรายได้ของนักท่องเที่ยวจีน ทั้งการก่อสร้างท่าอากาศยานนานาชาติแห่งใหม่ การเปิดเดินรถไฟความเร็วสูง รวมทั้งการพัฒนาระบบคมนาคมอื่น ๆ ส่งผลให้เป็นโอกาสทางการท่องเที่ยวของไทยในการรองรับการเดินทางของนักท่องเที่ยวจีนเป็นอย่างมาก ไม่เพียงแต่การเดินทางโดยเครื่องบินเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงการเดินทางในรูปแบบรถยนต์คาราวานและการเดินทางโดยรถไฟความเร็วสูงอีกด้วย

ดังนั้น ททท. จะสามารถใช้โอกาสในการพัฒนาระบบคมนาคมนี้เพื่อส่งเสริมและกระตุ้นตลาดนักท่องเที่ยวจีนให้เดินทางมาไทยได้อย่างสะดวกมากยิ่งขึ้น และสามารถสร้างการรับรู้ให้กับนักท่องเที่ยวได้สัมผัสสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวใหม่ๆในไทยได้ซึ่งสอดคล้องกับพฤติกรรม นักท่องเที่ยวยุคนี้ที่ต้องการมุ่งประสบการณ์เป็นสำคัญ

อีกทั้งล่าสุดททท.ได้นำผู้ประกอบการไทยเข้าร่วมงาน China International Travel Mart หรือ CITM2023 ณ นครคุนหมิง ซึ่งเป็นงานส่งเสริมการขายที่ใหญ่ที่สุดของจีน เพื่อนำเสนอสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวใหม่ๆในไทยโดยภายในงาน CITM 2023 ททท.ยังได้ตกแต่งคูหาประเทศไทย โดยเน้นการประชาสัมพันธ์และสร้างรับรู้ประเทศไทยในรูปแบบศิลปวัฒนธรรมของภาคอีสาน สอดรับกับการเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการของรถไฟความเร็วสูงจากนครคุนหมิง มณฑลยูนนาน พร้อมใช้โอกาสนี้ผลักดันแคมเปญ 旅泰东北,越玩越开心 (โหยวไท่ ตงเป่ย เยว่หวาน เยว่ไคซิน)  เที่ยวอีสานของไทย ยิ่งไป ยิ่งสนุก

โดยจะเป็น new approach ใหม่ของไทย ซึ่งมีหลักการ ดังนี้ 1. New mode of arrival : เส้นทาง R3A/คาราวานรถยนต์/รถไฟความเร็วสูงจีน-ลาว 2. New Products: วัฒนธรรม ประเพณี ธรรมชาติ เส้นทางเลียบแม่น้ำโขง เส้นทางสายมู  3. New segment @new partners: กลุ่มวัยรุ่น/ผู้สูงอายุที่ชอบผจญภัย ชอบหาแหล่งเที่ยวใหม่ๆ มีเวลามาก และนักธุรกิจ เพื่อตอกย้ำถึงศักยภาพความพร้อมของไทยในการต้อนรับนักท่องเที่ยวและสร้างการรับรู้เกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ ๆ คือภาคอีสานของไทยให้กับนักท่องเที่ยวชาวจีนด้วย