ต้อม เสริมยนต์ พัฒนาแอป Future Bus รับธุรกิจท่องเที่ยว
เสริมยนต์กรุ๊ป หรือ ต้อม เสริมยนต์ เดินหน้าแผนตลาดครึ่งปีหลัง พัฒนาแอปพลิเคชัน Future Bus รองรับธุรกิจฟื้นตัว พร้อมวอนรัฐบาลหนุนธุรกิจรถบริการนักท่องเที่ยว
นายฉัตรชัย พิศาลจำเริญ กรรมการผู้จัดการ เสริมยนต์กรุ๊ป หรือ“ต้อม เสริมยนต์” ผู้ให้บริการรถโดยสารสำหรับนักท่องเที่ยว เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาเสริมยนต์กรุ๊ปได้เตรียมความพร้อมในการพัฒนาคุณภาพการให้บริการลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้พัฒนาแอปพลิเคชันชื่อ Future Bus
สำหรับแอปพลิเคชัน Future Bus เป็นแอปที่นักท่องเที่ยว รวมไปถึงบริษัททัวร์จากทั่วโลก สามารถใช้ ตรวจสอบราคาและจองรถจากเสริมยนต์กรุ๊ปได้ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวและบริษัททัวร์จากทั่วทุกมุมโลกมั่นใจได้ว่าจะมีรถให้บริการตลอดการเดินทางในประเทศไทยตั้งแต่มาถึงสนามบินจนกลับบ้าน
นายฉัตรชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากเตรียมความพร้อมด้วยการพัฒนาแอปพลิเคชันแล้ว เสริมยนต์กรุ๊ป ยังเตรียมพร้อมด้านการฟื้นฟูรถบัสทุกคันของเสริมยนต์ที่มีจำนวนมากถึง 160 คัน ให้พร้อมรับนักท่องเที่ยวที่กำลังจะกลับมาท่องเที่ยวในประเทศไทย
“การพัฒนาแอปพลิเคชันในครั้งนี้ เพราะเวลาเรานึกถึงการเดินทางด้วยรถที่แชร์ร่วมกัน เราจะนึกถึงอูเบอร์ ผมอยากให้บริการของเราเป็นแบบนั้นที่ลูกค้าสามารถจองรถกับเราได้จากที่ไหนบนโลกใบนี้และลูกค้าจะมั่นใจในบริการของเราได้อย่างแน่นอนเพราะรถบัสทุกคันของผมนั้น คุณภาพมาตรฐานระดับโลกเพราะผมใช้วอลโว่ บัส ทั้งฟลีท”
สำหรับเสริมยนต์กรุ๊ป ใช้รถยนต์แบรนด์วอลโว่ บัส ซึ่งรถทุกคันได้ผ่านการทดสอบมาตรฐานความปลอดภัย โดยเฉพาะการทดสอบการลาดเอียง อีกทั้งคุณภาพการประกอบตัวถังรถที่ได้รับการรับรองมาตรฐานจากทีมวิศวกรของ วอลโว่ บัส เรื่องความปลอดภัย
นายฉัตรชัย กล่าวว่า ในส่วนของผลประกอบการของเสริมยนต์กรุ๊ป ในปีนี้จะยังไม่เติบโตมากนัก คาดว่าจะเติบโตเพียง 10 – 15% ซึ่งหากรัฐบาลให้ความช่วยเหลือกับธุรกิจนี้ มั่นใจว่าอัตราการเติบโตจะต้องดีกว่านี้อย่างแน่นอน
"หลังจากรัฐผ่อนคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดโควิด 19 และการอ่อนตัวของค่าเงินบาท ทำให้ธุรกิจท่องเที่ยวมีความหวังที่จะกลับมาคึกคักอย่างแน่นอน ซึ่งธุรกิจรถบริการนักท่องเที่ยวถือเป็นส่วนหนึ่งที่มีความสำคัญต่อการอำนวยความสะดวกและสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย อย่างไรก็ตามอยากฝากไปถึงภาครัฐว่าธุรกิจผู้ให้บริการรถนักท่องเที่ยวไม่เคยได้รับการเหลียวแลจากรัฐบาลเลยแม้แต่น้อย ทั้ง ๆ ที่เป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งของภาคการท่องเที่ยว แต่ช่วงโควิด พวกเราต้องจอดรถทิ้งไว้ พนักงานขับรถและพนักงานต้อนรับส่วนใหญ่ต้องกลับบ้านเพื่อหาอาชีพเสริมดูแลครอบครัว แต่พร้อมที่จะกลับมาทำงานทันทีที่นักท่องเที่ยวกลับมา เราไม่เคยได้รับการช่วยเหลืออะไรเลยจากรัฐบาล”
นายฉัตรชัย กล่าวว่าการจะทำให้รถบริการนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะรถบัสกลับมาพร้อมให้บริการนักท่องเที่ยวภายหลังจากที่จอดทิ้งไว้นานหลายปี จะต้องฟื้นฟูสภาพรถให้สมบูรณ์พร้อมกลับมาเดินรถต่อได้นั้น จะต้องใช้งบประมาณสูงถึง 180,000 บาทต่อคัน ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐบาลไม่เคยรับรู้และไม่มีนโยบายใด ๆ ออกมาสนับสนุนธุรกิจรถบริการนักท่องเที่ยว