ปี 69 เศรษฐกิจไทยยังท้าทาย โบรกชูหุ้นแบงก์-ท่องเที่ยว-ค้าปลีก ติดโผน่าลงทุน
โบรกประเมินปี 69 เศรษฐกิจไทยโตต่ำ 1.5% การเมืองกดดันจิตวิทยาการลงทุน ชูแบงก์–ท่องเที่ยว–ค้าปลีก หุ้นเด่น SCB–CENTEL–MINT–CPALL
KEY
POINTS
- เศรษฐกิจไทยปี 2569 คาดว่าจะเติบโตในระดับต่ำเพียง 1.5-2% เนื่องจากเผชิญความท้าทายหลายด้าน ทั้งความเสี่ยงทางการเมือง หนี้ครัวเรือนสูง และการส่งออกที่อาจทรงตัว
- ภาคการท่องเที่ยวเป็นเครื่องยนต์หลักและความหวังเดียวในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการกลับมาของนักท่องเที่ยวจีน
- โบรกเกอร์แนะนำลงทุนในหุ้น 3 กลุ่มเด่น ได้แก่ กลุ่มธนาคาร (SCB) ที่ให้ปันผลสูง, กลุ่มท่องเที่ยว (CENTEL, MINT) ที่คาดว่ากำไรจะเติบโตดี และกลุ่มค้าปลีก (CPALL) ที่ได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยว
จากประเด็นที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ประกาศยุบสภา ต่อมาราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่พระราชกฤษฎีกาช่วงเช้ามืดของวันที่ 12 ธ.ค. ที่ผ่านมา ส่งแรงสั่นสะเทือนต่อระบบเศรษฐกิจไทยในหลายมิติ ตั้งแต่โครงสร้างภายในประเทศไปจนถึงความเสี่ยงด้านการค้าระหว่างประเทศ
และหากการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ล่าช้าก็อาจฉุดการขยายตัวเศรษฐกิจปี 2569 ให้เติบโตแบบชะลอตัวลงในระดับต่ำ 1.5% ในแง่ของการลงทุนในตลาดทุนไทยก็อาจมีผลต่อความเชื่อมั่นและความสนใจในการลงทุนที่ลดน้อยลง จากปกติก็เบาบางมากอยู่แล้ว
นายวทัญ จิตต์สมนึก ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยกับ 'ฐานเศรษฐกิจ' ว่า ด้วยความที่เศรษฐกิจไทยเผชิญหลากหลายความท้าทายทั้งการส่งออกที่อาจทรงตัว จากฐานสูงในปี 2568 ภาระหนี้ครัวเรือนที่สูงกดดันการใช้จ่าย
ขณะที่การท่องเที่ยวเป็นเครื่องยนต์เดียวที่มีความคาดหวังโดยเฉพาะจากนักท่องเที่ยวจีน หลังจากทางการจีนขอความร่วมมือประชาชนจีนในการเดินทางไปญี่ปุ่น แต่โดยรวมแล้วธนาคารแห่งประเทศไทยก็คาดการณ์เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวระดับต่ำเพียง 1.5-2% (จากในอดีตที่เคยขยายตัวได้ 3-4%)
ส่วนการเลือกตั้งในช่วงต้นเดือน ก.พ. 2569 มองเป็นเพียงจิตวิทยาเชิงบวกต่อการลงทุนมากกว่าจะเปลี่ยนปัจจัยพื้นฐาน อาจมีกระแส Election Rally ระยะสั้นๆ ก่อนการเลือกตั้งและหลังเลือกตั้งราว 1-2 สัปดาห์ สถิติชี้ตลาดหุ้นมักปรับขึ้น แต่หลังจากนั้นก็กลับเข้าสู่ปัจจัยพื้นฐาน ช่วงเลือกตั้งกลุ่มค้าปลีกจะเป็นกลุ่มที่ให้ผลตอบแทนดี
หุ้นเด่นน่าเก็บปี 69
สำหรับการลงทุนหุ้นที่น่าสนใจในปี 2569 นั้น ทางฝ่ายเลือก SCB เป็นหุ้นที่น่าสนใจ แม้ผลประกอบการไม่ได้โดดเด่น คาดการณ์กำไรจะลดลงจากปี 2568 ราว 2.4% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อน
แต่จุดเด่นอยู่ที่เงินปันผล (เฉลี่ย Dividend Yield 8.5%) พร้อมกับ PBV ในช่วง 0.9 เท่า (ยังไม่แพงมาก) ส่วนปัจจัยการซื้อหนี้คืนของภาครัฐไม่มีผลอย่างมีนัยยะสำคัญ เพราะเป็นมูลค่าที่ค่อนข้างเล็กน้อยตั้งเป้าไม่เกิน 1 แสนบาท/ราย
ถัดมามองไปยังกลุ่มท่องเที่ยว จากความคาดหวังนักท่องเที่ยวจะทยอยกลับมา เลือก CENTEL และ MINT เป็นหุ้นเด่นในกลุ่มท่องเที่ยว ทั้ง 2 หุ้นคาดการณ์กำไรจะขยายตัว 17% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อน และ 16% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อน ตามลำดับ
ขณะที่หุ้นกลุ่มค้าปลีก ทางฝ่ายเลือก CPALL เป็นหุ้นเด่น เนื่องจากได้ประโยชน์จากการท่องเที่ยวที่คาดการณ์ว่าจะขยายตัวในปี 2569 ประกอบกับแผนการขยายสาขาของ CPALL ที่ยังมีต่อเนื่อง และราคาหุ้นไม่แพง