ยักษ์ค้าปลีกอัดอีเวนต์ สาดงบกว่า 2 พันล้าน ชิงกำลังซื้อโค้งท้ายปี

12 ธ.ค. 2568 | 04:45 น.
อัปเดตล่าสุด :12 ธ.ค. 2568 | 04:50 น.

ยักษ์ค้าปลีก “เซ็นทรัล-เดอะมอลล์-สยามพารากอน-ไอคอนสยาม” สาดงบกว่า 2,000 ล้าน อัดแคมเปญใหญ่ปลายปี ชิงกำลังซื้อไฮซีซั่น ดันค้าปลีก-ท่องเที่ยวคึกคักสุดรอบปี “พาณิชย์” แจกของขวัญปีใหม่ 2569ลดต้นทุนลดค่าครองชีพ

KEY

POINTS

  • กลุ่มธุรกิจค้าปลีกทุ่มงบประมาณรวมกว่า 2,000 ล้านบาท จัดอีเวนต์และแคมเปญใหญ่เพื่อกระตุ้นกำลังซื้อในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี
  • กลยุทธ์การแข่งขันเปลี่ยนจากการเน้นโปรโมชั่นลดราคา เป็นการสร้างประสบการณ์และความสุขให้ลูกค้าผ่านธีมงานและการตกแต่งที่ยิ่งใหญ่
  • แต่ละค่ายต่างชูไฮไลต์ดึงดูดลูกค้า เช่น เซ็นทรัลร่วมมือกับดิสนีย์, เดอะมอลล์ กรุ๊ปใช้คาแรคเตอร์มอนชิชิจากญี่ปุ่น และไอคอนสยามจัดงานเคานต์ดาวน์ระดับโลก

ไตรมาสสุดท้ายของปีเป็น “สนามแข่งขันไฮซีซั่น” ที่ทุกศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้าต้องเร่งงัดหมัดเด็ดเพื่อดึงผู้คนเข้ามาใช้เวลา ใช้จ่าย และร่วมกิจกรรมท่ามกลางอีเวนต์เฉลิมฉลองที่จัดแต่งขึ้นอย่างอลังการทั่วทั้งเมือง ความเคลื่อนไหวในปี 2568 ยิ่งเห็นชัดว่าอุตสาหกรรมค้าปลีกไทยกลับมาฟื้นตัวอย่างเต็มแรง

ผู้ประกอบการแต่ละรายต่างเปิดตัวแคมเปญขนาดใหญ่ เน้นประสบการณ์และธีมงานเป็นหัวใจสำคัญ มากกว่าการเน้นส่วนลดหรือโปรโมชั่นเหมือนในอดีต ภาพรวมจึงเป็นการแข่งขันกันสร้าง “อีโคซิสเท็มแห่งความสุข” ที่ไม่เพียงกระตุ้นยอดขาย แต่ยังช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจเมืองและการท่องเที่ยวปลายปีไปพร้อมกัน

ดร.ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา กรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา กล่าวว่า บริษัทตอกย้ำบทบาทในฐานะผู้พัฒนาศูนย์การค้าที่ครอบคลุมทั่วประเทศมากที่สุด ด้วยการเปิดตัวแคมเปญใหญ่สองชุดที่สะท้อนทิศทางใหม่ของตลาดค้าปลีกไทยอย่างชัดเจน

ภายใต้แนวคิด “Family & Fun Destination” ที่ตอบโจทย์ทั้งครอบครัว คนรุ่นใหม่ และนักท่องเที่ยวต่างชาติ อีเวนต์ชุดแรกในชื่อ Infinite Fun & Play คือความร่วมมือกับ Playland Attraction ระดับโลก ซึ่งถูกดีไซน์ให้ดึงดูดคนรุ่นใหม่และกลุ่มครอบครัวให้ใช้เวลาภายในศูนย์การค้ามากขึ้น

อีกแคมเปญเซ็นทรัลพัฒนาร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และ เดอะ วอลท์ ดิสนีย์ ประเทศไทย ทุ่มงบกว่า 800 ล้านบาท สร้างปรากฏการณ์แห่งความสุขระดับโลกส่งท้ายปีในแคมเปญ “The Magical Stars” เนรมิต 4 อาณาจักรเทพนิยายธีมดิสนีย์ ได้แก่ ต้นคริสต์มาสอัตลักษณ์ และ “มิคกี้และมินนี่” สูง 3 เมตร ในชุดผ้าไทย, Disney The Magical Stars 2026 at centralwOrld, Magic Town ธีมมิคกี้ เมาส์ และ

ยักษ์ค้าปลีกอัดอีเวนต์ สาดงบกว่า 2 พันล้าน ชิงกำลังซื้อโค้งท้ายปี

Magic Castle ธีมปราสาทเจ้าหญิงดิสนีย์ เพื่อร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวไทยช่วงปลายปี ผ่านแนวคิด Festival Economy ปลุกบรรยากาศท่องเที่ยวให้คึกคัก เชื่อมโยงความสุขจากศูนย์การค้าเซ็นทรัลทั่วประเทศ โดยในไตรมาสสุดท้ายนี้ เชื่อว่าจะกระตุ้นให้ลูกค้าเข้ามาใช้บริการในศูนย์เพิ่มขึ้นกว่า 25-30% ทั่วประเทศ

ด้านนางสาวรวิศรา จิราธิวัฒน์ ประธานบริหารฝ่ายการตลาดกลุ่มห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ในเครือเซ็นทรัล รีเทล กล่าวว่า ไตรมาส 4 นี้ เป็นช่วงที่ลูกค้ากำลังมองหาของขวัญในช่วงเทศกาลแห่งความสุขปลายปี ทำให้ห้างต้องเตรียมพร้อมให้เป็นเดสติเนชั่นแห่งการช้อป พร้อมความพิเศษกับ 2 แคมเปญได้แก่ Central Black Midnight Sale ชูแนวคิด The Season of Giving… to Yourself จากข้อมูลของห้างพบว่า

ยักษ์ค้าปลีกอัดอีเวนต์ สาดงบกว่า 2 พันล้าน ชิงกำลังซื้อโค้งท้ายปี

ในปีนี้กลุ่ม Gen Z คือผู้บริโภคที่มียอดจับจ่ายสูงที่สุด โดยมีสัดส่วนการเติบโตใกล้เคียงกับ 100% สะท้อนพฤติกรรมของคนรุ่นใหม่ที่ยินดีซื้อของให้ตัวเองในช่วงเทศกาลมากขึ้น ในขณะเดียวกัน กลุ่มคนทำงานช่วงวัย 25–40 ปีและกลุ่มครอบครัวก็ยังคงเป็นกำลังซื้อสำคัญที่ทำให้บรรยากาศภายในห้างคึกคักตลอดทั้งวัน โดยเฉพาะในช่วงเย็นและวันหยุดสุดสัปดาห์

ส่วนงานใหญ่อีกชุดอย่าง Central Season of Giving 2026 ถูกจัดขึ้นที่สาขาชิดลมซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเทศกาลคริสต์มาสในกรุงเทพฯ ปีนี้ต้นคริสต์มาสสามชั้นที่มีรถไฟลอดผ่านกลายเป็นจุดดึงดูดผู้คนอย่างมหาศาล สร้างปรากฏการณ์การถ่ายภาพและแชร์ลงโซเชียลมีเดียต่อเนื่อง โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากเอเชียตะวันออก นอกจากนี้ กิจกรรมเฉลิมฉลองในสาขาต่าง ๆ รวมถึง Santa Meet & Greet และเวิร์กช็อปครอบครัว ยังเป็นกลไกสำคัญที่ช่วยเพิ่มช่วงเวลาการใช้ชีวิตในศูนย์การค้า ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญต่อยอดขายไตรมาส 4 ของเครือเซ็นทรัล

อีกฟากหนึ่งของตลาด เดอะมอลล์ กรุ๊ป เลือกใช้กลยุทธ์ “Soft Power ญี่ปุ่น” เป็นตัวนำในปีนี้ โดยนางสาววรลักษณ์ ตุลาภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มการตลาด บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า ในไตรมาส 4 ถือเป็นช่วงไฮซีซันของธุรกิจค้าปลีก ที่พร้อมจัดกิจกรรมเพื่อกระตุ้นกำลังซื้อ ล่าสุดบริษัททุ่มงบ 500 ล้านบาท ในการจัดแคมเปญใหม่

โดยจับมือกับคาแรคเตอร์ดังจากญี่ปุ่น “มอนชิชิ” (Monchhichi) มาเป็นไฮไลท์ครั้งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วยการร่วมมือกับคาแรกเตอร์ระดับโลกอย่าง Monchhichi เพื่อสร้างประสบการณ์เฉลิมฉลองแห่งปีใหม่ภายใต้ชื่อ Monchhichi x The Mall Group The Great New Year 2026 แคมเปญนี้โดดเด่นทั้งด้านศิลปะและความพิเศษของสินค้า

ยักษ์ค้าปลีกอัดอีเวนต์ สาดงบกว่า 2 พันล้าน ชิงกำลังซื้อโค้งท้ายปี

โดยมีการออกคอลเล็กชันสุดเอ็กซ์คลูซีฟที่ออกแบบมาเฉพาะประเทศไทย รวมถึง Monchhichi Thai Thai Collection และป๊อปอัพสโตร์ขนาดใหญ่ที่ดึงแฟนคลับจากทั้งไทยและต่างชาติให้เข้ามาเยี่ยมชมตลอดเทศกาล

อีกทั้ง Monchhichi Christmas Town Experience ที่เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ บางกะปิ ยังเป็นไฮไลต์สำคัญที่ช่วยเพิ่มทราฟฟิกในย่านกรุงเทพฯ ตะวันออกอย่างมีนัยสำคัญ งบลงทุนกว่า 500 ล้านบาทในปีนี้แสดงให้เห็นชัดว่าเดอะมอลล์ตั้งใจให้ปลายปีเป็นช่วงบูมทั้งด้านยอดขายและภาพลักษณ์ของศูนย์การค้าในเครือ

ขณะที่เอ็ม ดิสทริคเอง ประกาศทุ่มงบกว่า 200 ล้านบาทจัดงานเฉลิมฉลองครบรอบ 2 ปีควบคู่ไปกับเทศกาลปลายปีภายใต้ธีม Unstoppable Happiness-Unmissable Rewards และ EM District Winter Wonderland ศูนย์การค้าทั้งสามแห่ง ได้แก่ เอ็มโพเรียม เอ็มควอเทียร์ และเอ็มสเฟียร์ ถูกออกแบบให้กลายเป็นดินแดนแห่งงานฉลองระดับโลก ต้นคริสต์มาสสูงกว่า 20 เมตร การแสดงจากศิลปินชื่อดัง

รวมถึงโปรดักชันโชว์ระดับเวิลด์คลาส กลายเป็นแรงดึงดูดที่สำคัญต่อทั้งคนเมือง นักท่องเที่ยว และโดยเฉพาะกลุ่มผู้บริโภคที่มองหาประสบการณ์หรูระดับสากล อีกทั้งการเปิดร้านแฟลกชิปแบรนด์เนมใหม่ ๆ ยังช่วยเสริมสถานะของย่านสุขุมวิทให้เป็น “ศูนย์กลางลักชัวรีและบันเทิงระดับภูมิภาค” โดยมีเป้าหมายดึงผู้คนมากกว่า 200,000 คนต่อวันในช่วงเทศกาล

ฟากกลุ่มสยามพิวรรธน์ยังเดินหน้าเชื่อมโซนการค้ากลางเมืองภายใต้แคมเปญ The Magical Celebration 2025 ซึ่งครอบคลุมทั้งสยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ และเชื่อมโยงไปถึงพันธมิตรในเครืออย่าง ICONSIAM ทำให้พื้นที่สยามกลับมามีบทบาทเป็น “มหานครแห่งเทศกาล” ที่สามารถดึงเม็ดเงินจากทั้งคนไทยและนักท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง การใช้ ONE SIAM Global Visitor Card ยังเป็นเครื่องมือสำคัญที่ทำให้ผู้บริโภคต่างชาติใช้จ่ายเพิ่มขึ้นและกระจายไปยังร้านค้าต่าง ๆ ภายในศูนย์โดยตรง

ในส่วนของไอคอนสยาม เตรียมเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นด้วยความพร้อมเต็มที่สำหรับการจัดงาน Amazing Thailand Countdown 2026 ซึ่งจะจัดขึ้นตลอดช่วง 27–31 ธันวาคม จุดเด่นอยู่ที่การนำเสนอเคานต์ดาวน์ระดับโลก ทั้งคอนเสิร์ตริมแม่น้ำ การแสดงพลุปลอดควันตลอดแนวแม่น้ำยาวกว่า 1.4 กิโลเมตร

และการแสดง Sky Show และ Drone Show ผนวกเข้ากับระบบนิเวศของ ONESIAM Coins และกิจกรรมสะสมบิลเพื่อเข้าชมพื้นที่พิเศษ ทำให้งานเคานต์ดาวน์ริมแม่น้ำเจ้าพระยากลายเป็นหนึ่งในจุดหมายสำคัญของนักท่องเที่ยวที่วางแผนมาเยือนไทยในช่วงปลายปี

เมื่อพิจารณาภาพรวมทั้งหมด การแข่งขันในตลาดค้าปลีกปลายปี 2568 ไม่ได้อยู่ที่ “โปรโมชั่น” อย่างที่เคยเป็นในอดีต หากแต่เป็นการช่วงชิง “เวลาและประสบการณ์” ของผู้คนผ่านธีมงาน การตกแต่ง และอีเวนต์ระดับนานาชาติ การขับเคลื่อนแบบนี้ไม่เพียงทำให้ศูนย์การค้าคึกคัก แต่ยังเป็นพลังสำคัญที่กระตุ้นธุรกิจท่องเที่ยว โรงแรม และบริการต่าง ๆ รอบเมือง การเคานต์ดาวน์สู่ปี 2026 จึงไม่ใช่เพียงกิจกรรมเฉลิมฉลอง แต่เป็นการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ