KEY
POINTS
นางสาววรินทร์ ทินประภา Chief Growth Officer บริษัท มีเดียอินเทลลิเจนซ์กรุ๊ป จำกัด หรือ MI Group เปิดเผยผลการศึกษาของ MI LEARN LAB ภายใต้หัวข้อ “เปิดเลนส์ สองเจน สองขุมพลัง” โดยชี้ว่า การเติบโตอย่างยั่งยืนของแบรนด์ไทยในยุคปัจจุบัน จำเป็นต้องเข้าใจสองเจเนอเรชันที่มีบทบาทและอิทธิพลทางเศรษฐกิจสูงอย่างยิ่ง ได้แก่ Gen Z และ Gen Horizon/Gen X
โครงสร้างประชากรไทยรวม 64.9 ล้านคน ถูกขับเคลื่อนด้วยกลุ่มกำลังซื้อหลักสองกลุ่มนี้ โดย Gen Z (อายุ 13-28 ปี) ถูกนิยามให้เป็น "Early Force" และ "Trend Setter" ผู้กำหนดทิศทางการบริโภคใหม่ ด้วยมูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 2.6 ล้านล้านบาท
ขณะที่ Gen Horizon/Gen X (อายุ 45-60 ปี) ถูกนิยามให้เป็น "Future Force" และ "Main Spender" ผู้มีกำลังซื้อตัวจริง ด้วยมูลค่าทางเศรษฐกิจสูงกว่า 5 ล้านล้านบาท
นายณัฐพันธุ์ ไพรัชวรรณ Strategic Planning Manager, MI GROUP กล่าวว่า Gen Z กำลังจะกลายเป็น "กำลังซื้อหลัก" ในอีก 5-7 ปีข้างหน้า โดยนักการตลาดต้องเข้าใจพวกเขาผ่านกรอบแนวคิด 3 ระดับ คือ ชั้นนอก (Outer), ชั้นใน (Inner) และแก่นแท้ (Individual Core)
1. Outer Shell: พฤติกรรมตามช่วงชีวิต
พฤติกรรมและการตัดสินใจซื้อของ Gen Z ขึ้นอยู่กับ "Moment of Life" มากกว่าแค่ช่วงอายุ
2. Inner Shell: การบริโภคคือการแสดงตัวตน
Gen Z มี Spending Priority สูงในหมวด ความงาม/ดูแลตัวเอง เสื้อผ้า/แฟชั่น และความบันเทิง การใช้จ่ายเหล่านี้ไม่ใช่แค่สิ่งจำเป็น แต่คือ "การสะท้อนตัวตน" และ "คุณค่าชีวิตในแบบของตัวเอง" ไม่ได้ขับเคลื่อนด้วยราคา แต่ด้วย คุณค่าทางอารมณ์
3. Individual Core: The 4 Cares of Gen Z
Gen Z ให้ความสำคัญกับ "การแคร์ตัวเอง" ซึ่งไม่ใช่ความเห็นแก่ตัว แต่เป็นการให้คุณค่ากับสุขภาพจิตและภาพลักษณ์อย่างแท้จริง
นายพศธร สุขอัมพร New Business Development Director, MI GROUP เผยว่า Gen Horizon (45-59 ปี) คือเจเนอเรชันที่อยู่กึ่งกลางระหว่างความรับผิดชอบและการเริ่มต้นใหม่ พวกเขามีรายได้และทรัพย์สินสูงกว่ากลุ่มอื่น แต่มีโจทย์ความท้าทายที่นักการตลาดต้องตอบสนอง
MI Group สรุปว่า การทำตลาดในยุคนี้ไม่ใช่การเลือกแค่กลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง แต่ต้องสร้างกลยุทธ์ที่สามารถเชื่อมโยงพลังการจับจ่ายทั้งสองกลุ่มได้อย่างมีประสิทธิภาพ