GEN Z เตือนว่า “อย่าเยอะ!” ฉากที่ 9

03 ต.ค. 2568 | 23:30 น.

GEN Z เตือนว่า “อย่าเยอะ!” ฉากที่ 9 : คอลัมน์เปิดมุกปลุกหมอง โดย...ดร.สุรวงศ์ วัฒนกูล หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 4137

KEY

POINTS

  • บทความอธิบายความหมายของคำว่า “อย่าเยอะ” ผ่านเรื่องตลกและเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยในสถานการณ์ต่างๆ
  • เปรียบเทียบการสื่อสารที่ “เยอะ” เกินพอดีของพนักงานขายรถซึ่งสร้างผลเสีย กับการใช้มุกตลกอย่างมีเป้าหมายของนักพูดการเมือง
  • สรุปนิยามของคำว่า “เยอะ” ว่าไม่ได้หมายถึงปริมาณที่มากมายเสมอไป แต่คือ การกระทำที่เกินพอดีหรือเกินความจำเป็น

มุกนี้เป็นไอเดียของนักเล่าเรื่องจาก ประเทศไฉหน้า เขาเล่าตามใจชอบว่า อิสตรีท่านหนึ่ง เดินอกผายไหล่ผึ่ง บุคลิกอาจจะขัดกันนิดนึงตรงที่ชุดแต่งกายคล้ายๆ กับเสื้อมือสอง เธอเข้าไปในโชว์รูมซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายของ Acura เธอเดินดูรอบๆ เจอ NSX รุ่นท็อปสุด 

พนักงานขายที่ยืนอยู่ข้างหลังเขาเป็น ลูกโทน ของ เจ้าสัว มีสีหน้าเย็นชาน่าปวดหัวราวกับแตงกวากำลังหมั่นไส้มะเขือเทศ วางฟอร์มเป็นมืออาชีพแบบสุดลิ่ม เขาปริปากถามว่า “คุณผู้หญิง มีอะไรให้เราช่วยไหมล่ะ” อิสตรีท่านนั้นรู้สึกอึดอัดแต่ก็ทำใจว่า พนักงานขายคงจะพุดคุยแบบเป็นกันเองจนเคยชิน เธอจึงถามว่า “รถสวยงามคันนี้ ราคาเท่าไหร่คะ” นักขายสไตล์แอ๊คตอบเหมือนกับเพิ่งหลุดออกมาจากหม้อถ่วงน้ำว่า “รถคันนี้อ่ะนะ แค่แตะก็ใจหดตดสนั่นแล้ว ถ้าผมบอกราคา คุณจะขี้แตกแน่นอน” (ฮา) 

พนักงานร้านค้าในถิ่นใดที่มีชื่อว่า บุกคน นามสกุล บนคุก มีแววว่าสักวันหนึ่งอาจจะเจอเปลวเพลิง ขอบอกว่า เวลาไปให้การกับตำรวจ ไม่ต้องโยนเผือกร้อนว่าไฟไหม้ เพราะว่าไฟฟ้าลัดวงจรให้มันเสียเวลา บอกเจ้าหน้าที่แล้วชี้ปากกันไปเลยว่า ต้นเพลิงส่วนใหญ่เกิดจาก “ปากตะไล” ของ “บุกคน บนคุ

พูดถึงเรื่องนี้มันก็สว่างวาบเข้ามาในความทรงจำ ลองนึกดูตามรอยของ  Maung Thura อ่านว่า “หม่องตุรา” คำว่า “ตุรา” ในภาษาไทย หมายถึง “ราศีตุลซึ่งเป็นกลุ่มดาวรูปคันชั่ง” ความหมายสอดคล้องกับนิสัย เขาเป็น “ผู้นำความคิดในด้านการเมือง” แม้แต่ในเรือนจำเขายังอุตส่าห์โทรไปถามกับ โอเปอเรเตอร์ ว่า “ค่าโทรศัพท์ไป ลอนดอน กับ นรก ราคาต่างกันเท่าไหร่” พนักงานในเรือนจำเขาก็ขำว่า ไอ้หมอนี่อารมณ์ดีตลอด เขาก็บอกว่า “ค่าบริการในนรกถูกกว่าเยอะ การโทรติดต่อนรกถือว่าเป็นการโทรภายในประเทศ" (ฮา) 

แฟนคลับ ของ หม่องตุรา ถึงบางอ้อ กับ คำว่า “ตุรา” คำนี้ กูรู แปลว่า “ผู้ทรงความเร็ว” ขอคาดคะเนว่า คิดปุ๊บ ทำปั๊บ โดนจับเป๊ะ เช่นนั้นหรือเปล่า น่าทึ่งตรงที่เขาไม่หวั่นไหว ท่านปรมาจารย์ วรากรณ์ สามโกเศศ ม.ธุรกิจบัณฑิตย์ เคยเล่าแล้วว่า หม่องตุรา เขามีคำขวัญยืนยันไว้ชัดเจน คือ “ถ้าผมทำหน้าที่หมอฟัน ผมเปิดได้ทีละปาก ถ้าผมเล่าเรื่องตลก ผมจะเปิดปากแนวร่วมได้พร้อมๆ กันมากมายจากหลายมุมเมือง” (ฮา)

ข้อสำคัญในการเทียบเคียง อย่าคิดเพียงแค่ “อ้างอิง” ว่า “การหยอกลูกค้าเป็นเรื่องธรรมดา ถือสาอะไรนักหนา” ถ้าจะสรุปว่าพูดแบบนี้ไม่มีอะไรในกอไผ่ ระวังเอาไว้ว่า “อ้างอิง” จะพลิกเป็น “อ้างเอ๋ง” อวดเก่งจึงมองข้ามรั้วไม่ได้ใช้หัวก็ไม่มองข้ามช็อต ระวังจะไม่รอดเพราะ อ่านไม่ขาด 

ความแตกต่าง ระหว่าง หม่องตุรา กับ ทายาทเจ้าสัวขายรถ กระดูกมันคนละชั้น เขาพูดฝ่าฟันเพื่อแตะเบรคการเมืองแต่เพียงลำพัง จะเป็นจะตายก็ช่าง เพราะเขาไม่มีอะไรจะเสีย สำหรับนักขายพูดสไตล์กวนจิต จนลูกค้ารู้สึกเพลียใจ เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น โชว์รูม จะเสียขวัญ ออนไลน์จะรุมถล่มเป็นว่าเล่น นักธุรกิจคิดจะโดดเด่นต้องท่องคำขวัญ “หากินอย่าหาเรื่อง” (ฮา)

ยังมีคนอีกมากมายที่ไม่เข้าใจ “มุกคลาสสิก” เขาคิดมุกขลุกขลิกเสริมความหรรษาให้ครอบครัวผาสุกจึงคิด “พล็อต” คือ “โครงเรื่อง” หรือ “ลำดับเหตุการณ์ที่เชื่อมโยงอย่างมีเหตุผล” ทำนองคลายคลึงกับการแสดงละคอนเวที หวังจะชักชวนให้ผู้คนหันมาสร้างบรรยากาศผ่อนคลายในครอบครัวจะได้ไม่ “ปะทุวาทะ”

รำพึงแล้วก็ต้องขอถนอมความตามท้องเรื่อง ละคอนสั้นฉากนี้เกิดขึ้นในเมืองของ นักปราชญ์ ชนชาติโปแลนด์ คนที่กล้าเอามาล้อเลียน คงลืมไปว่า โปแลนด์ เป็นแดนแผ่นดินของถิ่นซูเปอร์กูรู ผมเชิดชูว่าเขาแหวกแนวดูดีมีนัยสำคัญ มีสีสันผสมผสานอยู่ในเนื้อหา เขาจึงสร้างเรื่องสะท้อนความเป็นไปในโลกของครอบครัวหัวแหลม

                                  GEN Z เตือนว่า “อย่าเยอะ!” ฉากที่  9

พ่อรับบท เป็น นายช่าง ทำหน้าที่จับหลอดไฟไม่ให้หลบหนี ไม่งั้นพิธีวิวาห์ ระหว่าง หลอดไฟ กับ ขั้วของโคมไฟ มันจะหลุดร่วง เกลียวทั้งสองฝ่ายมันจะเข้ากันไม่สนิท ลูกสองคนจึงช่วยกันหมุนตัวพ่อสุดชีวิตตั้งหลายรอบ ไม่งั้นองค์ประกอบมันจะหลุด ขั้วของโคมไฟ จะกลายเป็นแม่ม่าย (ฮา)

อันที่จริงถ้าจะว่ากันตามเนื้อผ้า ผมก็ไม่ควรจะเสริมแต่งอะไรเลย ดูฟุตบอลเป็นตัวอย่าง ล้ำเส้นไปแค่เซ็นเดียวก็โดนม็อบนกหวีดฉับพลัน เหตุที่ผมถือวิสาสะ เพราะว่าเนื้อหาของมุกนี้มีถ้อยคำอยู่ไม่กี่วรรค ผมเสริมลงไปบ้างเพื่อเพิ่มรสชาติ

วรรคที่ผมขอสอดแนมแจมกันเล็กน้อย คือ ไม่ให้หลอดไฟหลบหนี ไม่งั้นพิธีวิวาห์ และ ขั้วของโคมไฟ จะกลายเป็นแม่ม่าย เพียงแค่แต่งองค์ทรงเครื่องติ๊ดนึง ถ้าจะลากผมขึ้นศาล ก็คงจะโดนแค่รอลงอาญา ข้อหา มีมารยาทแต่ไม่เอาออกมาใช้ (ฮา) ผมไม่โดนจับเข้าห้องขัง เนื่องจาก ผมไม่ได้มุ่งหมายค่อนขอดเหน็บแนมเหมือนอย่างที่เขาเอาไปแซะกันนัว

อย่างเช่น

ต้องใช้วิศวกรกี่คนในการเปลี่ยนหลอดไฟหนึ่งดวง?

จะกระแซะว่า วิศวกร สร้างภาพ! ใช่ป่ะ

พ่อครัวในครัวต้องใช้กี่คนเปลี่ยนหลอดไฟ?

จะกล่าวหาว่า พ่อครัว ขี้เกียจ! รึไง

ต้องใช้ศาสตราจารย์กี่คนถึงจะเปลี่ยนหลอดไฟได้?

จะแดกดันว่า ศาสตราจารย์ เรื่องมาก! ล่ะซิ 

“อย่าเยอะ!” ไม่ได้กำหนดตายตัวว่า มากมายเหลือหลาย เพียงแค่ตักน้ำซุปเต็มปริ่มถึงขอบถ้วยก็เยอะแท้ คนที่แย่งตักแกงป่าจากงานวัดใส่เต็มปริ่มจนล้นหม้ออลูมิเนียม ไม่ถือว่าเยอะเพราะมัน “โคตรเยอะ ขนานแท้” 

ท่าไม่เชื่อก็ลองตามไปดูถึงบ้านก็ได้ เห็นแล้วจะแปลกใจ ในครัวมีสต๊อค อยู่อีกสองหม้อ! (ฮา)


คอลัมน์เปิดมุกปลุกหมอง โดย...ดร.สุรวงศ์ วัฒนกูล หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 4137