เปิดแนวรบ “คชา บราเธอร์ส” ปั้นแบรนด์สู่ Global F&B Company

กว่า 17 ปีในธุรกิจ Dessert ชื่อของ “คชา บราเธอร์ส” เป็นที่รู้จักในฐานะผู้บุกเบิกและพัฒนาร้านขนมหวานระดับพรีเมียมในประเทศไทย แน่นอนว่าทุกธุรกิจต้องเผชิญวิกฤต ฝ่าฟันอุปสรรคมานานัปการ แต่วันนี้ “ฤทธิ์ คิ้วคชา” ยังนำทัพธุรกิจ พร้อมกลับมาลุยเต็มรูปแบบอีกครั้ง โดยมี “เชฟเดช คิ้วคชา” ที่เป็นทั้งน้องชายและคู่คิดในการเดินหน้าขับเคลื่อน “คชา บราเธอร์ส” ในทศวรรษที่ 3 เพื่อพิชิตเป้าหมายการเป็น “Global F&B Company”

นายฤทธิ์ คิ้วคชา กรรมการผู้จัดการ บริษัท คชา บราเธอร์ส จำกัด Kyo Roll En, Jérôme Cheesecake, Oyatsu no Jikan และ Teraoka Gyoza และล่าสุดร้าน KAO NOM คาเฟ่ขนมไทยร่วมสมัย เปิดเผยว่า ปีนี้ถือเป็นปีที่สำคัญที่สุดของบริษัทเมื่อมีการเริ่มต้นโปรโจคใหญ่หลายเรื่อง เริ่มตั้งแต่การตั้งแผนกใหม่ “Gift” เพื่อจัดทำและจำหน่ายสินค้าของที่ระลึก

โดยเริ่มต้นสินค้าแรกจาก ขนมไหว้พระจันทร์ ซึ่งเป็นแบรนด์ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก และยังขยายรูปแบบสู่การรับจ้างผลิต (OEM) ให้กับองค์กรชั้นนำ เช่น ธนาคาร ประกันชีวิต สายการบิน โทรคมนาคม รวมถึงโรงแรมระดับ 5-6 ดาว และแบรนด์แฟชั่นลักชัวรี เป็นต้น

ทำให้ในปีหน้าบริษัทมีแผนขยายไลน์ผลิตสินค้าขนมไหว้พระจันทร์เพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว เพื่อรองรับตลาด ซึ่งอนาคตบริษัทจะคัดสรรสินค้าภายในร้าน พัฒนาเป็นสินค้าของที่ระลึกให้กับลูกค้าเลือกซื้อเพิ่มเติมด้วย

“ขนมไหว้พระจันทร์ Kyo Roll En ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา ล่าสุดบริษัทได้ขยายตลาดในประเทศสิงคโปร์ ถือเป็นแบรนด์ไทยแบรนด์แรกที่เข้าไปวางจำหน่ายผ่านตัวแทน หลังศึกษาและเตรียมความพร้อมมานานกว่า 2 ปี นอกจากนี้ยังมีการคอลแลปกับเชพดังของไทย ในการพัฒนาขนมไหว้พระจันทร์รสชาติใหม่ เพื่อให้ถูกปากกับชาวสิงคโปร์ เช่น รสมะพร้าว ฯลฯ ซึ่งในปีหน้าบริษัทมีแผนนำขนมไหว้พระจันทร์ไปขยายตลาดในประเทศเพื่อนบ้านด้วย”

ด้านการขยายตลาดต่างประเทศ ในเดือนตุลาคมนี้ บริษัทได้เซ็นสัญญาร่วมกับบริษัท Kolao (Kolao Group) ซึ่งเป็นบริษัทเอกชนที่ใหญ่ที่สุดในสปป. ลาว เพื่อนำลิขสิทธิ์ Master Franchise 3 แบรนด์ ได้แก่ Kyo Roll En, Kyo – Café & Meal และ Teraoka Gyoza ไปเปิดให้บริการในสปป. ลาว โดยสาขาแรกจะเปิดให้บริการในรูปแบบ Stand Alone ในย่านโพนสีนวน ใจกลางนครเวียงจันทร์ในวันที่ 10 ต.ค. นี้ โดยตั้งเป้าหมายที่จะเปิดให้ครบ 15 สาขาภายใน 3 ปี

นายฤทธิ์ กล่าวอีกว่า สำหรับการลงทุนในประเทศไทย บริษัทนำร่องการขยายธุรกิจในรูปแบบ Franchise ครั้งแรก ภายใต้แบรนด์ Kyo Roll En โดยสาขาแรกเปิดให้บริการที่ King Square พระราม 3 เปิดเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา และภายในสิ้นปีนี้มีแผนขยายสาขาที่เซ็นทรัล ปิ่นเกล้าและสยามพารากอน โดยบริษัทตั้งเป้าหมายที่จะขยายแบรนด์ Kyo Roll En ซึ่งเป็นแบรนด์หลัก 3-4 สาขาต่อปี

รวมทั้งการขยายแบรนด์อื่นๆ ทั้ง Jérôme Cheesecake ซึ่งล่าสุดบริษัทได้ซื้อแบรนด์มาเป็นของตัวเอง ทำให้สามารถขยายธุรกิจได้ทั่วโลก (ยกเว้นประเทศญี่ปุ่น) ซึ่งล่าสุดขยายสาขาใหม่ที่เซ็นทรัล พาร์ค เช่นเดียวกับร้าน KAO NOM (ข้าวนม) ที่เปิดสาขาแรกที่เซ็นทรัล พาร์ค เช่นกัน

โดยปัจจุบันบริษัทมีแบรนด์ในเครือรวมทั้งสิ้น 5 แบรนด์รวมกว่า 40 สาขา ทั้งแบรนด์ที่นำเข้าจากต่างประเทศ และแบรนด์ที่พัฒนาขึ้นเอง ซึ่งในปีนี้บริษัทมีแผนที่จะรีแบรนด์ “สฟรี” กลับมาทำตลาดอีกครั้ง หลังจากชะลอในช่วงที่เกิดการระบาดของโควิด-19 เพื่อตอบรับเทรนด์ผู้บริโภครุ่นใหม่ที่นิยมดูแลสุขภาพมากขึ้น โดยสฟรี สาขาใหม่จะเปิดให้บริการที่แฟชั่น ไอส์แลนด์ ในต้นปีหน้า นอกจากนี้บริษัทยังมีแผนนำเข้าแบรนด์ใหม่อีก 2 แบรนด์ภายในปีหน้าด้วย

“วันนี้เราเตรียมพร้อมด้วยระบบแบบมืออาชีพ ทีมงานที่มีศักยภาพ โมเดลธุรกิจที่ชัดเจน เพื่อรองรับการก้าวเข้าสู่ทศวรรษที่ 3 ของบริษัท ด้วยมุ่งหวังที่จะก้าวเข้าสู่ ‘Global F&B Company’ ซึ่งปีนี้ถือว่าเราโชคดี เพราะท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้ คงคาดหวังอะไรได้ยาก ขณะที่สาขาเดิมทรงตัว รายได้หลักจะมาจากการขยายแบรนด์ใหม่ หรือสาขาใหม่ๆ ทำให้เชื่อว่าภาพรวมของบริษัทในปีนี้ยังคงเติบโตได้ดีตามเป้าหมายที่วางไว้”

หน้า 16 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 4,134 วันที่ 25 - 27 กันยายน พ.ศ. 2568